โป๊ปฟรังซิสโปรดศีลล้างบาปให้คาทอลิกใหม่ 11 คนคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมล้างบาปให้คาทอลิกใหม่ 11 คน 

  • ทรงสอน การกลับคืนชีพของพระเยซูได้นำความหวังมามอบให้เราทุกคน เฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เผชิญหน้ากับความอยุติธรรมทั้งหลาย

  • ทรงชี้ ใบหน้าของมารีอา มักดาเลนา และมารีอาอีกคนหนึ่งที่ไปคูหาฝังศพพระเยซู เปรียบเหมือนใบหน้าของสตรีและคนเป็นแม่ที่ลูกของตนต้องเจอกับการกดขี่ข่มเหงอย่างโหดร้าย 











ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในพิธีตื่นเฝ้าปาสกา เสกน้ำ เสกไฟ และโปรดศีลล้างบาปให้คาทอลิกใหม่ 11 คน ที่มาจากสเปน, สาธารณรัฐเช็ก, อิตาลี, อเมริกา, อัลบาเนีย, มอลตา, มาเลเซีย และจีน โดยคาทอลิกใหม่ที่อายุน้อยสุดคือ 9 ขวบ และอายุมากสุดคือ 50 ปี พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน

มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า

- พ่ออยากเชิญชวนเราให้คิดถึงตอนที่ มารีอา มักดาเลนา และมารีอาอีกคนหนึ่งกำลังไปที่คูหาฝังศพของพระเยซู พวกเธอเดินไปที่นั่นเหมือนคนที่กำลังเดินไปหลุมศพในสภาพที่เศร้าหมองและอ่อนแรง พวกเราสามารถนึกภาพหน้าของพวกเธอได้เลยว่าเศร้าเพียงใด คำถามของพ่อก็คือ 'ความรักได้ตายไปแล้วจริงๆ หรือ' สตรีเหล่านี้ต่างจากบรรดาศิษย์ พวกเธออยู่ที่เชิงกางเขนและอยู่ในตอนที่ฝังศพของพระเยซูในคูหา พวกเธอไม่วิ่งหนี พวกเธอเลือกเผชิญชีวิตตามที่เป็นและรับรู้ถึงรสของความขื่นขมจากความอยุติธรรม

- เราสามารถพบเห็นใบหน้าของสตรีทั้งสองบนใบหน้าของคุณแม่และคุณย่าคุณยายทั้งหลาย เรายังพบเห็นใบหน้าของสตรีทั้งสองบนใบหน้าของเด็กและเยาวชนที่แบกรับแอกแห่งความอยุติธรรมและความโหดเหี้ยม บนใบหน้าเหล่านี้ เราสามารถไตร่ตรองถึงผู้ที่เดินตามท้องถนนในเมืองของเรา เราสามารถสัมผัสถึงความเจ็บปวดของความยากจนอันโหดร้าย ความทุกข์ระทมที่เกิดจากการถูกกดขี่ข่มเหงและการค้ามนุษย์ เรายังพบเห็นใบหน้าเหล่านี้ในผู้ที่ถูกดูหมิ่น เพราะเขาเป็นผู้อพยพ

- มารีอา มักดาเลนา และมารีอาอีกคนหนึ่งเป็นกระจกสะท้อนถึงบรรดาสตรีและคนเป็นแม่ที่ร้องไห้เพราะพวกเธอต้องเห็นชีวิตลูกของตนเองถูกทุบตีจากการโกงอันใหญ่หลวง การโกงเช่นนี้ได้พรากสิทธิและบดขยี้ความฝันของพวกเขาไป โดยทางการกระทำที่เห็นแก่ตัวในชีวิตทุกวัน มันได้ตรึงกางเขนและฝังของพวกเขาไปหมดสิ้น

- เราสามารถทำให้สิ่งเหล่านี้เลวร้ายลงไปอีกด้วยการโน้มน้าวตัวเองว่านี่แหละคือกฎของชีวิตและทำให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเราแข็งทื่อ เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เพียงแต่อาจาย์ของเราจะตายไปเท่านั้น แต่ความหวังยังตายไปกับพระองค์ด้วย แต่พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลัลคืนชีพจากความตายได้ประทานของขวัญให้กับเรา พระองค์ทรงกลิ้งหินที่ฝังคูหาออกและทำลายกำแพงที่ขังเราไว้จากการมองโลกในแง่ร้าย พระเจ้าเสด็จมาหาเราเพื่อสร้างและหลอมรวมเราให้เป็นหนึ่งด้วยความเมตตาที่สัมผัสได้ นี่คือความประหลาดใจจากพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ จงชื่นชมยินดีเถิด! ... ในคืนนี้ ความสว่างได้เอาชนะความมืด พระเจ้าทรงเรียกเราให้ประกาศความยินดีแห่งพระเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ พระคริสตเจ้าทรงกลับเป็นขึ้นมาแล้ว!

- พ่อจึงอยากเชิญชวนทุกคนกลับไปเพื่อประกาศ แบ่งปัน และแจ้งให้ทุกคนทราบว่ามันเป็นความจริงที่พระเจ้าทรงกลับคืนชีพแล้ว! พระองค์ทรงกลับคืนชีพและพระองค์ต้องการกลับคึนชีพในทุกคนที่ใบหน้าของเขาได้ฝังความหวัง ความฝัน และศักดิ์ศรีไปแล้ว ถ้าเราไม่ยอมให้พระจิตนำเราบนถนนสายนี้ เราจะไม่ใช่คริสตชนเลย