“ถ้าพระเลือกแล้ว ไม่ช้าก็เร็ว ก็ได้ทำงานให้พระแน่นอน”

14 ปีที่แล้ว (ค.ศ.2005) หลังสิ้นสุดสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 คณะพระคาร์ดินัลได้ทำการลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ที่ได้รับตำแหน่งคือ พระคาร์ดินัลโยเซฟ รัตซิงเกอร์ (สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16) ครั้งนั้น พระคาร์ดินัลรัตซิงเกอร์ ได้ 84 เสียง ส่วนคนที่ตามมาเป็นอันดับสองคือพระคาร์ดินัล ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ พระอัครสังฆราชแห่งบัวโนวไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า ซึ่งได้ 26 เสียง การเลือกตั้งพระสันตะปาปาในปี 2005 ใช้เวลาเพียง 2 วัน กล่าวคือ มีการลงคะแนนทั้งหมด 4 รอบ และทั้ง 4 รอบ คนที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งและอันดับสองก็คือ พระคาร์ดินัลรัตซิงเกอร์ และ พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่





8 ปีต่อมา (ค.ศ.2013) หลังจากปฏิบัติหน้าที่พระสันตะปาปาสุดความสามารถ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ก็ประกาศสละตำแหน่งแบบช็อกคนทั่วโลก โดยทรงให้เหตุผลว่า ด้วยพละกำลังและสุขภาพที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ในวัย 85 ชันษา พระองค์ไม่สามารถนำพาพระศาสนจักรคาทอลิกได้อีกต่อไป

การสละตำแหน่งของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ “ปาปาบิเล” (Papabile) หรือพระคาร์ดินัลตัวเต็งที่จะได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ได้แก่ พระคาร์ดินัลอันเจโล่ สโคล่า อัครสังฆราชแห่งมิลาน อิตาลี หนึ่งในลูกศิษย์ของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16, พระคาร์ดินัลโอดิล เปโดร แชเรอร์ อัครสังฆราชแห่งเซา เปาโล บราซิล, พระคาร์ดินัล ฌอน โอมัลลี่ย์ อัครสังฆราชแห่งบอสตัน สหรัฐอเมริกา, พระคาร์ดินัลคริสโตฟ โชนบอร์น อัครสังฆราชแห่งเวียนนา ออสเตรีย อีกหนึ่งศิษย์เอกของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 เช่นกัน รวมไปถึง พระคาร์ดินัลมาร์ก อวยเล็ต ประธานสมณกระทรวงเพื่อพระสังฆราช

จะเห็นได้ว่า รายชื่อปาปาบิเลที่กล่าวมา ไม่มีชื่อของ พระคาร์ดินัล ฆอร์แค่ แบร์โกโญ่ ผู้ที่ได้คะแนนอันดับสองในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาครั้งที่แล้ว สาเหตุที่สื่อมวลชนมองข้ามพระคาร์ดินัลชาวอาร์เจนไตน์ ไม่มีอะไรซับซ้อนนอกจาก “อายุเยอะเกินไป” นั่นเอง (ปี 2013 แบร์โกโญ่ อายุ 76 ปี)

การเลือกตั้งพระสันตะปาปาปี 2013 มีพระคาร์ดินัลที่เข้าร่วมการเลือกตั้งทั้งหมด 115 คน ผู้ที่เสียง 2 ใน 3 หรือ 77 เสียงขึ้นไป จะได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ (จริงๆ พระคาร์ดินัลที่มีสิทธิ์ลงคะแนน มี 117 คน แต่ 2 คนที่ไม่มาร่วมลงคะแนน ได้แก่ พระคาร์ดินัลจูเลียส ริยาด ดาร์มาอัตมัตยา อัครสังฆราชแห่งจาการ์ต้า อินโดนีเชีย ซึ่งกำลังป่วย และ พระคาร์ดินัล คีธ โอไบรอัน อัครสังฆราชแห่งเซนต์แอนดรูว์และเอดินเบอระห์ สกอตแลนด์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ และต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่ง)

วันที่ 12 มีนาคม 2013 การเลือกตั้งพระสันตะปาปาได้เริ่มขึ้นเป็นวันแรก ผลการลงคะแนนรอบที่หนึ่ง ปรากฏผลดังนี้

- พระคาร์ดินัลสโคล่า 30 เสียง
- พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ 26 เสียง
- พระคาร์ดินัลอวยเล็ต 22 เสียง
- พระคาร์ดินัลโอมัลลี่ย์ 10 เสียง
- พระคาร์ดินัลเชเรอร์ 4 เสียง
- ที่เหลือ คละคะแนนกันไป

