โป๊ปฟรังซิส - ผู้ประกาศพระวาจาต้องตรงไปตรงมา ภาวนา และทำตัวเหมือนแกะในฝูงหมาป่า

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คุณสมบัติของผู้ประกาศพระวาจาของพระเจ้า มี 3 ข้อหลักๆ ได้แก่ ต้องตรงไปตรงมา ต้องสวดภาวนา และต้องทำตัวให้เหมือนแกะท่ามกลางฝูงสุนัขป่า 

  • อันดับแรก พระวาจาของพระเจ้าต้องได้รับการนำเสนอด้วยความตรงไปตรงมา ถ้าปราศจากความตรงไปตรงมา คุณจะไม่ได้ประกาศพระวาจา แต่คุณจะพูดแค่สิ่งที่ดูดีมีศีลธรรม พูดให้ตัวเองดูดีและดูเหมือนรักเพื่อนมนุษย์เท่านั้น 

  • อันดับสอง พระวาจาของพระเจ้าต้องได้รับการประกาศด้วยการภาวนา ถ้าไม่ภาวนา มันไม่ต่างจากคุณกำลังจัดการสัมมนาขึ้นมา 

  • อันดับสาม อย่าทำตัวเหมือน "หมาป่าในฝูงหมาป่า" เพราะถ้าทำตัวแบบนี้ พระเจ้าจะไม่ปกป้องท่าน แต่เวลาประกาศพระวาจาของพระเจ้า จงทำตัวเป็น "แกะในฝูงหมาป่า"




ช่วงเช้าวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา วันนี้ พระศาสนจักรกำหนดให้ระลึกถึงนักบุญซีริลและนักบุญเมโทดิโอ องค์อุปถัมภ์ของทวีปยุโรป บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เปาโลและบาร์นาบัสกล่าวกับชาวยิวว่า "จำเป็นที่เราต้องประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้ท่านฟังก่อนผู้อื่น แต่เมื่อท่านปฏิเสธไม่ยอมรับและไม่คิดว่าตนเหมาะสมจะได้รับชีวิตนิรันดร เราจึงหันไปหาคนต่างศาสนา" ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงส่งศิษย์ 72 คนออกไปทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ และสั่งพวกเขาว่า "เราส่งท่านไปเหมือนลูกแกะในฝูงสุนัขป่า"

พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า

- มันจำเป็นต้องมีผู้หว่านพระวาจา ต้องมีธรรมทูต และต้องมีผู้ประกาศพระวาจาที่แท้จริงที่จะจัดตั้งกลุ่มประชากรของพระเจ้า เหมือนอย่างที่นักบุญซีริลและนักบุญเมโทดิโอ ผู้ประกาศที่แสนดี ทั้งยังเป็นพี่น้องผู้กล้าหาญ ผู้เป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า และยังเป็นองค์อุปถัมภ์ของทวีปยุโรป ท่านทั้งสองคือคนที่ทำให้ยุโรปเข้มแข็งยิ่งขึ้น วันนี้ พ่อจึงอยากแบ่งปัน 3 คุณสมบัติเด่นของการเป็นทูต อาทิ คนที่ถูกส่งออกไปเพื่อประกาศพระวาจาของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นนักบุญเปาโลหรือนักบุญบาร์นาบัสในบทอ่านแรก หรือจะเป็นศิษย์ 72 คนที่เราได้ยินในพระวรสาร

- คุณสมบัติแรกของการเป็นทูตคือความตรงไปตรงมา ซึ่งรวมไปถึงความเข้มแข็งและความกล้าหาญ พระวาจาของพระเจ้าไม่สามารถได้รับการแจกจ่ายเหมือนกับข้อเสนอ  แต่พระวาจาของพระเจ้าต้องได้รับการนำเสนอด้วยความตรงไปตรงมา นำเสนอด้วยพลัง และด้วยความกล้าหาญ

- คนที่ไม่มีความกล้าทางจิตใจคือคนที่ไม่ได้หลงรักพระเยซู ... คุณอาจพูดบางสิ่งที่น่าสนใจ บางสิ่งที่มีศีลธรรม บางสิ่งที่ทำให้คุณดูดี ดูรักเพื่อนมนุษย์ แต่มันไม่ใช่พระวาจาของพระเจ้า คำพูดแบบนี้ไม่สามารถรวบรวมประชากรของพระเจ้า แต่มันมีเพียงพระวาจาของพระเจ้าที่ไดัรับการประกาศด้วยความตรงไปตรงมาและด้วยความกล้าหาญเท่านั้น ที่สามารถรวบรวมประชากรของพระเจ้าได้

- คุณสมบัติที่สองคือการสวดภาวนา พระวาจาของพระเจ้าต้องได้รับการประกาศด้วยการภาวนา หากปราศจากการสวดภาวนา คุณจะมีแค่การสัมมนาดีๆ คำสั่งดีๆ ใช่มันดีงาม แต่มันไม่ใช่พระวาจาของพระเจ้า เพราะพระวาจาของพระเจ้ามาจากจิตใจที่ภาวนาเท่านั้น

- คุณสมบัติที่สามอยู่ในพระวรสารวันนี้ นั่นคือ พระเจ้าทรงส่งศิษย์ของพระองค์ให้เป็นเหมือนลูกแกะในฝูงสุนัขป่า หลายคนอาจถามว่า 'พระเจ้าข้า พวกมันจะกินเราไหม' ไปเถอะ นี่คือการเดินทาง พ่อคิดถึงนักบุญคริสโซสตอมซึ่งได้รำพึงไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งมากว่า 'ถ้าท่านไม่ไปเหมือนแกะ ท่านก็จะไปเหมือนสุนัขป่าที่อยู่ท่ามกลางฝูงสุนัขป่า ถ้าเป็นแบบนี้ พระเจ้าจะไม่ปกป้องท่าน แต่เป็นท่านต่างหากที่ต้องป้องกันตัวเอง' สิ่งนี้หมายความว่า เมื่อผู้เทศน์เชื่อว่าตนเองอัจฉริยะ หรือคนที่มีหน้าที่นำพระวาจาของพระเจ้าไปข้างหน้าพยายามที่จะเป็นคนฉลาด อาทิ 'เราสามารถเดินไปข้างหน้ากับสัตบุรุษเหล่านี้ได้นะ' ถ้าเป็นแบบนี้ ตอนจบจะเป็นไปอย่างเลวร้าย หรือถ้าคุณจะต่อรองพระวาจาของพระเจ้า เพื่ออำนาจหรือความทะนงตน ทุกสิ่งก็จะจบแบบเลวร้ายเช่นกัน