โป๊ปฟรานซิส: คริสต์มาสปีนี้คือโอกาสให้เราช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่ต่อว่าโรคระบาด

Photo: Vatican Media


การสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว 20 ธ.ค. 2020 -
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแบ่งปันพระวรสารตอนที่ทูตสวรรค์กาเบรียลมาแจ้งข่าวแก่แม่พระว่า ท่านจะตั้งครรภ์และต้องเป็นมารดาของพระเจ้า

พระสันตะปาปาชี้ให้เห็นว่า ตอนที่แม่พระทราบเรื่องนี้ แม่พระต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะตอบ YES หรือ No

การตอบ Yes จัดว่าเสี่ยงมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่าแม่พระยังหมั้นอยู่กับนักบุญโจเซฟ ถ้าถูกจับได้ว่าตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน จะอับอายและเจอบทลงโทษอย่างมาก

ถ้าตอบปฏิเสธ (No) มันก็ง่ายกับแม่พระ เพราะนี่คือการเลือกใช้ชีวิตตามปกติต่อไป

อย่างที่ทราบกัน แม่พระตอบ Yes (ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิดด้วย) นี่คือการตอบ Yes ด้วยการให้พระเจ้ามาเป็นอันดับแรก ตอบ Yes แบบหนักแน่นและไม่มีเงื่อนไข

ตัดกลับมาที่ตัวเราบ้าง พระสันตะปาปาบอกว่า หลายครั้งเหลือเกินที่เราสร้างเงื่อนไขกับพระเจ้า ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตฝ่ายจิต เราก็ชอบผลัดวันไปเรื่อย

ตัวอย่างชัดๆ เรารู้ว่าการสวดภาวนาเป็นเรื่องดี แต่เราก็อ้างว่า "ไม่มีเวลา พรุ่งนี้ค่อยสวดละกัน"

สิ่งสุดท้ายที่พระสันตะปาปาต้องการให้เราดูตัวอย่างจากแม่พระคือ "การตอบ Yes ตอบรับน้ำพระทัยของพระเจ้า โดยไม่ปริปากบ่น"

คริสต์มาส 2020 ควรเป็นเทศกาลแห่งความสุข แต่ตอนนี้หลายประเทศถูกสั่ง "ล็อคดาวน์" อันเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อิตาลีก็เป็นหนึ่งในนั้น

พระสันตะปาปาจึงเชิญชวนคริสตชนทุกคนให้พิจารณาสิ่งที่พระเจ้ากำลังเชื้อเชิญเราอยู่นี้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส จงอย่าโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่จงตอบ Yes กับพระเจ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ยากลำบากที่เกิดในเทศกาลคริสต์มาส 2020

แทนที่จะต่อว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสว่าทำให้เราไม่ได้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ พระสันตะปาปาบอกว่า ขอให้เราลงมือทำบางสิ่งเพื่อช่วยคนที่ไม่มีใครนึกถึงจะดีกว่า

และท้ายสุด พระสันตะปาปายังเตือนสติว่า อย่าปล่อยให้การยึดติดกับวัตถุสิ่งของ เช่น การห่วงแต่เรื่องซื้อของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ มาแย่งความชื่นชมยินดีต่อการบังเกิดของพระเยซูไปจากจิตใจของเรา

"การยึดติดกับวัตถุสิ่งของได้ขโมยคริสต์มาสไป ขอให้เราดูครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ซิว่า ในรางหญ้าที่เบ็ธเลเฮมวันนั้น เต็มไปด้วยความยากไร้และความรัก มิได้มีการยึดติดกับวัตถุสิ่งของเลย" พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย


Comments