โป๊ปฟรังซิส - แม้เราเป็นศิลาที่ถูกทิ้งขว้าง แต่พระเจ้าไม่ทอดทิ้งเราแน่นอน

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงร้องขอคริสตชนมีความหวังในการดำเนินชีวิต แม้วันนี้เราจะเป็นศิลาที่ถูกทิ้งขว้าง ต้องทนทุกข์มากมาย แต่พระเจ้าทรงมีเป้าหมายให้เราที่เป็นก้อนกรวดเล็กๆ ว่าเราไม่ถูกทอดทิ้งและไม่สูญเปล่าแน่นอน เฉกเช่นพระเยซูผู้ทรงถูกปฎิเสธและต้องรับความตาย แต่สุดท้าย ศิลาที่ถูกทิ้งขว้างนี้แหละคือบ่อเกิดของชีวิต 

  • ทรงแบ่งปัน วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ พระองค์โทรศัพท์ไปให้กำลังใจเยาวชนที่เป็นวิศวกรซึ่งกำลังป่วยหนัก และบอกเขาว่า เป็นเรื่องยากจะอธิบาย ทำไมพระบิดาให้พระบุตรต้องทนทุกข์ด้วยวิธีนี้ แต่เยาวชนคนนั้นตอบมาว่า "พระบุตรยินดีทำตามพระประสงค์ของพระบิดา แต่สำหรับเขาแล้ว พระเจ้าไม่เคยถามความสมัครใจว่า เขายินดีรับความเจ็บป่วยนี้ไหม" 

  • ทรงอวยพรแด่โรมและโลก และวอนขอสันติภาพในซีเรีย ยูเครน และหลายพื้นที่ในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้











ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาสมโภชปาสกา จากนั้น ทรงอวยพร "แด่โรมและโลก" โอกาสปาสกา ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน มิสซานี้ มีผู้มาร่วมกว่า 90,000 คน ส่วนดอกไม้ที่ประดับในพิธีมีทั้งหมด 35,000 ดอกและทั้งหมดถูกส่งมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ นับเป็นปีที่ 30 ติดต่อกันแล้วที่เนเธอร์แลนด์ส่งดอกไม้มาจัดงานมิสซาสมโภชปาสกาที่วาติกัน

ตามธรรมเนียมปฎิบัติที่สืบต่อกันมา พระสันตะปาปาจะไม่เทศน์ในมิสซาสมโภชปาสกา แต่จะให้สัตบุรุษนั่งเงียบๆ เพื่อรำพึงหลังพระวรสาร แต่ปีนี้ พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเทศน์สอนแบบสดๆ ใจความว่า

- การที่ทูตสวรรค์บอกกับเปโตร จอห์น และบรรดาสตรีที่คูหาฝังศพพระเยซูว่า พระองค์ไม่อยู่ที่นี่ พระองค์ทรงกลับคืนชีพแล้ว นี่คือคำประกาศแรกที่บอกว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพแล้ว แต่พวกเขาเหล่านั้นยังสับสน หัวใจยังปิดอยู่ พวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ทั้งวัน เพราะกลัวว่าสิ่งที่เกิดกับพระเยซูอาจจะเกิดกับพวกเขาบ้าง แต่พระศาสนจักรไม่หยุดที่จะบอกกับหัวใจที่พ่ายแพ้ หัวใจที่ปิดตาย และหัวใจที่หวาดกลัวทุกดวงว่า พระเจ้าทรงกลับคืนชีพแล้ว!

- ถ้าพระเจ้าทรงกลับคืนชีพ ทำไมสิ่งเหล่านี้ยังต้องเกิดอีกล่ะ ทำไมพวกเรื่องโชคร้าย โรคร้าย การค้ามนุษย์ สงคราม การทำลายล้าง ความพิการ การแก้แค้น และความเกลียดชังยังต้องเกิดขึ้นอีก พระเจ้าไปอยู่ไหนกันล่ะ เมื่อวานนี้ พ่อได้โทรศัพท์ไปหาเยาวชนชายคนหนึ่งที่กำลังป่วยหนัก พ่อให้เครื่องหมายแห่งความเชื่อกับเขา เยาวชนคนนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ได้รับการศึกษาอย่างดี เขาเป็นวิศวกร พ่อบอกเขาว่า มันหาคำอธิบายไม่ได้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับเขา แต่ขอให้ลูกมองไปที่พระเยซูบนไม้กางเขน พระเจ้าทรงทำแบบนี้กับพระบุตรของพระองค์ มันก็ไม่มีคำอธิบายเช่นกัน เขาตอบพ่อกลับมาว่า 'ใช่ครับ แต่พระเจ้าทรงร้องขอจากพระบุตรของพระองค์ และพระบุตรก็ตอบรับ แต่สำหรับผมแล้ว พระเจ้าไม่ได้มาขอร้องผมเลย ...' สิ่งนี้ทำให้เราสะเทือนใจยิ่งไปอีก ไม่มีใครสักคนในพวกเราหรอกที่ถูกพระเจ้าถามว่า 'ลูกมีความสุขกับสิ่งที่กำลังเกิดกับโลกใบนี้ไหม ลูกยินดีที่จะแบกกางเขนหรือเปล่า'

