โป๊ปฟรังซิสแนะคาทอลิกต้องตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทุกวัน ส่วนพระศาสนจักรคาทอลิกเอเชียเริ่มมีปฏิกิริยาต่อเหตุสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คาทอลิกต้องตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทุกวัน อย่าปล่อยให้แต่ละวันผ่านไปโดยไม่แยกแยะความดีความชั่ว เพราะเราไม่ใช่สัตว์ที่ทำสิ่งต่างๆ ตามสัญชาตญาณแต่ไม่รู้ความหมาย ตรงกันข้าม เราเป็นคน เราต้องแยกแยะความดีความชั่วให้ออก
  • พระคาร์ดินัล ออสวัลด์ กราซีอัส ประธานสหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเชีย (FABC) ประกาศชัด พระศาสนจักรคาทอลิกในเอเชีย ยืนเคียงข้างสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากพระองค์ถูก พระอัครสังฆราช คาร์โล มารีอา วิกาโน่ อดีตสมณทูตวาติกันประจำสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้พระสันตะปาปาลาออก จากการเมินเฉยต่อการลงโทษ พระคาร์ดินัล เธียดอร์ แม็คแคร์ริค อดีตพระอัครสังฆราชแห่งวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา จากกรณีที่พระคาร์ดินัลคนนี้ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ
  • พระอัครสังฆราช วิลเลี่ยม โก๊ะห์ ประมุขอัครสังฆมณฑลสิงคโปร์ ออกจดหมายเปิดผนึก ยอมรับ คาทอลิกสิงคโปร์อับอายต่อเหตุการณ์พระคาร์ดินัลชาวอเมริกันก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ และยิ่งรู้สึกแย่ขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า ผู้นำพระศาสนจักรบางคนได้สมรู้ร่วมคิดกับคดีเหล่านี้ ด้วยการจงใจปกปิดเรื่องอื้อฉาวเพื่อปกป้องพวกพ้องของตน


เราต้องตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทุกวัน





ช่วงเช้าวันอังคารที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งถูกจิตของปีศาจร้ายเข้าสิง และตะโกนถามพระเยซูว่า "ท่านมายุ่งกับเราทำไม" พระเยซูทรงดุและสั่งปีศาจให้เงียบและออกไปจากตัวของชายคนนี้ ที่สุดแล้ว ปีศาจก็ออกไป ผู้คนที่นั่นต่างประหลาดใจและถามกันว่า "วาจานี้คือสิ่งใด จึงมีอำนาจและอานุภาพบังคับปีศาจร้าย และมันก็ออกไป" ส่วนบทอ่านประจำวันนี้ นักบุญเปาโลสอนให้คริสตชนเมืองโครินธ์มีความคิดเหมือนกับพระเยซู ซึ่งแนวทางนี้ได้รับการเผยแสดงจากพระจิตผู้ทรงนำเราให้รู้จักพระเยซู เพื่อที่เราจะได้เข้าใจหัวใจของพระองค์

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า เราทุกคนมีสองจิตตารมณ์ในตัวเอง หนึ่งคือจิตตารมณ์ที่ทำเราไปสู่จิตของพระเจ้า และอีกอันคือจิตที่นำเราไปหาจิตตารมณ์ทางโลก จิตตารมณ์ของพระเจ้าจะนำเราให้ทำแต่สิ่งดี เกิดความเป็นพี่น้องกัน สรรเสริญพระเจ้า รู้จักพระเยซู ส่วนจิตตารมณ์ทางโลกจะนำเราไปสู่ความหยิ่งยะโส อวดตัว เห็นแก่ตัว และนินทา สองจิตตารมณ์นี้ต่างกันสิ้นเชิง เหมือนที่นักบุญท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า หัวใจของเราเหมือนกับสนามรบนั่นแหละ มันคือสมรภูมิที่สองจิตตารมณ์นี้ปะทะกัน

