โป๊ปฟรังซิส - คริสตชนต้องค้นหาความชื่นชมยินดีในชีวิต ไม่ใช่เอาแต่คร่ำครวญหรือเดาอนาคตคนอื่น

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาระหว่างเยือนมิลาน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 1 ล้านคน 

  • ทรงย้ำ คริสตชนต้องค้นหาความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่เอาแต่คาดเดาอนาคตของคนอื่น หรือคร่ำครวญกับปัญหาต่างๆ 

  • ทรงแนะ กุญแจที่จะทำให้เราพบความชื่นชมยินดีในชีวิตคือความทรงจำถึงพระสัญญาของพระเจ้า ความรู้สึกว่าเราประชากรของพระเจ้า และการมองถึงความเป็นไปได้ในความเป็นไปไม่ได้










บ่ายวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปถวายมิสซาที่สวนสาธารณะเมืองมอนซ่า ในเขตปกครองของอัครสังฆมณฑลมิลาน ประเทศอิตาลี ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 1 ล้านคน ความพิเศษของวันนี้คือเป็นวันสมโภชแม่พระรับการแจ้งข่าวจากอัครเทวดากาเบรียลด้วย

สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า

- พ่ออยากเชิญชวนเราให้เป็นประชากรของพระเจ้าที่เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิต และขอให้เราหลีกเลี่ยงการคาดเดาอนาคตของคนอื่นว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ มี 2 คำถามที่พ่ออยากให้เราไตร่ตรอง หนึ่ง เราจะดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสารในเมืองของเราได้อย่างไร สอง ความหวังตามแบบฉบับคริสตชนยังเป็นไปได้หรือไม่ในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งสองคำถามนี้เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ของตัวเรา และเรียกร้องเราถึงวิถีทางใหม่ในการมองตัวเราในประวัติศาสตร์

- พ่อได้ไตร่ตรองความแตกต่างระหว่างการแจ้งสารสองเหตุการณ์ นั่นคือเรื่องของ จอห์น แบ๊พติสต์ (ลก 1:5-10) ซึ่งเกิดขึ้นในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม และการบังเกิดของพระเยซู (ลก 1:26-38) การแจ้งสารเรื่องการบังเกิดของพระเยซู เกิดที่เมืองกาลิลี เมืองชายขอบที่ไม่มีชื่อเสียงใดๆ เมื่อพิจารณาดูแล้ว เราจะพบความแตกต่างที่ขัดกัน กล่าวคือ พระเจ้าทรงมาพบกับประชากรของพระองค์ในเมืองที่เราคาดไม่ถึง เมืองที่เป็นส่วนเกิดและชายขอบของสังคม

- การแสวงหาความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิตกลายเป็นความท้าทายของเรา เนื่องจากเราคอยจะแสวงหาผลประโยชน์จากคนอื่น คอยคาดเดาสิ่งต่างๆ ไปเรื่อย บางคนใคร่ครวญและคาดเดากับชีวิต การทำงาน และครอบครัว พวกเขาใคร่ครวญถึงความยากจน ผู้อพยพ เยาวชน และอนาคตของเขา ทุกสิ่งดูเหมือนจะแย่ไปหมด ในทางกลับกัน เขาปล่อยให้การดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองไร้สีสันจากความไม่แน่นอนต่างๆ

- ดังนั้น กุญแจสำคัญที่จะทำให้เราค้นพบความชื่นชมยินดีในชีวิตก็คือความทรงจำ ความรู้สึกว่าเราเป็นของพระเจ้า และการมองถึงความเป็นไปได้ในความเป็นไปไม่ได้

- สิ่งแรกที่ทูตสวรรค์กาเบรียลทำก็คือปลุกความทรงจำของแม่พระ นั่นคือ การกล่าวถึงประวัติศาสตร์แห่งความรอดทั้งมวล ทูตสวรรค์ทำให้แม่พระรำลึกถึงพระสัญญาที่พระเจ้าทรงให้ไว้กับกษัตริย์เดวิด รวมไปถึงการปกครองวงศ์ตระกูลของยาค็อบ (ยาโคบ) ความทรงจำนี้เองที่ทำให้แม่พระตระหนักว่า ตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งในประชากรของพระเจ้า

- สุดท้ายนี้ พ่ออยากเตือนใจพวกเราทุกคนว่า 'ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้' (ลก 1:37) เมื่อเรายอมให้ตัวเองได้รับความช่วยเหลือและให้คำแนะนำ เมื่อเราเปิดตัวเองให้กับพระหรรษทาน มันก็เหมือนกับว่า สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เริ่มจะกลายเป็นไปได้แล้ว