โป๊ปฟรานซิส "พระเจ้าจะตัดสินเราจากสิ่งที่เราปฏิบัติต่อคนยากจน"

• สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน พระเจ้าจะตัดสินเราจากสิ่งที่เราปฏิบัติต่อคนยากจน ถ้าเราเมินเฉยคนจน พระเจ้าก็จะเมินเฉยเรา เพราะพระองค์ประทับอยู่กับคนยากจน 

• ทรงชี้ หน่วยงานการกุศลบางแห่งเอาเงินของคนจนมาใช้ รับบริจาคมา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ให้คนจนแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วน 60 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเอาไปจ่ายเงินเดือนพนักงานของตน

ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา ช่วงเริ่มพิธี พระสันตะปาปาทรงเชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้ต้องขังที่ถูกจองจำแบบแออัดเกินไปในสถานการณ์โรคระบาด พระสันตะปาปาหวังว่า บรรดาผู้คุมและผู้มีอำนาจในเรือนจำจะพบทางออกที่ถูกต้องและสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย

พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูไปร่วมงานเลี้ยงที่มี มาร์ธา, มารีอา และลาซารัส อยู่ด้วย มารีอาใช้น้ำมันหอมสมุนไพรบริสุทธิ์ราคาแพงชโลมพระบาทพระเยซู แต่ จูดาส อิสคาริโอท พูดขึ้นมาว่า "ทำไมไม่เอาน้ำมันหอมนี้ไปขายราคาสามร้อยเหรียญ แล้วนำเงินไปแจกให้คนยากจน" จูดาสพูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเขาห่วงใยคนยากจน แต่เพราะเขาเป็นขโมย เขาคือคนถือถุงเงินและยักยอกเงินในถุงนั้น พระเยซูจึงตรัสกับจูดาสว่า "ช่างเถิด ปล่อยให้นางเก็บน้ำมันหอมนี้ไว้สำหรับวันฝังศพของเรา คนยากจนนั้นอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอ"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "เรื่องราวของเจ้าหน้าที่ผู้บริหารที่ไม่ซื่อสัตย์มีให้เห็นบ่อยๆ และรอบตัวเราจริงๆ  แม้แต่ในพวกระดับสูงก็ตาม เราคิดถึงหน่วยงานการกุศลหรือมนุษยธรรมที่มีพนักงานจำนวนมากดูซิ ด้วยโครงสร้างองค์กรที่เต็มไปด้วยพนักงานและมีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของเงินบริจาคเท่านั้นที่ไปถึงมือคนยากจน ส่วนอีก 60 เปอร์เซ็นต์ต้องเอาไปจ่ายเป็นเงินเดือนจำนวนพนักงานเหล่านี้ นี่คือวิธีการเอาเงินมาจากคนยากจน

"พระเยซูตรัสว่า 'คนยากจนนั้นอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอ' เป็นเรื่องจริง แต่ที่เราเห็นคนยากจนตามท้องถนน มันเป็นแค่ยอดบนภูเขาน้ำแข็ง ยังมีคนยากจนอีกมากที่เรามองไม่เห็น นี่คือคนยากจนที่หลบซ่อนอยู่ เราไม่เห็นพวกเขาเพราะเรามีส่วนร่วมไปกับวัฒนธรรมของการเมินเฉยซึ่งปฏิเสธการมีอยู่ของเขา ดังนั้น เราจึงพูดว่า 'ไม่นะ พวกเขามีจำนวนไม่เยอะหรอก คุณก็ไม่เห็นว่ามันจะมีเยอะใช่ไหม' เราลดทอนความจริงของคนยากจน แต่ที่จริงแล้ว พวกเขามีจำนวนมาก และแม้แต่คนที่ไม่ได้เมินเฉยต่อการมีตัวตนของคนยากจนก็ยังมองคนยากจนเป็นเหมือนเครื่องประดับอย่างหนึ่งในตัวเมืองเหมือนกับรูปปั้น พวกเขาทำราวกับว่านี่เป็นเรื่องปกติ

"คำถามแรกที่พระเยซูจะตรัสถามในวันพิพากษาก็คือ 'ท่านดูแลคนยากจนอย่างไร ท่านเตรียมอาหารให้เขาไหม ท่านไปเยี่ยมผู้ต้องขังหรือเปล่า ท่านไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรือไม่ ท่านช่วยเหลือหญิงม่ายและเด็กกำพร้าหรือเปล่า เพราะเราอยู่ที่นั่นด้วย

"เราทุกคนจะถูกตัดสินจากสิ่งที่เราทำกับคนยากจน ถ้าเราเมินเฉยต่อคนยากจน ไม่สนใจและทำราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน พระเจ้าจะเมินเฉยเราในวันพิพากษาครั้งสุดท้าย เมื่อพระเยซูตรัสว่า 'คนยากจนนั้นอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอ' พระองค์กำลังตรัสว่า 'เราอยู่กับคนยากจนเสมอ เราจะอยู่ที่นั่น' นี่ไม่ใช่การแสดงออกเหมือนคอมมิวนิสต์ แต่นี่คือศูนย์กลางของพระวรสาร นั่นคือเราจะถูกตัดสินด้วยสิ่งนี้" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย