The Pope’s Dark Night of the Soul (ตอนจบ)

The Pope’s Dark Night of the Soul (ตอนจบ)

(บทความโดย แดเนี่ยล เบิร์ก, ถอดความโดย มงซินญอร์ วิษณุ ธัญญอนันต์)


บุคคลสุดท้ายที่ผม (หมายถึง
แดเนี่ยล เบิร์ก ผู้เขียนบทความ) เดินทางไปพบเพื่อไขปริศนาข้อสุดท้ายที่อยู่ในใจก็คือ คุณพ่อทิโมธี เคซิคกิ ประธานของสหพันธ์เยสุอิตที่กรุงวอชิงตัน ดีซี


ในขณะที่เราสนทนากันในสำนักงานของคุณพ่อเคซิคกิที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ท่านมักจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปหยิบหนังสือที่อธิบายสิ่งสำคัญๆ เกี่ยวกับเยสุอิต ก่อนที่เราจะพบกันท่านส่งหนังสือมาให้ผมเล่มหนึ่งเกี่ยวกับคู่มือสำหรับเจ้าคณะเยสุอิต เพื่อช่วยให้ผมเข้าใจการตัดสินใจที่ คุณพ่อฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ กระทำในฐานะที่เป็นผู้นำเยสุอิตและการตัดสินใจที่ผู้นำเยสุอิตตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน

ผมอ่านตอนหนึ่งเกี่ยวกับ “การผนึกใจและจิตเป็นหนึ่งเดียวกัน” แล้วถึงกับต้องเบิ่งตาโตธรรมนูญเยสุอิตที่เป็นการชี้นำระบุว่า

“ผู้ใดที่เล็งเห็นว่าเป็นต้นเหตุแห่งความแตกแยกระหว่างผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ทำตนเหินห่างจากเพื่อนสมาชิกหรือจากหัวหน้า ควรที่จะให้แยกออกจากคณะดุจโรคระบาด ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงหากมิได้แก้ไขอย่างทันควัน”


ดังนั้น ผมจึงคิดว่านั่นคือเหตุผลที่แบร์โกโญ่ถูกย้าย แม้ว่าท่านจะไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นที่ชัดเจนว่า แบร์โกโญ่เป็นเหตุให้เกิดการแตกแยกภายในคณะเยสุอิตแห่งประเทศอาร์เจนตินา

คุณพ่อเคซิคกิ กล่าวว่า นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโยกย้ายคน ลองถาม ซีอีโอ (CEO) ทางโลกคนไหนก็ได้ว่า งานที่ยากที่สุดของเขาคืออะไร คำตอบที่พวกเขาส่วนมากจะตอบก็คือเรื่องคน 


ขณะเดียวกัน เยสุอิตถูกเรียกร้องให้ต้องอยู่ในสังคม ในสี่แยกแห่งอุดมการณ์ ในสถานที่ซึ่งพระวาจาและโลกที่โค้งเข้าหากันหรือขัดแย้งกัน การโต้เถียงกันว่าจะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้


“เราอาจโต้แย้งว่า หากเขาไม่มีข้อขัดแย้งเหล่านี้ เขาก็ไม่ใช่เยสุอิตที่แท้จริง” คุณพ่อเคซิคกิ กล่าว


“ด้วยเหตุนี้ ความตึงเครียดจึงเป็นส่วนหนึ่งแห่งดีเอ็นเอ (DNA) ของเยสุอิตกระนั้นหรือ” ผมถาม

“เป็น DNA ของพระวรสาร” คุณพ่อเคซิคกิตอบ “คุณลองดูนักบุญเปโตรซิ ท่านตายบนไม้กางเขน แต่เป็นแบบกลับหัวลงพื้นดิน นี่เป็นเรื่องที่เปโตรตั้งใจอยากให้เป็นแบบนั้นมาก่อนหรือ”

ในการสัมภาษณ์ของเราก่อนหน้านี้ คุณพ่อเคซิคกิถามอะไรที่คล้ายกันว่า “ไม้กางเขนเป็นการเลื่อนตำแหน่งไหม”

คำถามนั้นก้องในหัวของผมอยู่สองสามวัน มันทำให้ผมคิดถึงแบร์โกโญ่ขณะที่ท่านอยู่ที่กอร์โดบา และการฝึกชีวิตฝ่ายจิตของเยสุอิตที่บีบให้ท่านทำตนเองให้สอดคล้องกับพระเยซูคริสต์ผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขน

ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของแบร์โกโญ่ ซึ่งท่านแสดงความประหลาดใจต่อหนังสือที่เกี่ยวกับ “เทววิทยาแห่งความล้มเหลว” ซึ่งเขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1978 โดยคุณพ่อจอห์น นาโวเน่ นักบวชเยสุอิตเชื้อสายอิตาเลี่ยน-อเมริกัน

