โป๊ปเผยสวดขอพระทุกวันให้ประทาน “อารมณ์ขันดีๆ” ให้พระองค์
โป๊ปฟรานซิส เผย สวดขอพระเจ้าทุกวันโปรดประทาน “อารมณ์ขันดีๆ” ให้ตัวพระองค์ เพื่อจะเข้าหาสิ่งต่างๆด้วยใจชื่นบาน ทรงชี้ เสียงหัวเราะเป็น “โรคที่ติดต่อกันได้” และเป็น “ยาถอนพิษ” ที่ดีมากๆ เพราะการหัวเราะร่วมกัน มันส์กว่าการหัวเราะคนเดียว
Photo: Vatican Media
ช่วงสายวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงพบปะกับนักแสดงตลกกว่า 100 คนจากทั่วโลกที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน
พระสันตะปาปา เริ่มต้นด้วยการตรัสกับชื่นชมพวกเขาว่า สิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะตอนนี้ โลกอยู่ท่ามกลางข่าวร้ายมากมาย บรรดานักแสดงตลกมีพลังที่จะแผ่ขยายสันติภาพและรอยยิ้ม และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีความสามารถในการพูดคุยกับผู้คนทุกประเภท ไม่ว่าอายุและวัฒนธรรมจะต่างกันแค่ไหนก็ตาม
จากนั้น พระสันตะปาปาทรงชี้ว่า เสียงหัวเราะเป็น “โรคติดต่อ” และเป็น “ยาถอนพิษ” ที่ดีมากๆ พระองค์ตรัสว่า “ในความเป็นตัวเองของพวกท่าน ท่านได้รวมผู้คนเข้าด้วยกัน เพราะเสียงหัวเราะนั้นติดต่อกันได้ การหัวเราะร่วมกันนั้นง่ายกว่าการหัวเราะคนเดียว ความสนุกสนานเปิดใจเราให้แบ่งปัน และเป็นยาถอนพิษที่ดีที่สุดให้กับความเห็นแก่ตัวและการเห็นแต่ประโยชน์ของตนคนเดียว เสียงหัวเราะยังช่วยทำลายอุปสรรคทางสังคม”
พระสันตะปาปาผู้ทรงพระชนมายุ 87 ชันษา และยังเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเวลา เผยว่า พระองค์ทรงสวดภาวนาขอพระเจ้า โปรดประทาน “อารมณ์ขัน” ให้พระองค์ทุกวันด้วย
“พ่อชอบสวดภาวนาทุกวันด้วยถ้อยคำของนักบุญโทมัส มอร์ ที่กล่าวว่า ‘ขอพระองค์ประทานความรู้สึกอารมณ์ขันที่ดีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด พระเจ้าข้า’ พ่อขอสิ่งนี้ทุกวัน เพราะมันช่วยให้พ่อเข้าหาสิ่งต่างๆ ด้วยจิตวิญญาณที่ถูกต้อง”
“อารมณ์ขันไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ทำให้อับอาย หรือดูถูกผู้คนตามข้อบกพร่องของพวกเขา ในขณะที่การสื่อสารในปัจจุบันมักก่อให้เกิดความขัดแย้ง … เสียงหัวเราะของอารมณ์ขันไม่เคยต่อต้านใคร แต่เป็นการรวมเข้าด้วยกันเสมอ มีจุดมุ่งหมาย กระตุ้นให้เกิดการเปิดใจ ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าอกเข้าใจ”
แน่นอนการหัวเราะเป็นเรื่องดี แต่มีคำถามว่า “เราหัวเราะเยาะพระเจ้าได้ไหม” เรื่องนี้ พระสันตะปาปาอธิบายว่า “ได้” โดยยกตัวอย่างจากหนังสือปฐมกาลมาอธิบาย
พระสันตะปาปาตรัสว่า “เมื่อพระเจ้าสัญญากับอับราฮัมว่าภายในหนึ่งปีเขาจะมีบุตรชาย เขาและภรรยาของเขา แซร่าห์ ซึ่งชรามากแล้วและไม่มีบุตร แซร่าห์ฟังและหัวเราะในใจ อับราฮัมคงทำแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แซร่าห์ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายในวัยชรา ในเวลาที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ จากนั้นแซร่าห์กล่าวว่า ‘พระเจ้าทรงทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะ ทุกคนที่ได้ยินจะหัวเราะเยาะข้าพเจ้า’ (ปฐมกาล 21:6) นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาตั้งชื่อลูกชายว่าอิสอัค ซึ่งหมายถึง ‘เขาหัวเราะ’”
“เราหัวเราะเยาะพระเจ้าได้ไหม? แน่นอนว่าได้ เช่นเดียวกับที่เราเล่นและล้อเล่นกับคนที่เรารัก ปรีชาญาณและประเพณีวรรณกรรมของชาวยิวเป็นต้นแบบในเรื่องนี้ เป็นไปได้ที่จะทำเช่นนี้โดยไม่ทำร้ายความรู้สึกทางศาสนาของผู้เชื่อ โดยเฉพาะคนยากจน”
“เพื่อนที่รัก ขอพระเจ้าอวยพรท่านและศิลปะของท่าน จงสร้างความสดชื่นให้กับผู้คนต่อไป โดยเฉพาะผู้ที่มีเวลายากลำบากที่สุดในการมองชีวิตด้วยความหวัง ช่วยเรา ด้วยรอยยิ้ม ให้มองเห็นความเป็นจริงพร้อมกับข้อขัดแย้ง และฝันถึงโลกที่ดีกว่า” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย
Source
1. https://www.vatican.va/content/francesco/en/speeches/2024/june/documents/20240614-artisti-umorismo.html
Comments
Post a Comment