โป๊ปฟรังซิส - ทุกวันนี้การพูดจาใส่ร้ายกลายเป็นเรื่องปกติ มันทำให้ความรุนแรงฝังอยู่ในคำพูดของเรา

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ ทุกวันนี้การพูดจาใส่ร้ายกลายเป็นเรื่องปกติทั้งที่บ้านและตามท้องถนน สิ่งนี้ทำให้ความรุนแรงฝังอยู่ในคำพูดของเรา 

  • ทรงย้ำ เราต้องพูดให้น้อยลง ฟังให้มากและต้องฟังอย่างรอบคอบ จงคิดก่อนจะพูดออกไป 

  • ทรงสอน ก่อนจะโต้เถียงอะไร จงพูดจาแลกเปลี่ยนมุมมองกันก่อน ที่ใดที่ไม่มีการเสวนาพูดจากัน ที่นั่นจะมีความรุนแรง สงครามเริ่มต้นในจิตใจของเรา อาทิ บนโต๊ะอาหารที่เรามัวแต่คุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความ แต่ไม่พูดกันบนโต๊ะอาหาร




ช่วงสายวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังมหาวิทยาลัย โรม่า เตร ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงพบปะบรรดานักศึกษาจากคณะต่างๆ พร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาถามแบบสดๆ และพระองค์ทรงตอบกลับแบบสดๆ จากใจด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในนักศึกษาที่ได้ถามคำถามพระสันตะปาปา ก็คือ โนอูร์ เอสซา (คนในภาพ) หญิงชาวซีเรียวัย 31 ปี เธอเป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยที่พระสันตะปาปาทรงพามาจากเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ เมื่อปี 2016 เพื่อมาลี้ภัยที่กรุงโรม ปัจจุบัน เอสซา เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย

สำหรับประเด็นสำคัญของคำถามและคำตอบที่พระสันตะปาปาทรงมีต่อนักศึกษา มีดังนี้

- โนอูร์ อัสซา ถามพระสันตะปาปาว่า "คิดว่า ผู้ลี้ภัยเป็นภัยคุกคามทวีปยุโรปหรือไม่"

พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ไม่ ผู้ลี้ภัยไม่ใช่อันตรายต่อยุโรป แต่เป็นความท้าทายที่จะทำให้ยุโรปเติบโตมากกว่า การว่างงานต่างหากที่เป็นภัยร้ายแรง เพราะมันไปสู่การฆ่าตัวตาย"

- นักศึกษาคนอื่นถามว่า "มียาตัวไหนบ้างไหมที่จะรักษาความรุนแรงได้"

พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ทุกวันนี้ การพูดจาใส่ร้ายกันทั้งที่บ้านและตามท้องถนนดูเป็นเรื่องปกติ ความรุนแรงอยู่ในคำพูดของเรา ความจริงข้อนี้อยู่ภายใต้สายตาของเราทุกคน ไม่มีใครปฏิเสธว่าทุกวันนี้เรากำลังอยู่ในสงคราม มันเป็นสงครามแบบหย่อมๆ แต่นี่แหละคือสงครามโลกครั้งที่สาม เราต้องพูดให้น้อยลงและรับฟังกันให้มากขึ้น ต้องฟังอย่างรอบคอบ และคิดก่อนจะตอบอะไรออกไป! ตัวยารักษาความรุนแรงก็คือหัวใจของเรานี่แหละ ก่อนจะโต้เถียงอะไรนั้น จงพูดจาแลกเปลี่ยนมุมมองกันเสียก่อน 'ถ้าคุณคิดต่างจากผม เรามาพูดกันซิ'  การเสวนาพูดจากันนำคนและหัวใจให้ใกล้ชิดกัน การสนทนาพูดจากันนำไปสู่มิตรภาพ

"เราจำเป็นต้องอดทนเวลาเสวนาพูดจากัน ที่ใดที่ไม่มีการเสวนาพูดจากัน ที่นั่นจะมีความรุนแรง สงครามเริ่มต้นในจิตใจของเรา เมื่อเราไม่สามารถเปิดตัวเองหาผู้อื่น เคารพผู้อื่น พูดกับผู้อื่น เสวนากับผู้อื่น เมื่อนั้นแหละสงครามเริ่มขึ้นแล้ว เมื่อเราอยู่บนโต๊ะอาหาร แล้วเราไม่พูดจากัน เราเอาแต่คุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความ มันเป็นจุดเริ่มของสงคราม เพราะเราไม่เสวนาพูดจากัน"