DARK NIGHT OF THE SOUL (ตอน 5)

The Pope’s Dark Night of the Soul (ตอน 5)

(บทความโดย แดเนี่ยล เบิร์ก, ถอดความโดย มงซินญอร์ วิษณุ ธัญญอนันต์)




กอร์โดบาเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอาร์เจนตินา แต่เป็นสถานที่เนรเทศอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวสำหรับแบร์โกโญ่

ทำไมตอนที่ แบร์โกโญ่ อยู่ที่กอร์โดบา ถูกจัดเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก

บรรดาเพื่อนเยสุอิตของท่านมีคำอธิบายที่แตกต่างกัน

บ้างก็ว่าท่านถูกทำให้เสียหน้าด้วยการโดนกำจัดออกไปและได้รับหน้าที่ซึ่งไม่มีความสำคัญอะไร หรือว่าท่านได้สูญเสียเป้าหมายในชีวิตไปแล้ว บ้างก็ว่าท่านเห็นวิสัยทัศน์ของคณะเยสุอิตเพี้ยนไป หรือว่าท่านคิดถึงความคึกคักแสงสีเสียงของเมืองหลวงบัวโนสไอเรสมากจนเกินไป

คนที่ส่งแบร์โกโญ่ไปแดนเนรเทศกอร์โดบาคือผู้ใหญ่หมายเลขสองของเยสุอิตในอาร์เจนตินาในขณะนั้น แต่เขาคนนั้นปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่านั่นไม่ได้เป็นการลงโทษ

เขาคือคุณพ่ออิกญาโช่ การ์เซีย มาต้า กล่าวว่า “เหตุผลที่ย้ายสมาชิกเยสุอิตจากบ้านหนึ่งไปยังอีกบ้านหนึ่ง จากพันธกิจหนึ่งสู่อีกพันธกิจหนึ่ง นั่นเป็นวิธีปกติของคณะตั้งแต่เวลาที่นักบุญอิกญาซีโอตั้งคณะ”

ไม่มีเพื่อนคนใดของแบร์โกโญ่พูดออกมาว่า ที่จริงแล้วพวกผู้ใหญ่ในคณะไม่เคยพูดเกี่ยวกับการส่งตัวท่านไปกอร์โดบา มันคล้ายกับว่านี่คือเรื่องที่ไม่น่าจะเอามาพูดและเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุด

แต่ผม (หมายถึง แดเนี่ยล เบิร์ค ผู้เขียน) ได้พบ ฆาเวียร์ กามาร่า นักข่าวคาทอลิกใจศรัทธาที่เป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระสันตะปาปา ฟรานซิส และยังมีรูปถ่ายของพระองค์ทั่วบ้าน รวมทั้งภาพที่ตัวเขาและภรรยาไปพบพระสันตะปาปาปีที่แล้ว

กามาร่า บอกผมว่าแม้คาทอลิกใจศรัทธาของเมืองก็ไม่มีใครทราบกันว่า แบร์โกโญ่ใช้เวลาอยู่ที่เมืองกอร์โดบาในปี ค.ศ. 1990 ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในเวลานั้นแต่ไม่ค่อยเข้าสังคมกับใคร ตรงกันข้าม พระสันตะปาปา ฟรานซิส เคยบอกเขาว่านั่นเป็น “เวลาแห่งการชำระล้าง”

“มันเป็นเวลาแห่งความมืดมนเมื่อเรามองเห็นอะไรที่ไม่ชัดเจน พ่อสวดภาวนามาก พ่ออ่านและเขียนเรื่องการดำเนินชีวิตของตัวเอง สิ่งที่พ่อทำที่กอร์โดบา เป็นอะไรที่เกี่ยวกับชีวิตภายในของพ่อมากกว่า” พระสันตะปาปา ฟรานซิส เคยกล่าวกับ ฆาเวียร์ กามาร่า

พระสันตะปาปา ฟรานซิส ไม่ทรงเปิดเผยอะไรมากนักเกี่ยวกับความมืดมนภายในจิตใจของพระองค์ แต่นักข่าวชื่อดังอย่าง ฆาเวียร์ กามาร่า ก็มีเอกสารที่ทำให้เรามองเห็นสภาวะจิตใจของแบร์โกโญ่ในเวลานั้น

แบร์โกโญ่เขียนหลายเรื่องในช่วงที่อยู่กอร์โดบา เรื่องหนึ่งมีชื่อว่า “Silencio y Palabra” (ความเงียบและการพูด) หนังสือเหล่านี้ แบร์โกโญ่เขียนขึ้นเพื่อช่วยชุมชนนักบวชได้เอาชนะความไม่ลงรอยกัน


“เมื่อเราพบว่าตัวเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก บางครั้งการเงียบมิใช่เป็นการกระทำแห่งคุณธรรมชั้นสูง นั่นเป็นสิ่งเดียวที่บังคับไม่ให้เรามีทางเลือกในชีวิต การเงียบเป็นสิ่งดีที่สุด ความเงียบที่ถูกบังคับเช่นนี้ ก็สามารถกลายเป็นพระหรรษทานและพระพรได้”

