โป๊ปฟรังซิสเตือน "ผู้อภิบาลต้องอย่าลืมรากเหง้าของตนว่าพระเยซูเรียกให้มาติดตามพระองค์อย่างไร"

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนสติ เมื่อศิษย์พระเยซูหลงลืมรากเหง้าและจุดเริ่มต้นที่พระเยซูทรงเรียกเขาให้มาติดตาม เขาคนนั้นก็ไม่ใช่ผู้อภิบาล แต่เป็นเพียง "เจ้าพนักงาน" ที่อาจทำงานได้ดี เป็น "นักเจรจาจอมวางแผนให้โครงการอภิบาลของพระเจ้า" แต่เขาไม่ใช่ศิษย์พระเยซู เพราะเขาไม่สามารถถ่ายทอดพระองค์ให้คนอื่นได้
  • ทรงสอน การที่เรามองข้ามบาปของตัวเอง แล้วไปจดจ่อกับบาปคนอื่น ยุ่งแต่เรื่องชาวบ้าน นี่เป็นนิสัยที่เลวร้ายมาก
  • พระสันตะปาปา ทรงอนุมัติจดหมายลาออกของสังฆราชคาทอลิกชิลีอีก 2 คน ทำให้ตอนนี้ สังฆราชคาทอลิกชิลี ลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการไปแล้ว 7 คน จากคดีปกปิดเรื่องสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในสังฆมณฑลของตน
  • แม้ก่อนหน้านี้ พระสังฆราชคาทอลิกชาวชิลี 34 คน ได้พร้อมใจยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งแด่พระสันตะปาปา อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังไม่ได้อนุมัติจดหมายนั้นในทันที แต่ขอเวลาตรวจสอบคดีแบบทีละคน



ผู้อภิบาลต้องอย่าลืมรากเหง้าของตนว่าพระเยซูเรียกให้มาติดตามพระองค์อย่างไร

ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซาวันนี้เป็นวันฉลองนักบุญแม็ทธิว อัครสาวก ซึ่งพระวรสารเป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงเชิญแม็ทธิวให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ พร้อมเสด็จไปทานอาหารที่บ้านของแม็ทธิว ทำให้พวกฟาริสีตั้งคำถามว่า ทำไมพระเยซูร่วมโต๊ะอาหารกับคนบาป

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "บางคนอาจคิดว่าพระเยซูขาดไหวพริบในการเลือกคนมาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ แต่ลองดูการดำเนินชีวิตในพระศาสนจักรดูซิ คริสตชนจำนวนมาก นักบุญจำนวนมากได้รับการเลือกจากพระเยซูจากจุดต่ำสุด ดังนั้น คริสตชนควรจะตระหนักว่าเรามาจากไหนและเราต้องไม่ลืมบาปของตนเอง คริสตชนต้องรักษาความทรงจำกับพระเจ้าผู้ทรงเมตตาบาปของเขา และทรงเลือกเขาให้เป็นมาคริสตชนเป็นศิษย์ติดตามพระองค์

"ปฏิกิริยาของแม็ทธิวที่มีต่อพระเยซูตอนที่พระองค์ทรงเรียกเขานั้น แม็ทธิวไม่ได้แต่งตัวหรูหรา เขาไม่ได้เริ่มพูดบอกคนอื่นว่า 'ข้าคือเจ้าชายแห่งอัครสาวก ข้าขอออกคำสั่งดังนี้ ...' ไม่เลย แม็ทธิวเลือกจะดำเนินชีวิตที่เหลือของตนเพื่อพระวรสารเท่านั้น

"จำไว้ว่า เมื่อศิษย์พระเยซูหลงลืมรากเหง้าและจุดเริ่มต้นของตน เขาก็ปลีกตัวเองออกห่างจากพระเจ้า เขากลายเป็น 'เจ้าพนักงาน' ใช่ เจ้าพนักงานอาจปฏิบัติงานได้ดี แต่เขาไม่ใช่ศิษย์พระเยซู เขาไม่สามารถถ่ายทอดพระเยซูให้กับคนอื่น เขาเป็นใครสักคนที่บริหารจัดการโครงการอภิบาลและวางแผนหลายสิ่งหลายอย่าง เขาจะถูกเรียกว่า 'นักเจรจาจอมวางแผน' แห่งอาณาจักรของพระเจ้า เพราะเขาหลงลืมไปแล้วว่า เขามาจากไหน เขาได้รับการเลือกอย่างไร นี่แหละจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมความทรงจำต้องดำเนินควบคู่ไปกับชีวิตของศิษย์พระเยซูและคริสตชนทุกคน

