โป๊ปฟรังซิสแนะบทเทศน์ที่ดีไม่ควรเกิน 8 นาที

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงแนะนำ บทเทศน์ที่ดีไม่ควรเกิน 8 นาที ส่วนมิสซาควรใช้เวลา 40 นาที ทรงแนะเรื่องนี้ หลังมีคนพูดว่า "ไม่ไปร่วมมิสซา เพราะพ่อเทศน์นานและน่าเบื่อ"
  • ทรงสอนเยาวชน ถ้าวางใจพระเจ้า แต่ไม่วางใจสังฆราชหรือสงฆ์ ก็จงเดินเข้าไปบอกพวกเขาตรงๆ เลย
  • ทรงสอนสงฆ์คาทอลิก อย่าทำตัวเป็น "สงฆ์จอมซุบซิบนินทา" ที่ถวายมิสซาทุกวัน แต่หลังมิสซาจบแล้ว กลายเป็นจอมนินทา ขี้อิจฉา และสร้างความแตกแยกให้กับหมู่คณะสงฆ์
  • ทรงสอนซิสเตอร์ จงทำตัวสะท้อนถึงความเป็นแม่ผู้อ่อนโยน จงวางตัวเป็นสตรีแห่งการรับใช้ ไม่ใช่สตรีเจ้าอำนาจ
  • ปิดท้าย วาติกันประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก เรื่องเยาวชน ปรากฏว่าของไทยมี "พระสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์" เป็นผู้แทนหนึ่งเดียวไปร่วมงาน




วันเสาร์ที่ผ่านมา (15 กันยายน) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังอัครสังฆมณฑลปาแลร์โม่ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี โอกาสรำลึก 25 ปีแห่งการเสียชีวิตดุจมรณสักขีของ บุญราศี จูเซ็ปเป้ ปูญีซี่ สงฆ์พื้นเมืองที่ถูกกลุ่มมาเฟียฆ่าตาย

โอกาสนี้ ผมขอสรุปเนื้อหาแบบรวบรัดให้ทุกท่านได้ติดตามเลยนะครับ เนื่องจากเวลาของผมมีจำกัด จึงไม่สามารถมารายงานข่าวแบบยาวๆ ได้

บทเทศน์ไม่ควรเกิน 8 นาที ส่วนมิสซาไม่ควรใช้เวลาเกิน 40 นาที

พระสันตะปาปาทรงให้ข้อคิดบรรดาสงฆ์ทุกคนว่า ทุกวันนี้ มีสัตบุรุษหลายคนพูดว่า "ผมสวดภาวนาเอง แต่ผมไม่ไปมิสซา" พระองค์จึงถามเขากลับไปว่าทำไม คนนั้นตอบว่า "ก็เพราะผมเบื่อพ่อเทศน์ไง พ่อเทศน์นาน 40 นาที"  พระสันตะปาปา ฟรังซิส จึงแนะนำว่า 40 นาทีควรเป็นเวลาของทั้งมิสซา ส่วนบทเทศน์ที่ดีในความคิดของพระองค์นั้น ไม่ควรเกิน 8 นาที (อ่านต้นฉบับได้ที่ http://bit.ly/2NdSpzw)

รักพระศาสนจักร แต่ไม่ชอบสังฆราชหรือสงฆ์? ก็เดินไปบอกเขาเลย

พระสันตะปาปาทรงสอนเยาวชนว่า หลายครั้งพระองค์ได้ยินเยาวชนมาบอกว่า "ผมวางใจพระเจ้า แต่ไม่วางใจพระศาสนจักร" พ่อถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่า "ไม่ชอบสงฆ์บางคน" พ่อจึงบอกไปว่า ให้ไปหาสงฆ์คนนั้นแล้วพูดว่า "ผมไม่วางใจคุณพ่อ เพราะเหตุนั้น เหตุนี้" จงพูดออกไปเลย เช่นเดียวกัน ถ้าไม่วางใจพระสังฆราช ก็เดินไปพูดกับเขาตรงๆ (อ่านต้นฉบับได้ที่ http://bit.ly/2NdSpzw)

อย่าทำตัวเป็น "สงฆ์ขี้นินทา"

พระสันตะปาปาทรงสอนบรรดาสงฆ์ว่า อย่าทำตัวเป็นสงฆ์จอมซุบซิบนินทาที่ชอบไปเล่นกับฝั่งปีศาจและทำลายหมู่คณะของตน อย่าทำตัวเป็นสงฆ์ที่เข้าไปพัวพันกับโครงการอภิบาลแบบฟาโรห์ที่สร้างยิ่งใหญ่เพื่อตัวเอง อย่าดำเนินชีวิตอภิบาลเพื่อสร้างความก้าวหน้าในหน้าที่สงฆ์ เรื่องการแสวงหาความก้าวหน้าจากการเป็นสงฆ์ต้องถูกกำจัดออกไป จงทำตัวเป็นพระสงฆ์ ไม่ใช่พนักงานบริษัทที่ถวายมิสซาเพียงเพราะได้ซองทำบุญ

พระสงฆ์ต้องเป็นบุรุษแห่งการให้อภัยและเป็นบุรุษแห่งความเป็นเอกภาพ ท่านสามารถถวายมิสซาทุกวัน แต่หลังจากมิสซาจบแล้ว ท่านสามารถกลายเป็นบุรุษแห่งความแตกแยก ขี้นินทา ขี้อิจฉา และแม้กระทั่งเป็นอาชญากรที่ฆ่าพี่น้องด้วยลิ้นของตน ถ้าพระสงฆ์เป็นคนขี้นินทา แทนที่จะเป็นคนสร้างความเป็นเอกภาพ เขาจะนำพาความแตกแยกมาให้คนอื่นและให้กับพระสังฆราช

จำไว้ว่า สัตบุรุษจะไม่รู้สึกแย่ ถ้าพระสงฆ์ทำผิดพลาด แต่เขาสำนึกและกลับใจ แต่สัตบุรุษจะรู้สึกแย่สุดๆ ถ้าพระสงฆ์ดำเนินชีวิตด้วยจิตตารมณ์ทางโลก

ส่วนซิสเตอร์ จงมีความรับผิดชอบดุจเราเป็นแม่ เพราะใบหน้าความอ่อนโยนของสตรีคือใบหน้าของพระศาสนจักร จงวางตัวเป็นสตรีแห่งการรับใช้ ไม่ใช่สตรีเจ้าอำนาจ (อ่านต้นฉบับได้ที่ http://bit.ly/2xiL2vR)

"พระสังฆราช วีระ" เป็นผู้แทนจากไทยคนเดียวไปร่วมซีน็อตเรื่องเยาวชน

วาติกันประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก เรื่องเยาวชน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปรากฏว่า ของไทยมี "พระสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์" เป็นผู้แทนหนึ่งเดียวไปร่วมงาน

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่าง "พม่า" พระคาร์ดินัล ชาร์ลส์ เมือง โบ เป็นผู้แทนไปร่วม ส่วน "ลาว" ก็เป็น "พระคาร์ดินัล หลุยส์ มารี หลิ่ง มังคะเนกุล เป็นผู้แทนไปร่วม ทั้งนี้ สามารถเช็ครายชื่อได้ที่ http://press.vatican.va/content/salastampa/it/bollettino/pubblico/2018/09/15/0644/01374.html