เมื่อพูดถึง “การฝึกชีวิตฝ่ายจิต” การสวดภาวนาและการเพ่งพิศที่พระองค์เรียนรู้นับทศวรรษในฐานะที่เป็นนวกเยสุอิต แบร์โกโญ่ได้ไตร่ตรองถึงความแตกต่างระหว่าง “การสงสารตนเอง” กับ “การอุทิศตนเอง”


“สิ่งต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้ว่าเราตกเป็นเหยื่อของชีวิตฝ่ายจิตชนิดหนึ่ง” แบร์โกโญ่ เขียน “เมื่อไตร่ตรองแล้วทำให้ตัวเราต้องเจ็บปวดแบบไร้เหตุผล”


แบร์โกโญ่ เขียนสรุปว่า “วิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงจากความคิดฟุ้งซ่านก็คือจงสุภาพเข้าไว้ สวดภาวนาต่อไป และปล่อยให้พระเจ้ามีพื้นที่ที่จะทำงาน”

แต่อะไรล่ะจะเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าดูเหมือนจะไม่อยู่ในเหตุการณ์?

อีกหนึ่งบทความที่เต็มไปด้วยความเศร้า แบร์โกโญ่ได้เขียนขึ้นขณะอยู่ที่กอร์โดบา “El Exilio de Toda Carne” (The Exile of All Flesh - การเนรเทศของเนื้อหนังทั้งมวล) นี่เป็นบทความเริ่มต้นด้วยความคิดสำหรับการเข้าเงียบที่แบร์โกโญ่เป็นผู้นำในปี ค.ศ. 1990 


“บุรุษหรือสตรีที่รับผิดชอบด้วยมโนธรรมเกี่ยวกับการเนรเทศครั้งนี้ จะเป็นทุกข์สองเท่าของความว้าเหว่” แบร์โกโญ่เขียนไว้


พวกเขาจะรู้สึกสันโดษในฝูงชน จะเป็นบุคคลแปลกหน้าในต่างแดน แต่พวกเขาจะลิ้มรสแห่งความสันโดษฝ่ายจิตด้วย “นั่นเป็นความขมขื่นของความสันโดษต่อพระพักตร์พระเจ้า”

แบร์โกโญ่เขียนไว้ว่า ความรู้สึกที่ถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวจะรู้สึกรุนแรงมากในการสวดภาวนาเมื่อการเนรเทศทำให้ท่านต้องอยู่ห่างไกลจากผู้อื่น อยู่ในความเงียบแห่งวัดน้อยที่มืดมาก

การถูกเนรเทศยังทำให้รู้สึกความโดดเดี่ยวในการสวดภาวนาตัวคนเดียวด้วย แบร์โกโญ่เขียนว่า ประกาศกชาวฮีบรูรู้สึกความเจ็บปวดนี้ โดยอ้างถึงเจเรมีห์ที่บอกพระเจ้าว่า ท่านยังเด็กเกินไปที่ต้องมีความรับผิดชอบยิ่งใหญ่เช่นนั้น


ทว่าเจเรมีห์ก็พยายามทำพันธกิจของตนเอง โดยพยายามที่จะนำชาวฮีบรูให้ผ่านพ้นการเมืองที่ยุ่งเหยิง ในที่สุดผู้คนก็จดจำท่านได้เพียงแค่ “การต่อสู้ภายใน” และความขัดแย้งที่ท่านทิ้งไว้เบื้องหลัง แบร์โกโญ่เขียน

พันธกิจของเยเรมีห์ล้มเหลว ปล่อยให้ประชากรทรมานอยู่ในถิ่นเนรเทศ ร่ำไห้อยู่ริมแม่น้ำบาบีโลน

นักวิชาการบางคนบอกว่า แบร์โกโญ่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบ เมื่อไม่รู้ว่าจะกลับบ้านอย่างไร ประกาศกก็หันกลับไปหาที่พึ่งสุดท้ายคือการสวดภาวนา


“นี่คือการสวดภาวนาของชายที่ยอมอุทิศตนให้ทุกสิ่ง อย่างน้อย เขาต้องการให้พระเจ้าอยู่ข้างตน แต่ในชีวิตจริง บางทีดูเหมือนว่าพระเจ้าไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง” แบร์โกโญ่ เขียนอย่างสิ้นหวัง

(จบตอน 5 โปรดติดตามต่อตอนที่ 6)


The Pope’s Dark Night of the Soul 


ตอน 1: https://www.facebook.com/popereport/posts/pfbid02wagj5VjuBQJ2ke2vmRE8RDAkJauCjyz58pcdDEVAxFfaehzgLShi8kY8VuE3ergCl 


ตอน 2:

https://www.facebook.com/popereport/posts/pfbid02jJrXPk1yugRAzrPR5MLBRTYBrHFbe7vmaC67DdowyES2E1A9NKpfkiAmWpowaPMhl

ตอน 3:

https://www.facebook.com/popereport/posts/pfbid0fRLVNTPYFrbYFpe2u9n7b698ymgoT3SiCGewNZXdnQk7eNLY5iiKjnHNmdcCi3bXl

ตอน 4: https://www.facebook.com/popereport/posts/pfbid02jUgg9grzyi3GikwoTUE2uA6sU2yDmy2CSVxSHgU2yiriPPZXygQ5Zjjkze3tH7kBl


Source


1. https://edition.cnn.com/interactive/2015/09/specials/pope-dark-night-of-the-soul/


Comments