โป๊ปฟรังซิส: "เวลาทำผิด เราต้องรู้จักโทษตัวเองก่อน ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น"

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เวลาทำผิด เราต้องรู้จักโทษตัวเองก่อน ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น 
  • ทรงถาม คนที่เอาแต่โทษคนอื่น เวลาไปแก้บาป สารภาพบาปผิดอะไรบ้าง ใช่บอกแบบนกแก้วที่พูดส่งๆ ไปหรือเปล่า สารภาพบาปแบบนั้นแล้วจิตใจสำนึกบ้างไหม
  • ทรงย้ำ เครื่องหมายความอัปลักษณ์เกิดเวลาที่เราเอาแต่โทษคนอื่น แต่ไม่โทษตัวเอง เช่นเดียวกับเวลาที่เราเอาแต่สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน 

Photo: Vatican Media


เราต้องรู้จักโทษตัวเองก่อน ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น

นิสัยของคนเรา เวลาทำผิด ชอบโทษคนอื่นไว้ก่อน โดยไม่มองว่าตัวเองผิดแม้แต่น้อย ซึ่งบางครั้ง ตัวผมเองก็เป็นแบบนั้น แต่วันนี้ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เชิญชวนเราไตร่ตรองตัวเองอีกครั้ง โดยทรงสอนว่า เราต้องรู้จักโทษตัวเอง ไม่ใช่โทษคนอื่น

บทแบ่งปันดังกล่าวเกิดในมิสซาเช้าประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูสั่งซีโมนเปโตรให้แล่นเรือออกไปที่ลึก และเขาก็จับปลาได้จำนวนมาก หลังจากก่อนหน้านั้นทั้งคืน พวกเขาจับปลาไม่ได้เลย จากนั้น เปโตรทูลพระเยซูว่า "โปรดไปจากข้าพเจ้าเถิด เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป"

พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า การที่เปโตรยอมรับว่าความผิดบกพร่องของตนเองว่าเป็นคนบาป มันต่างจากศิษย์คนอื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะคนอื่นไม่โทษตัวเองเลย แต่เปโตรโทษตัวเองก่อน ถ้าเราต้องการความก้าวหน้าของชีวิตฝ่ายจิต ต้องการความก้าวหน้าในการติดตามพระเยซู เราต้องรู้จักโทษตัวเองก่อน ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น

มันมีคนที่ดำเนินชีวิตไปเรื่อยด้วยการพูดถึงแต่คนอื่น โทษคนอื่น และไม่เคยมองบาปผิดของตัวเองเลย เมื่อเราไปแก้บาป เราบอกบาปอย่างไรล่ะ บอกแบบนกแก้วเหรอ บอกแบบว่า 'ผมทำบาปโน่น บาปนี่' การสารภาพบาปแบบนี้มันทำให้เราสำนึกผิดต่อบาปที่ทำไหม หลายครั้งมันไม่น่าจะเกิดการสำนึกนะ! มันกลายเป็นว่า เราไปแก้บาปเพื่อปกปิดเพื่อให้ตัวเองดูดีมากกว่า แต่การสำนึกผิดไม่เคยเข้าไปในจิตใจเราเลย เพราะเราไม่มีที่ว่างให้กับการโทษตัวเองว่าผิดเลย

พระสันตะปาปา ยังเชิญเราไตร่ตรองต่อในตอนท้ายบทเทศน์ว่า คริสตชนที่ไม่รู้จักการกล่าวโทษตัวเองเมื่อตนไปกล่าวโทษหรือพูดนินทาคนอื่น คริสตชนที่เอาแต่สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน สิ่งเหล่านี้คือเครื่องหมายของความอัปลักษณ์ เราทำแบบนั้นหรือเปล่า นี่เป็นคำถามที่ดีที่เราควรถามตัวเอง


จงแยกแยะการหยุดพักที่แท้จริงกับแบบจอมปลอม

อีกสิ่งที่ Pope Report อยากนำมาแบ่งปันคือบทเทศน์สอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป เมื่อวันพุธที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน

พระสันตะปาปาทรงสอนว่า คริสตชนต้องรู้จักการแยกแยะการพักผ่อนที่แท้จริงกับการพักผ่อนแบบจอมปลอม สังคมยุคนี้กระหายหาความบันเทิงและวันหยุดพักเยอะมาก รูปแบบภาพลักษณ์นี้คือภาพของคนที่ประสบความสำเร็จในการใช้เงินจัดหาความสุขมาสนองตัวเอง แต่การหยุดพักแบบนี้เป็นการหยุดพักแบบไม่เที่ยงแท้ มันทำให้เราหลีกหนีความจริง มนุษย์ไม่เคยหยุดพักมากเท่ายุคนี้มาก่อน แต่การหยุดพักที่แท้จริงคือการหยุดจากทุกสิ่ง แล้วหาความสงบนิ่งไตร่ตรองภาวนา และสรรเสริญพระเจ้า นี่คือการหยุดพักที่แท้จริงเพื่อขอบคุณพระองค์สำหรับชีวิต ความเมตตา และพระพรที่ประทานให้เรา