"แทนที่เราจะมองบาปผิดของตนเอง เรากลับชอบไปมองบาปของคนอื่นและพูดแต่เรื่องชาวบ้าน นี่เป็นนิสัยที่เลวร้ายมาก มันดีเสียกว่าที่จะกล่าวโทษตัวเองและตระหนักเสมอว่า พระเจ้าทรงเลือกเราจากตรงไหน มันเป็นตัวเรานี่แหละที่ทำให้ตนเองถอยห่างจากพระเจ้า เพราะเราขาดความใจกว้างและเรามีข้อต่อรองกับพระเจ้าเสมอ แต่สุดท้ายแล้ว พระเจ้าก็เฝ้ารอเรา

"เหตุการณ์ในพระวรสารวันนี้ เมื่อพระเยซูทรงเรียกแม็ทธิว เราเห็นได้เลยว่า เขาละทิ้งทุกสิ่งแล้วติดตามพระองค์ นอกจากนี้ เขาเชิญเพื่อนๆ มานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับพระเยซู บนโต๊ะนี้ พระเยซูทรงนั่งกับสิ่งที่เลวร้ายสุดของสังคม นั่นคือคนเก็บภาษี แต่พระเยซูก็นั่งกับพวกเขา พวกธรรมาจารย์จึงรู้สึกว่าพวกเขาได้รับความอับอาย พวกเขาถามศิษย์ของพระเยซูว่า 'ทำไมอาจารย์ของท่านกินอาหารกับคนพวกนี้' พระเยซูได้ยินและตรัสกลับไปว่า 'จงไปเรียนรู้ความหมายของพระวาจาที่ว่า เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา' ความเมตตาของพระเจ้ามีให้กับทุกคน ยกโทษความผิดให้ทุกคน สิ่งเดียวที่พระเจ้าทรงขอร้องเราก็คือ ให้เราตอบพระองค์ว่า 'ใช่แล้วพระเจ้าข้า โปรดช่วยลูกด้วย' มันก็แค่นี้เอง

"พระเยซูตรัสสอนว่า 'คนสบายดีย่อมไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บไข้ต้องการ' พระเมตตาของพระเจ้าคือธรรมล้ำลึก หัวใจของพระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นธรรมล้ำลึกที่งดงามที่สุด ถ้าเราต้องการก้าวไปยังหัวใจของพระเจ้า จงเดินบนถนนของความเมตตา และยอมให้ตนเองได้รับการปฏิบัติด้วยความเมตตา"


โป๊ปฟรังซิส อนุมัติการลาออกของสังฆราชคาทอลิกชิลีเพิ่มอีก 2 คน

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงอนุมัติจดหมายลาออกของพระสังฆราชคาทอลิกชาวชิลี เพิ่มอีก 2 คน ทำให้ตอนนี้ สังฆราชคาทอลิกชิลี ลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการไปแล้ว 7 คน จากคดีปกปิดเรื่องสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศในสั
ฆมณฑลของตน

ก่อนหน้านี้ พระสังฆราชคาทอลิกชาวชิลี 34 คน ได้พร้อมใจยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งแด่พระสันตะปาปา อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังไม่ได้อนุมัติจดหมายนั้นในทันที แต่ขอเวลาตรวจสอบคดีแบบทีละคน

ล่าสุด วาติกันได้แถลงว่า พระสันตะปาปารับการลาออกของพระสังฆราช การ์ลอส เปเยกริน บาร์เรร่า แห่งสังฆมณฑลซาน บาร์โตโลเม เด ชิลลัน และ พระสังฆราช คริสเตียน คอนเตรรัส โมลิน่า แห่งสังฆมณฑลซาน เฟลิเป้ แล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปาทรงอนุมัติการลาออกของพระสังฆราชชาวชิลี 3 คน

จากนั้น 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ทรงอนุมัติการลาออกเพิ่มอีก 2 คน

และวันนี้ 21 กันยายน อนุมัติเพิ่มอีก 2 คน รวมล่าสุดเป็น 7 คน และคาดว่า จะยังไม่หมดเท่านี้ เพราะการสอบสวนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง