โป๊ปเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในกาซาและแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงอวยพรแด่โรมและโลก พร้อมทรงเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในกาซาและแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทรงขอให้ทุกคนปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นจากการทำแท้ง ความอดอยาก หรือการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ทรงให้กำลังใจทุกคนอย่าสิ้นหวังกับสันติภาพ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ถ้าเราเชื่อมั่นในพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพ
![]() |
Photo: Vatican Media |
เช้าวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาสมโภชปาสกา ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางผู้ร่วมพิธีกว่า 30,000 คน
มิสซานี้ พระสันตะปาปาไม่ได้เทศน์ แต่พระองค์ให้ผู้ร่วมพิธีทุกคนนิ่งสงบ เพื่อรำพึงไตร่ตรองพระวรสารเกี่ยวกับการเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซู การนิ่งสงบเช่นนี้เป็นวิถีปฏิบัติมานานแล้วซึ่งมันไม่เกี่ยวกับสุขภาพของพระสันตะปาปาแต่อย่างใด
หลังจากมิสซาจบลง พระสันตะปาปาได้เสด็จขึ้นไปยังระเบียงมหาวิหารนักบุญเปโตร เพื่อนำเป็นประธานในการประทานพร “อูร์บิ เอ็ด ออร์บิ” (แด่โรมและโลก) ซึ่งมีผู้มาร่วมรับพรกว่า 100,000 คน การประทานพรนี้ พระสันตะปาปาจะกระทำปีละ 2 ครั้งคือวันปาสกาและวันคริสต์มาส
พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นกล่าวว่า สันติภาพเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะพระเยซูทรงกลับคืนชีพจากความตาย พระองค์เท่านั้นที่มีฤทธานุภาพที่จะกลิ้งหินที่ปิดขวางทางที่นำไปสู่ชีวิต วันนี้ก็เช่นกัน หินก้อนใหญ่ที่ขวางกั้นความหวังของมนุษยชาติ เช่น ก้อนหินแห่งสงคราม ก้อนหินแห่งวิกฤตมนุษยธรรม ก้อนหินแห่งการละเมิดสิทธิมนุษยชน ก้อนหินแห่งการค้ามนุษย์ และก้อนหินอื่นๆ อีกมากมาย พวกเราก็เป็นเหมือนกับบรรดาศิษย์สตรีของพระเยซู ที่เราถามกันและกันว่า “ใครจะกลิ้งก้อนหินออกจากทางเข้าคูหาฝังศพพระเยซูให้เรา” แต่วิกฤติเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้เสมอ เพราะสิ่งที่เกิดในเช้าวันปาสกา พระเยซูทรงกลับคืนชีพจากความตาย พระองค์จะยุติปัญหาต่างให้เรา
พระสันตะปาปาจากคณะเยสุอิต ทรงให้กำลังใจประชาชนทั่วโลกที่หดหู่ใจจากสงครามในตะวันออกกลาง ยุโรป และอีกหลายแห่ง พระองค์กล่าวว่า ขอให้พระคริสตเจ้าผู้กลับคืนชีพทรงเปิดเส้นทางแห่งสันติภาพให้กับประชาชนที่ถูกสงครามทำลายชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นในอิสราเอล ปาเลสไตน์ และยูเครน พระองค์ทรงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายสากล
จากนั้น พระสันตะปาปาทรงเรียกร้อง “ให้มีการแลกเปลี่ยนนักโทษทั้งหมดระหว่างรัสเซียและยูเครนโดยทั่วไป เพื่อประโยชน์ของทุกคน” นอกจากนี้ พระองค์ทรงวอนขอผู้อำนาจของอิสราเอลให้มีการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซ่า และทรงเรียกร้องอีกครั้งต่อผู้นำฮามาสให้ปล่อยตัวนักโทษที่ถูกจับเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา และแน่นอนว่า พระสันตะปาปาทรงเรียกร้องให้มีหยุดการสู้รบและหยุดยิงโดยเร็วในกาซ่า
พระสันตะปาปายังกล่าวอีกว่า เราได้เห็นความทุกข์ทรมานมากมายในดวงตาของเด็กๆ ด้วยดวงตาเหล่านั้น พวกเขาถามเราว่า “ทำไมต้องมีความตายมากมายขนาดนี้ ทำไมต้องมีการทำลายล้างมากมายขนาดนี้” จำไว้ว่า “สงครามเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นความพ่ายแพ้เสมอ"
“สันติภาพไม่เคยเกิดขึ้นด้วยอาวุธ แต่ด้วยมือที่ยื่นออกมาและหัวใจที่เปิดกว้าง” พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ
นอกจากจะกล่าวถึงสงครามในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์และสงครามในยูเครนและรัสเซีย พระสันตะปาปายังกล่าวถึงสงครามในที่อื่นๆของโลก ไม่ว่าจะเป็นซีเรีย เลบานอน คาบสมุทรบอลข่าน ความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน เฮติ และแน่นอน พระองค์ไม่ลืมเมียนมาร์ ชาวโรฮิงญา และบังกลาเทศ ที่กำลังมีความรุนแรงเกิดขึ้น พระสันตะปาปายังกล่าวถึงสถานการณ์ในทวีปแอฟริกา เช่น ซูดานและแอฟริกาตะวันออก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โมซัมบิก
ช่วงท้าย พระสันตะปาปาทรงเรียกร้องให้ทุกคนเคารพชีวิตมนุษย์ หลายครั้งเราไม่เคารพชีวิตที่บริสุทธิ์ เราทำแท้ง เราปล่อยให้คนต้องอดตายด้วยความหิวโหย เราเมินเฉยต่อการตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดและความรุนแรง เราเมินเฉยต่อการค้ามนุษย์ พระสันตะปาปาทรงอ้อนวอนต่อผู้ที่มีความรับผิดชอบทางการเมืองว่า “โปรดอย่าละทิ้งความพยายามใดๆ ในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์อันน่ารังเกียจ”
Comments
Post a Comment