ดูจากผลคะแนนรอบแรกแล้ว คำถามที่ทุกคนอยากรู้คือ “พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ กลับมาอีกแล้วเหรอ” เรื่องนี้ เจอร์ราร์ด โอคอนเนลล์ เล่าในหนังสือ The Election of Pope Francis: An Inside Account of the Conclave That Changed History ว่า กลุ่มพระคาร์ดินัลที่สนับสนุนพระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ได้แก่ พระคาร์ดินัล ออสวัลด์ กราซีอัส (อินเดีย), พระคาร์ดินัลวอลเตอร์ แคสเปอร์ (เยอรมนี), พระคาร์ดินัลโลร็องต์ มงส์เว็นโก ปาแซ็งญ่า (คองโก), พระคาร์ดินัลออสการ์ โรดริเกซ มาราเดียก้า (ฮอนดูรัส), พระคาร์ดินัลปีเตอร์ เติร์กสัน (กานา) และพระคาร์ดินัลฌอง-หลุยส์ โตร็อง (ฝรั่งเศส) 

เช้าวันที่ 13 มีนาคม 2013 พระคาร์ดินัล 115 คนลงคะแนนรอบสอง ผลปรากฏว่า ยังไม่มีใครได้ถึง 77 เสียง

- พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ 45 เสียง
- พระคาร์ดินัลสโคล่า 38 เสียง
- พระคาร์ดินัลอวยเล็ต 24 เสียง
- ที่เหลือคละกันไป

ช่วงสายประมาณ 11.39 น. การลงคะแนนรอบที่สาม ผลปรากฏว่า

- พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ 56 เสียง
- พระคาร์ดินัลสโคล่า 41 เสียง
- ที่เหลือคละกันไป

ถึงตรงนี้ ยังไม่มีใครที่ได้ 77 เสียง ส่งผลให้ควันสีดำจากการเผาบัตรลงคะแนนลอยออกจากปล่องควันของวัดน้อยซิสติน การลงคะแนนในรอบสองและสาม เราเริ่มเห็นเค้าโครงแล้วว่า บรรดาพระคาร์ดินัลเริ่มมีกรอบความคิดที่ชัดเจนแล้วว่า จะเลือกใครระหว่าง แบร์โกโญ่ หรือ สโคล่า 

หลังจากนี้ บรรดาพระคาร์ดินัลออกจากวัดน้อยซิสตินกลับไปพักเที่ยงที่หอพักซานตา มาร์ธา เพื่อทานอาหารและพักผ่อนช่วงบ่าย บางคนเลือก “ซีเอสต้า” หรืองีบหลับตอนกลางวัน

กระนั้น กลุ่มพระคาร์ดินัลชาวอิตาเลี่ยนซึ่งรวมไปถึงพระคาร์ดินัลสโคล่า เลือกจะประชุมกันตอนบ่าย ระหว่างนั้นเอง พระคาร์ดินัลสโคล่าก็พูดกับกลุ่มพระคาร์ดินัลอิตาเลี่ยนที่ลงคะแนนให้กับตนว่า “ครั้งต่อไป ขอให้ทุกคนลงคะแนนให้พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่” พระคาร์ดินัลกลุ่มนี้พยายามคัดค้านความต้องการของสโคล่า เพราะพวกเขาไม่อยากให้ สโคล่า ถอดใจ พระคาร์ดินัลกลุ่มนี้ ประกอบไปด้วย อันเจโล่ บาจนาสโค่ (เจนัว), จูเซ็ปเป เบโตรี่ (ฟลอเร็นซ์) และ คาร์โล คัฟฟาร์ร่า (โบโลญญ่า) 

ว่ากันว่า คำขอของ พระคาร์ดินัลสโคล่า เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการลงคะแนนครั้งที่สี่ ซึ่งจะเกิดขึ้นช่วงเย็นของวันนี้

บ่ายนี้เอง ขบวนการปล่อยข่าวขัดขวางไม่ให้ “เยสุอิต” เป็นพระสันตะปาปาก็เริ่มขึ้นแบบเงียบๆ 

ข่าวแรกที่เกิดการซุบซิบในกลุ่มพระคาร์ดินัลก็คือ “พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ มีปัญหาสุขภาพ เพราะเหลือปอดข้างเดียว” … พระคาร์ดินัลมาราเดียก้า (ฮอนดูรัส) และพระคาร์ดินัลซานโต๊ส อาบริล กาสเตโย่ (สเปน) ซึ่งสนับสนุนพระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ถึงกับตกใจจนต้องเดินมาถามความจริงกับเจ้าตัวแบบตรงๆ เรื่องนี้ พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ปฏิเสธทันทีว่าไม่มีปัญหาสุขภาพ แต่ยอมรับว่า เมื่อปี 1957 ตนเคยเข้ารับการผ่าตัดปอดตอนอายุ 21 ปี แพทย์เอาปอดออกหนึ่งข้างจริง แต่จนถึงปัจจุบัน ปอดข้างเดียวที่เหลืออยู่ ก็ยังทำงานได้ตามปกติ ไม่ทำให้ตนต้องเจ็บป่วยแต่อย่างใด

