บรรดาอธิการเจ้าคณะถาม พระสันตะปาปาตอบ

ช่วงนี้ ผมยัง "ดอง" บทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาไว้อีก 2 เรื่อง เรื่องแรกคือที่กำลังทยอยลงเป็นหัวข้อที่พระองค์สัมภาษณ์กับ "เอล ปาอิส" หนังสือพิมพ์สเปน และอันที่สองที่ผมยังไม่ได้ปล่อยออกมาคือ พระสันตะปาปาให้สัมภาษณ์กับ ESNE TV and Radio (สถานีวิทยุและโทรทัศน์จากลอส แองเจลลีส อเมริกา) 




ในบทสัมภาษณ์ที่ตรัสกับ ESNE ประโยคเด็ดๆ ที่พระสันตะปาปาตรัสถึงฆราวาสคาทอลิกก็คือ "ฆราวาสต้องก้าวออกไปประกาศพระวรสาร ไม่งั้น เขาก็ควรซื้อลูกเหม็นติดบ้านไว้! บางครั้ง พ่อคิดเองว่า ธุรกิจที่ดีที่สุดที่เราจะทำกับคริสตชนก็คือขาย 'ลูกเหม็น' ให้พวกเขา เพื่อที่เขาจะได้เอาไปใส่ในตู้เสื้อผ้าและชีวิตประจำวัน เพื่อที่ชีวิตและเสื้อผ้าของเขาจะไม่ถูกแมลงกัดกิน เพราะไม่ยอมก้าวออกจากตัวเอง"

ส่วนล่าสุด เช้าวันนี้ คุณพ่ออันโตนิโอ สปาดาโร่ สงฆ์เยสุอิตและบรรณาธิการนิตยสารของคณะเยสุอิต "ลา ชิวิลตา คัตโตลิกา" ได้ส่งบทสัมภาษณ์ "เรื่องที่ 3" ที่ได้รับการเผยแพร่มาให้ผม เป็นเหตุการณ์ที่พระสันตะปาปาตรัสกับมหาอธิการเจ้าคณะนักบวชชายกว่า 140 คณะจากทั่วโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 (มหาอธิการถาม พระสันตะปาปาตอบแบบสดๆ) ใจความสำคัญมีหลายหัวข้อ อาทิ

1) แม่พระไม่ใช่หัวหน้าของศูนย์ไปรษณีย์ที่ทุกวันต้องมาส่งสารแตกต่างกันไป อาทิ 'ลูกที่รัก จงทำอย่างนี้ วันพรุ่งนี้ จงทำแบบนี้' ไม่! นี่ไม่ใช่แม่พระ แม่พระที่แท้จริงคือคนที่ทำให้เกิดพระเยซูในจิตใจของเรา นี่แหละแม่พระ แฟชั่นที่ทำให้แม่พระเป็นซูเปอร์สตาร์ ซึ่งแสวงหาแต่ความโดดเด่น แบบนี้ไม่ใช่แม่พระของคาทอลิก (Non la Madonna capo di un ufficio postale che ogni giorno manda una lettera diversa, dicendo: «Figli miei, fate questo e poi il giorno dopo fate quest’altro». No, non questa. La Madonna vera è quella che genera Gesù nel nostro cuore, che è Madre. Questa moda della Madonna superstar, come una protagonista che mette se stessa al centro, non è cattolica)

2) มันมีการโกงในวาติกัน แต่พ่อยังไม่ตระหนกเกินไป พ่อจดปัญหาทุกอย่างออกมา แล้วเอาไปวางไว้ใต้รูปนักบุญโยเซฟที่กำลังนอนหลับ นักบุญโยเซฟจึงหลับไปพร้อมกับปัญหาเหล่านี้! และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมพ่อถึงนอนหลับสนิทเสมอ (เพราะนักบุญโยเซฟรับปัญหาไปแล้ว)

3) พระเจ้าต้องการให้นักบวชถือความยากจน ถ้าคณะนักบวชไม่ยึดความยากจน พระเจ้าจะส่งเหรัญญิกที่จะนำคณะไปพบกับการล้มละลายมาให้! แนวทางการเลือกเหรัญญิกของคณะนักบวชคือคนๆ นั้นต้องไม่เป็นคนยึดติดกับตัวเงิน ที่สำคัญ ต้องเช็คเสมอว่า ธนาคารนำเงินฝาก(ของคณะ) ไปลงทุนอะไร อย่าให้พวกเขานำเงินเราไปลงทุนจัดซื้ออาวุธเด็ดขาด

4) สงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศทั้งต่อชายและหญิง มันชัดเจนมากว่านี่คือผลงานของปีศาจที่ทำลายงานของพระเยซูในตัวคนที่ประกาศนามของพระองค์ ขอให้เราเข้าใจชัดๆ ก่อนว่านี่คือโรคร้าย ถ้าเราไม่ยอมรับว่ามันคือโรคร้าย เราจะแก้ปัญหาไม่ได้เลย

5) เวลารับผู้สมัครเข้าบ้านเณรหรือคณะนักบวช จงตรวจสอบให้ละเอียดว่าเขามีวุฒิภาวะพอหรือไม่ จงอย่ารับผู้สมัครที่ถูกปฏิเสธจากบ้านเณรอื่นๆ เข้ามา โดยไม่สอบถามเหตุผลของการปฏิเสธนั้นให้แน่ชัดว่าเพราะอะไร

6) พ่อกังวลมากๆ เวลาคณะนักบวชต่างๆ มาบอกว่า "ปีนี้ กระแสเรียกเราโตมากๆ ดึงคนมาสมัครเข้าคณะได้เยอะ" นี่คือการคุยโอ้อวดเรื่องความสำเร็จทางโลก อย่าลืมว่า พระจิตไม่ทำงานตามจิตตารมณ์ทางโลกนะ

7) ปัญหาของการฝึกอบรมพระสงฆ์ในยุคนี้คือ พระสงฆ์แยกแยะได้แต่ขาวหรือดำ แต่พวกสีเทาๆ พระสงฆ์แยกไม่เป็น หลายครั้งทำให้พระสงฆ์กลายเป็นคนเข้มงวดเกินไป

8) จิตตารมณ์ทางโลกและคิดว่าตนเป็นเจ้าชายแทรกซึมเข้ามาในพระศาสนจักร สิ่งนี้ทำลายคณะนักบวช มันไม่จำเป็นเลยที่จะเป็นพระคาร์ดินัลที่รู้สึกเหมือนตนเป็นเจ้าชาย เรื่องพวกนี้ควรพอได้แล้วกับการแสวงหาความก้าวหน้าจากการเป็นสงฆ์ นี่คือสิ่งที่เลวร้ายสุดในพระศาสนจักร

9) คนที่ไม่เคยทำผิดพลาด ได้แก่ คนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย!

เขียนไปเขียนมา กลายเป็นสรุปประเด็นบทสัมภาษณ์ล่าสุดไปเฉยเลย (เพราะอ่านแล้วสนุก จึงพิมพ์แบบหยุดไม่อยู่) เอาเป็นว่า ทุกท่านได้อ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นที่ 3 แล้วนะครับ ส่วนอันที่ 1 และ 2 ผมจะรีบนำมารายงานให้จบเร็วๆ นะครับ