นาโวเน่เสนอว่าตามประสามนุษย์พระเยซูคริสต์เป็นบุคคนที่ล้มเหลว พวกโรมันเกลียดพระองค์ รวมทั้งชาวยิวหลายคนก็เกลียดพระองค์ แม้แต่ครอบครัวของพระเยซูคริสต์ และผู้ที่ติดตามก็ไม่เข้าใจพระองค์อย่างที่ควรจะเข้าใจ ทว่าที่ร้ายแรงที่สุดคือพระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์ โดยเชื่อว่าพระองค์ถูกทอดทิ้งจากพระเจ้า และล้มเหลวในพันธกิจที่ได้รับจากพระเจ้า

แต่เรื่องยังไม่จบ เครื่องมือแห่งความตายและความสิ้นหวัง “ไม้กางเขน” กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการเสด็จกลับคืนชีพ มีชีวิตใหม่ และกางเขนตั้งอยู่อย่างสง่างามในวัดคริสต์จนนับไม่ถ้วน

ในปี ค.ศ. 2010 คาร์ดินัล ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ บอกนักข่าวสองคนว่า “หนังสือของนาโวเน่ทำให้ท่านไตร่ตรองถึงเรื่องของความเพียรทน พวกเราต้องอดทนต่อข้อจำกัดของพวกเราและข้อจำกัดของผู้อื่นด้วย”

ผมจึงไปสอบถามคุณพ่อจอห์น นาโวเน่ เกี่ยวกับอิทธิพลของท่านที่มีต่อความคิดของพระสันตะปาปา ฟรานซิส ผมถามท่านว่า “แบร์โกโญ่ผู้อดทนได้กลายเป็น พระสันตะปาปา ฟรานซิส ผู้อดทนอย่างไร” และผมยังถามคุณพ่อนาโวเน่อีกว่า “ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับการเนรเทศของแบร์โกโญ่มากน้อยแค่ไหน”


คุณพ่อนาโวเน่ ตอบว่า “ทราบทุกเรื่องเกี่ยวกับกอร์โดบา นั่นเป็นแสงสว่างชนิดหนึ่งในความมืดสำหรับท่านพระสันตะปาปา”

คุณพ่อนาโวเน่กับผมคุยกันเกี่ยวกับ “พระเมตตา” เป็นการยากเพียงใดที่จะให้อภัยผู้อื่น ถ้าหากบุคคลนั้นไม่คุ้นเคยกับความผิดของตนเอง เราคุยกันเกี่ยวกับพระสันตะปาปาที่เดินทางไปตามชายขอบสังคม เพราะว่าพระองค์ทรงถูกส่งไปยังที่เหล่านั้น แล้วเราก็คุยกันถึงสิ่งที่เป็นดุจเสรีภาพภายในของพระสันตะปาปา ฟรานซิส การที่พระองค์ปฏิเสธที่จะเกษียณไปตามความคาดหวังของผู้อื่น

แบร์โกโญ่ยอมรับเองว่า ตนไม่ใช่บุคคลที่ครบครันเมื่อท่านออกจากกอร์โดบา ท่านไม่ได้คืนดีกับเพื่อนเยสุอิต จนกระทั่งหลังจากที่พระองค์ได้รับการเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาในปี ค.ศ. 2013


ทั้งวิธีที่พระองค์สวดภาวนา คิด และกระทำล้วนมาจากการอบรมของคณะเยสุอิต และดุจเยสุอิตทุกคน ท่านเชื่อว่า การเป็นคนดีเรียกร้องอะไรที่มากไปกว่าการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และการหยอด 2-3 เหรียญลงในถุงทาน ความเชื่อเป็นวินัยประจำวันที่เรียกร้องให้มีการปฏิบัติชีวิตฝ่ายจิตเพื่อดวงวิญญาณ แม้กระทั่งเวลาที่ หรือโดยเฉพาะเวลาที่จิตวิญญาณของท่านกำลังเป็นทุกข์ 800 กว่ากิโลเมตรห่างไกลจากบ้าน และต้องอยู่แบบสันโดษในห้องเล็กๆ สีแดง

ผมไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับแบร์โญ่ในช่วงแห่งราตรีอันมืดมิดของท่านที่เมืองกอร์โดบา แต่เมื่อผมเห็นพระสันตะปาปาขณะนี้ที่พระองค์เทศน์ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร เรื่องพระเมตตากับคนบาปทุกประเภท ผมอดคิดไม่ได้ว่า เมื่อหวนกลับไปสมัยที่พระองค์ตกต่ำที่สุด คุกเข่าในความมืดในวัดน้อยตามลำพังกับพระเจ้าแห่งความประหลาดใจ ทุกอย่างล้วนมีจุดหล่อหลอมจากตรงนั้นจริงๆ


#PopeReport


The Pope’s Dark Night of the Soul

ตอน 1: https://www.facebook.com/popereport/posts/967440011609753

ตอน 2: https://www.facebook.com/popereport/posts/967834188237002


ตอน 3: https://www.facebook.com/popereport/posts/968034044883683


ตอน 4: https://www.facebook.com/popereport/posts/969209544766133

ตอน 5: https://www.facebook.com/photo?fbid=969833508037070

ตอน 6: https://www.facebook.com/photo?fbid=970177621335992


_______________


Source

1. https://edition.cnn.com/interactive/2015/09/specials/pope-dark-night-of-the-soul

Comments