พระสันตะปาปาชาวอาร์เจนไตน์ ยังสอนอีกว่า เราต้องต่อสู้เพื่อสร้างที่ว่างให้กับจิตตารมณ์ของพระเจ้า และต้องขับไล่จิตตารมณ์ทางโลกออกไปจากใจเรา เราต้องทำการตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทุกวัน เพราะสิ่งนี้จะช่วยเราให้ระบุถึงการประจญล่อลวงต่างๆ ทุกๆ คืน เราต้องคิดถึงสิ่งที่ผ่านไปในวันนั้น และระบุให้ได้ว่า ความหยิ่งยะโสและทะนงตนมันชนะใจเราหรือไม่ หรือว่าเราชนะใจตนเองด้วยการดำเนินชีวิตตามแบบฉบับของพระเยซู เราทุกคนเป็นลูกของพระเจ้า เราไม่ใช่สัตว์ที่ทำสิ่งต่างๆ ตามสัญชาตญาณแต่กลับไม่เข้าใจความหมายอะไรเลย เราเป็นลูกของพระเจ้าที่ได้รับศีลล้าง ดังนั้น มันจึงสำคัญมากที่เราต้องตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทุกวัน

พระศาสนจักรคาทอลิกในเอเชียยืนข้างพระสันตะปาปา





พระคาร์ดินัล ออสวัลด์ กราซีอัส ประธานสหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเชีย (FABC) ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่ พระอัครสังฆราช คาร์โล มารีอา วิกาโน่ อดีตสมณทูตวาติกันประจำสหรัฐอเมริกา ออกมาเรียกร้องให้ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส “ลาออก” จากการเมินเฉยต่อการลงโทษ พระคาร์ดินัล เธียดอร์ แม็คแคร์ริค อดีตพระอัครสังฆราชแห่งวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา จากกรณีที่พระคาร์ดินัลคนนี้ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อสงฆ์และเณรในอเมริกา

พระคาร์ดินัลชาวอินเดียซึ่งเป็นประธานเอฟเอบีซี กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่พระสันตะปาปา ฟรังซิส "ไม่ตอบโต้" คำกล่าวหาของพระอัครสังฆราชวิกาโน่ และกลุ่มที่สนับสนุนวิกาโน่ พร้อมทั้งฝากไปยัง พระอัครสังฆราชวิกาโน่ ด้วยว่า "หวังว่า ตอนนี้ ท่านวิกาโน่จะเข้าใจแล้วว่า การออกมากล่าวหากันแบบนี้ มันทำร้ายพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างร้ายแรงเพียงใด" (ร้ายแรงถึงขั้นว่า คาทอลิกเสียงแตกเป็นสองขั้ว และปะทะคารมทางความคิดอย่างรุนแรง จนลามไปถึงพระสังฆราชแบ่งฝ่ายกันเลยทีเดียวว่า สนับสนุนพระสันตะปาปาหรือสนับสนุนวิกาโน่)

ตอนท้าย พระคาร์ดินัลกราซีอัส ย้ำว่า พระศาสนจักรคาทอลิกในเอเชีย ยืนหยัดเคียงข้างพระสันตะปาปา ฟรังซิส 100 เปอร์เซ็นต์


คาทอลิกสิงคโปร์ "อับอาย" ต่อเหตุสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในพระศาสนจักร





พระอัครสังฆราช วิลเลี่ยม โก๊ะห์ แห่งอัครสังฆมณฑลสิงคโปร์ ออกจดหมายต่อเหตุการณ์สงฆ์คาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศที่เป็นปัญหาลุกลามไปทั่วโลก ใจความว่า คาทอลิกสิงคโปร์รู้สึกอับอายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยิ่งรู้สึกแย่ขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า ผู้นำพระศาสนจักรบางคนได้สมรู้ร่วมคิดกับคดีเหล่านี้ ด้วยการจงใจปกปิดเรื่องอื้อฉาวเพื่อปกป้องพวกพ้องของตน

พระอัครสังฆราชชาวสิงคโปร์ ยังยอมรับว่า ตนเข้าใจได้ที่คาทอลิกหลายคนหันหลังให้พระศาสนจักรเพราะเรื่องเหล่านี้ นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่เกิดทำลายความน่าเชื่อถือของพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างมาก และตอนนี้ พระศาสนจักรคาทอลิกกำลังทนทุกข์จากบาดแผลอย่างมาก เพราะหมาป่าได้แฝงตัวเข้ามาในพระศาสนจักรในรูปแบบของหนังแกะแล้ว