โป๊ปฟรังซิส - การสบประมาทหรือดูหมิ่นคนอื่นไม่ต่างจากการฆ่าคน

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน การสบประมาทหรือดูหมิ่นคนอื่นไม่ต่างจากการฆ่าคน เพราะนี่คือการฆ่าหัวใจของเพื่อนมนุษย์และยังรุกรานศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขาด้วย 

  • ทรงย้ำ การมีชู้เปรียบเหมือนการขโมยและโกง พร้อมยืนยันคำสอนของพระเยซู "ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ท่านก็ได้ล่วงประเวณีกับเธอในใจแล้ว"




ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า "เรามาเพื่อปรับปรุงให้คำสอนของประกาศกสมบูรณ์ ... ถ้ามีข้อบาดหมางกับใครก่อนถวายเครื่องบูชา จงไปคืนดีก่อนถวายเครื่องบูชา ... ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ท่านก็ได้ล่วงประเวณีกับเธอในใจแล้ว ผู้ใดที่หย่ากับภรรยา ยกเว้นกรณีแต่งงานไม่ถูกต้อง ก็เท่ากับทำให้นางล่วงประเวณี และผู้ใดที่แต่งกับหญิงที่หย่าร้าง ก็ล่วงประเวณีด้วย ... อย่าสาบานเลย อย่าอ้างถึงสวรรค์ เพราะเป็นที่ประทับของพระเจ้า อย่าอ้างถึงแผ่นดิน เพราะเป็นที่รองพระบาทของพระองค์"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- สิ่งที่กล่าวในพันธสัญญาเดิมนั้นถูกต้อง แต่ไม่ทั้งหมด พระเยซูเสด็จมาเติมเต็มและสนับสนุนพระบัญญัติของพระเจ้าในหนทางที่ชัดเจนที่สุด ... พระเยซูสอนวิธีการทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสมบูรณ์แบบ พระองค์ทรงใช้คำว่า 'ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ได้ดีไปกว่าพวกฟาริสี ท่านจะเข้าสวรรค์ไม่ได้เลย' ความชอบธรรมนี้ถูกทำให้มีชีวิตด้วยความรักและความเมตตา เพื่อเราจะได้ปฏิบัติตามสาระสำคัญของพระบัญญัติ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของรูปแบบทางการ คำว่ารูปแบบในที่นี้หมายความว่า 'ฉันทำสิ่งนี้ได้ ฉันทำสิ่งนั้นไม่ได้ มาถึงตรงนี้ ฉันสามารถทำได้ ส่วนขั้นนี้ ฉันทำไม่ได้' ไม่นะ เราอย่าเป็นแบบนี้เลย

- พระบัญญัติ "อย่าฆ่าคน" พระเยซูยืนยันแล้วว่ามันไม่ได้หมายถึงแค่การฆ่าคนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความประพฤติที่รุกรานศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่น อาทิ การสบประมาททางวาจา สิ่งนี้อาจไม่รุนแรงหรือมีความผิดทางอาญาเหมือนการฆ่าคน แต่มันอยู่ในขอบข่ายเดียวกัน เพราะมันคือการแสดงออกถึงเจตนาร้าย เราเคยชินกับการสบประมาท ... มันเหมือนกับการฆ่าคน คนที่สบประมาทพี่น้องของตน เขาก็ฆ่าหัวใจของพี่น้องไปแล้ว ดังนั้น ได้โปรดอย่าสบประมาท เพราะเราไม่ได้อะไรจากสิ่งนี้

- การเติมเต็มต่อมาก็คือกฏการแต่งงาน การมีชู้คือการละเมิดสิทธิของชายและหญิง พระเยซูทรงย้ำว่านี่คือรากเหง้าของความชั่ว คนหนึ่งฆ่าคนผ่านทางการสบประมาท เช่นเดียวกับคนหนึ่งคบชู้โดยผ่านทางการจงใจครอบครองหญิงอื่นนอกเหนือจากภรรยาของตน การมีชู้เปรียบเหมือนการขโมยและการโกง พระเยซูสอนเราว่า 'ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ท่านก็ได้ล่วงประเวณีกับเธอในใจแล้ว' ขอให้เราคิดสักนิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คิดเกี่ยวกับปีศาจที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับเรา

- สุดท้าย พระเยซูสอนว่าอย่าสาบาน นี่คือเครื่องหมายของความไม่แน่นอน มันคือการใช้อำนาจของพระเจ้าเป็นเครื่องมือการันตีกิจการของมนุษย์ ตรงกันข้าม เราต่างหากที่ถูกเรียกมาให้สร้างความวางใจกันและกันในหมู่พวกเราเอง