ข่าวลือที่สองที่พยายามสกัดกั้นแบร์โกโญ่ก็คือ “แบร์โกโญ่เป็นพวกเดียวกับเผด็จการทหารที่ปกครองอาร์เจนติน่าระหว่างปี 1976-1983” … เรื่องนี้ พระคาร์ดินัลคาร์ล เลห์มันน์ (เยอรมนี) ร้อนใจมากถึงกับต้องรีบไปสอบถามความจริงจากพระคาร์ดินัลเคลาดิโอ อูมส์ (บราซิล) ซึ่งรู้จักพระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่เป็นอย่างดี เพราะทำงานในภาคพื้นอเมริกาใต้ร่วมกัน คำตอบที่พระคาร์ดินัลเลห์มันน์ได้รับก็คือ “ข่าวลือนั้น เหลวไหลทั้งเพ!”

ตัวของพระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ เหมือนจะรู้อนาคตตัวเองเช่นกัน เนื่องจากบ่ายวันนี้พระคาร์ดินัลคนอื่นๆ เข้ามาพูดคุยสอบถามเรื่องต่างๆ มากผิดปกติ หลังจากใช้เวลาหลังอาหารเพื่อตอบข้อสงสัยหมดแล้ว พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ก็ขอเวลาไปงีบหลับเอาแรงสำหรับการเลือกตั้งรอบที่สี่

ในที่สุด ก็มาถึงเวลาเย็น การเลือกตั้งรอบที่สี่ก็เริ่มขึ้น พระคาร์ดินัล 115 คนกลับเข้าสู่วัดน้อยซิสติน และผลโหวตปรากฏว่า

- พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ 67 เสียง
- พระคาร์ดินัลสโคล่า 32 เสียง
- พระคาร์ดินัลอวยเล็ต 13 เสียง
- ที่เหลือคละกันไป

ทว่า มีข้อผิดพลาดทางเทคนิคเกิดขึ้น เมื่อพระคาร์ดินัลมี 115 คน แต่กระดาษลงคะแนนที่นับดันมี 116 ใบ เพราะดันมีคนไปโหวตซ้ำกัน ดังนั้น เพื่อตัดปัญหา จึงต้องลงคะแนนใหม่อีกรอบ

ณ จุดนี้ พระจิตทรงทำงานอย่างชัดเจนแล้ว …

ในการลงคะแนนรอบที่ห้า เมื่อชื่อ “แบร์โกโญ่” ถูกกล่าวออกมาเป็นครั้งที่เจ็ดสิบเจ็ด เสียงปรบมือก็ดังสนั่นวัดน้อยซิสติน เพราะนั่นหมายความว่า พระคาร์ดินัลมีมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่า พระสันตะปาปาองค์ใหม่เป็นใคร ผลการลงคะแนนรอบที่ห้า ปรากฏดังนี้ 

- พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ 85 เสียง
- พระคาร์ดินัลสโคล่า 20 เสียง
- พระคาร์ดินัลอวยเล็ต 8 เสียง
- ที่เหลืออีก 2 คะแนน เป็นของพระคาร์ดินัล 2 คน

สิ้นสุดการนับคะแนน พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ลุกขึ้น และเดินไปยัง พระคาร์ดินัลสโคล่า เพื่อสวมกอดกัน 

หลังจากนั้น ทุกอย่างกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับพระสันตะปาปาองค์แรกจากลาตินอเมริกา และเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่มาจากคณะเยสุอิต 

-----------------------------------------------------

เรื่องราวการเลือกตั้งพระสันตะปาปา 2013 สอนอะไรเราได้หลายอย่าง

1) ถ้าพระเจ้าเลือกใครแล้ว ไม่ช้าก็เร็ว ผู้ที่ถูกเลือกก็ต้องได้ทำงานให้กับพระอยู่ดี ดูอย่าง พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ เป็นตัวอย่างได้เลย

2) เป็นอีกครั้งที่ “มนุษย์มองแบบนี้ แต่พระเจ้ามองต่างออกไป” มนุษย์คาดการณ์ “ปาปาบิเล” กันไปเรื่อย แต่ผลสุดท้าย คนๆ นั้น กลับเป็นคนที่ถูกมองข้ามไปเพราะหลายคนคิดว่า เขาแก่เกินไป

3) คำนินทาและแผนใส่ร้ายป้ายสีทำอะไรเราไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นตามที่เขากล่าวหาและเรามีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวเข้มแข็งจริงๆ