โป๊ปฟรังซิส - ชีวิตนี้เรามีดาวหลายดวงให้เดินตาม แต่หวังว่า ดาวที่เราเลือกตามจะเป็นดาวของพระเยซู

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยกย่อง โหราจารย์ 3 องค์เป็นแบบอย่างของคนที่กระหายหาพระเจ้าในชีวิตและไม่ยอมให้หัวใจตายด้านเหมือนกษัตริย์เฮร็อด 

  • ทรงสอน ชีวิตนี้เรามีดวงดาวให้ติดตามหลายดวง แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ดาวที่เราเลือกเดินตามจะเป็นดวงดาวของพระเยซู



ช่วงสายวันศุกร์ที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน (วาติกันสมโภชตรงวันตามประเพณีดั้งเดิม ส่วนพระศาสนจักรประเทศต่างๆ เลื่อนไปฉลองวันอาทิตย์หลังวันที่ 6 มกราคม) ความสำคัญของวันนี้คือเป็นวันที่โหราจารย์ 3 คนเดินตามดวงดาวที่นำทางพวกเขามายังเมืองเบ็ธเลเฮม เพื่อนมัสการพระกุมารเยซู

สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า

- โหราจารย์ทั้งสามเป็นแบบอย่างของคนที่เชื่อและกระหายหาพระเจ้าเป็นอย่างมาก นี่คือแบบอย่างของคนที่แสวงหาบ้านของตนซึ่งก็คือบ้านในสวรรค์ ท่านทั้งสามแบ่งปันเราเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของคนที่ดำเนินชีวิตแบบที่ไม่ยอมให้หัวใจไร้ความรู้สึก เพราะท่านแสวงหาพระเจ้าตลอดเวลา

- เราต้องเป็นเหมือนโหราจารย์ทั้งสาม การกระหายหาพระเจ้าอย่างเปี่ยมล้นได้ช่วยเราในการรักษาความตื่นตัวในการเผชิญหน้ากับความพยายามที่จะลดทอนและทำให้ชีวิตดูยากไร้สิ้นหวัง การกระหายหาพระเจ้าช่วยเรารักษาความหวังให้ดำรงอยู่ในกลุ่มของผู้มีความเชื่อ ซึ่งสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าก็ยังเดินหน้าวิงวอนอย่างต่อเนื่องว่า 'โปรดเสด็จมาเถิด พระเยซูเจ้า'

- คนที่กระหายหาพระเจ้าจะได้รับการนำทางด้วยความเชื่อที่จะแสวงหาพระองค์เหมือนอย่างโหราจารย์ทั้งสาม เขาจะแสวงหาพระเจ้าในพื้นที่ที่ห่างไกลสุดของประวัติศาสตร์ พวกเขารู้อยู่แล้วว่า พระเจ้าทรงรอคอยพวกเขาอยู่เสมอ พวกเขาไปยังพื้นที่ชายขอบ ไปยังพรมแดนต่างๆ ไปยังที่ที่ไม่มีใครไปประกาศข่าวดี พวกเขาไปเพื่อจะได้พบกับพระเจ้า

- ทัศนคติของโหราจารย์ทั้งสามแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอำนาจที่อยู่ในวังของเฮร็อด เขา (เฮร็อด) เซื่องซึมและไร้ความรู้สึกจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตายด้าน เขาสับสนและหวาดกลัว มันเป็นความสับสนเวลาเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ ที่จะมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อย่างสิ้นเชิง ความสับสนนี้เกิดจากความกลัวและความไม่สบายใจก่อนที่มันจะท้าทายเรา

- โหราจารย์ทั้งสามได้พบกับสิ่งที่พวกเขาแสวงหาซึ่งไม่ได้อยู่ในวัง พวกเขาไม่ได้เห็นดวงดาวนำทางไปพบกับพระเจ้าในวังของเฮร็อด แต่สิ่งที่พวกเขาแสวงหาอยู่ในการดำเนินชีวิตแบบธรรมดาทั่วไป สิ่งที่โหราจารย์ทั้งสามพบคือคำสัญญาของความใหม่ที่เกิดขึ้น พวกเขาคุกเข่าลงต่อทารกตัวเล็กๆ ซึ่งยากไร้และต่ำต้อย นี่คือทารกที่ไม่มีใครคิดถึงในเมืองเบ็ธเลเฮม แต่นี่แหละพวกเขาได้พบกับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าแล้วนั่นเอง

หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร โอกาสนี้ พระองค์ทรงขอให้ทุกคนได้รับการนำทางจากดวงดาวของพระเยซู เพราะในชีวิตนี้ เรามีดาวหลายดวงให้มอง มันขึ้นกับเราว่าเราจะเลือกเดินตามดาวดวงไหน ซึ่งพระสันตะปาปาหวังว่า เราจะเลือกติดตามพระเยซู

ทั้งนี้ เมื่อการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวจบลง พระสันตะปาปาทรงให้อาสาสมัครที่เป็นผู้ยากไร้ซึ่งอาศัยรอบๆ วาติกัน ได้ทำการแจกจ่ายหนังสือ "แบบอย่างของความเมตตา" ให้กับทุกคน และหลังจากนี้ พระสันตะปาปาทรงจัดเตรียมอาหารเที่ยงให้ผู้ยากไร้เหล่านี้ด้วย