โป๊ปฟรังซิส - อย่าเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่ใช้หลักคำสอนตัดสินปัญหาแบบผิดๆ โดยไร้ความเมตตา

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน อย่าทำตัวเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่ใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ เหมือนพวกฟาริสี อาทิ การพูดแค่ว่า "แบบนี้ทำได้ แบบนั้นทำไม่ได้" 

  • เพราะในความเป็นจริง พระเยซูไม่เคยใช้นิสัยแบบนี้ พระองค์ทรงตัดสินปัญหาโดยใช้หลักความยุติธรรมคู่กับความเมตตา 

  • ทรงชี้ การจะเข้าใจแนวคิดความยุติธรรมคู่กับความเมตตา เป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าเราทำได้ เราจะมีความสุขและคนอีกมากก็จะมีความสุขด้วย 




ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้ พวกฟาริสีถามพระเยซูว่า "ถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา" พระเยซูไม่ตรัสตอบฟาริสี แต่หลังจากนั้น พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า "ผู้ใดหย่าร้างกับภรรยาและไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม ถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า

- เป็นอีกครั้งที่เราได้ยินคำถามที่มาทดสอบพระบุตรของพระเจ้า แต่พระเยซูไม่ตอบคำถามเหล่านี้ว่ามันถูกต้องหรือไม่ พระองค์ไม่ไปยุ่งกับตรรกะการใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ เพราะพวกฟาริสีคิดแต่ว่าความเชื่อในพระเจ้า มีแค่ 'สามารถ' กับ 'ไม่สามารถ' เท่านั้น

- พระเยซูทรงพูดความจริงเสมอ พระองค์ทรงอธิบายว่ามนุษย์ถูกสร้างมาอย่างไร เมื่อบรรดาศิษย์ถามพระองค์ถึงเรื่องการมีชู้ พระองค์ก็ตรัสตอบว่า 'ผู้ใดหย่าร้างกับภรรยาและไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม ถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน' ถ้าความจริงคือสิ่งนี้และการมีชู้เป็นเรื่องร้ายแรง เราจะอธิบายอย่างไรเมื่อพระเยซูพูดคุยกับคนที่มีชู้ พระองค์ทรงดื่มน้ำแก้วเดียวกับเธอคนนั้นซึ่งไม่บริสุทธิ์ สุดท้าย พระองค์ตรัสกับเธอว่า 'เราไม่กล่าวโทษเจ้า บาปของเจ้าได้รับการยกโทษแล้ว' เรื่องแบบนี้เป็นไปได้อย่างไรกัน

- แต่นี่แหละคือวิถีของพระเยซู มันชัดเจนอยู่แล้ว มันคือหนทางจากการใช้หลักคำสอนมาปัญหาแบบผิดๆ มาสู่ความจริงและความเมตตา พระเยซูทรงไม่สนใจตรรกะการใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ คนที่อยากจะทดสอบพระองค์ รวมทั้งคนที่คิดว่าตรรกะแบบนี้เป็นไปได้ พระองค์ทรงเรียกคนเหล่านี้ว่าพวกหน้าซื่อใจคด การใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ คือการเป็นคนหน้าซื่อใจคด คนพวกนี้จะพูดแต่ว่า 'คุณทำแบบนี้ได้ ... คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะ'

- เมื่อการประจญสัมผัสจิตใจของเรา หนทางที่จะหนีออกจากการใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ เพื่อไปยังความจริงและความเมตตานั้น มันไม่ง่าย แต่พระหรรษทานของพระเจ้าจะช่วยเราให้ทำได้ เราต้องวอนขอพระเจ้าอยู่เสมอ ขอพระเจ้าช่วยเราให้เป็นคนยุติธรรม แต่ยุติธรรมด้วยความเมตตา  ไม่ใช่ยุติธรรมแบบใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาแบบผิดๆ เราต้องมีความยุติธรรมอยู่ในความเมตตา บางครั้ง พวกความคิดใช้หลักคำสอนมาตัดสินปัญหาอาจพูดกับเราว่า 'สิ่งใดในพระเจ้าที่สำคัญกว่ากัน ความยุติธรรมหรือความเมตตา' สำหรับพระเจ้าแล้ว ความยุติธรรมคือความเมตตา และความเมตตาคือความยุติธรรม ขอพระเจ้าช่วยเราให้เข้าใจหนทางนี้ซึ่งไม่ง่าย แต่มันจะทำให้เรามีความสุข และจะทำให้คนอีกมากมีความสุขด้วย