- ไม้กางเขนยังดำเนินต่อไปด้วยความเชื่อในพระเยซู วันนี้ พระศาสนจักรยังคงกล่าวว่า 'พระเยซูทรงกลับคืนชีพแล้ว' นี่ไม่ใช่เรื่องนิยายแฟนตาซี การกลับคืนชีพของพระเยซูไม่ใช่แค่การสมโภชด้วยดอกไม้จำนวนมาก ใช่ มันสวยงาม แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้น นี่คือธรรมล้ำลึกของศิลาที่ถูกทิ้งขว้างและจบลงด้วยการเป็นศิลาเอกรากฐานแห่งการดำรงอยู่ของเรา นี่คือความหมายบ่งบอกว่า ศิลาที่ถูกทิ้งขว้างคือบ่อเกิดของชีวิต มันคือเราทุกคน

- วันนี้ พระศาสนจักรพูดอะไรต่อหน้าเรื่องโศกนาฏกรรมทั้งหลาย ง่ายมาก ศิลาที่ถูกทิ้งขว้างไม่ได้ถูกทิ้งขว้างจริงๆ ก้อนหินก้อนกรวดยังคงเชื่อและยึดติดกันเป็นก้อนหินเป็นศิลาได้ สิ่งนี้ไม่ได้ถูกทิ้งขว้าง ทั้งหมดมีจุดหมายและพระศาสนจักรยืนยันซ้ำอีกครั้งจากก้นบึ้งของหัวใจว่า 'พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพแล้ว'

- ขอให้เราคิดถึงปัญหาในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคน คิดถึงโรคร้ายหรือประสบการณ์ที่คนใกล้ตัวเราพบเจอเกี่ยวกับสงครามหรือโศกนาฏกรรม พ่อไม่รู้หรอกว่าพระประสงค์นี้จะดำเนินไปอย่างไร แต่พ่อมั่นใจว่า พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพ พ่อเดิมพันได้เลย พี่น้องที่รัก ขอให้เรากลับไปบ้านแล้วกล่าวย้ำกับหัวใจของเราว่า พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพแล้ว

หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงขึ้นไปยังระเบียงของมหาวิหารนักบุญเปโตร เพื่อประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) ทั้งนี้ การประทานพรแด่โรมและโลก พระสันตะปาปาจะทำปีละ 2 ครั้ง โอกาสวันคริสต์มาสและวันปาสกา

โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสก่อนอวยพร ด้วยการขอพระเจ้าโปรดประทานสันติภาพให้เกิดกับซีเรีย โดยพระองค์ทรงระลึกถึงเหตุโจมตีรถบัสของผู้อพยพลี้ภัย ทำให้ผู้ลี้ภัยเสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมกันนี้ ทรงวอนขอสันติภาพในซูดาน, ซูดานใต้, โซมาเลีย และคองโก

เช่นเดียวกัน พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันความหวังที่จะเห็นการเจรจาอันนำไปสู่สันติในหลายพื้นที่ของทวีปอเมริกาใต้

ส่วนทวีปยุโรป พระสันตะปาปาทรงภาวนาขอให้ผู้ที่กำลังเผชิญกับวิกฤติและความยากลำบากในการดำเนินชีวิต อาทิ ปัญหาการว่างงานในกลุ่มเยาวชน ได้ผ่านพ้นไปด้วยดี พระองค์ยังกล่าวด้วยความหวังถึงยูเครนว่า ความขัดแย้งในประเทศนี้จะจบลงโดยเร็วด้วย