โป๊ปฟรังซิส - ถ้าสังคมมีคนยึดความยากจนฝ่ายจิตมากเท่าไหร่ ความแตกแยกในสังคมจะลดลงมากเท่านั้น
- สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ถ้าสังคมของเรามีคนที่ยึดความยากจนฝ่ายจิตมากเท่าไหร่ ความแตกแยกและความขัดแย้งในสังคมจะลดลงมากเท่านั้น
- ทรงอธิบาย คนที่ยึดความยากจนฝ่ายจิตคือคนที่ไม่แสวงหาสิ่งต่างๆ แบบตะกละ เพราะนิสัยแบบนี้ทำลายจิตวิญญาณและไม่นำเราไปพบความสุขแท้จริง
- ทรงชี้ คนที่ยึดความยากจนฝ่ายจิต ไม่ได้หมายความว่า เขาตัดสิ่งต่างๆ ออกจากชีวิต แต่เขาคือคนที่ตระหนักถึงคุณค่าว่าสิ่งใดจำเป็น และสามารถที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่นได้

ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนเรื่อง "ความสุขแท้จริง" (มหาบุญลาภ)
พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า
- บทสอนของพระเยซูเรื่องความสุขแท้จริงจัดเป็นสุดยอดของมหาบทบัญญัติสำหรับคริสตชน พระเยซูทรงเผยแสดงถึงพระประสงค์ของพระเจ้าที่นำมนุษย์ไปพบความสุขแท้จริง พ่อขอแบ่งปันความสุขแท้จริงประการแรก นั่นคือ 'ผู้มีใจยากจนย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา' คนที่ดำเนินชีวิตด้วยความยากจนฝ่ายจิต (ไม่ฟุ้งเฟ้อ) คือคนที่พัฒนาความรู้สึกและทัศนคติของคนยากจนมาสู่ตนเอง เขาสุภาพถ่อมตน นบนอบ และเปิดตนเองให้กับพระหรรษทานของพระเจ้า
- ความยากไร้ของคนยากจนฝ่ายจิตมีสองมิติ กล่าวคือ เขาจะมีความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ และพระเจ้า ในกรณีของสิ่งของต่างๆ มันไม่ได้หมายความว่าเขาตัดทุกสิ่งออกจากชีวิต แต่มันหมายความว่า เขาสามารถที่จะตระหนักถึงคุณค่าว่าสิ่งใดจำเป็น ตระหนักถึงความสามารถที่จะแบ่งปัน และมองเห็นคุณความดีของสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
- 'ยิ่งเรามีมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งอยากได้มันมากเท่านั้น' นี่คือการแสวงหาสิ่งต่างๆ อย่างตะกละ นิสัยแบบนี้ทำลายจิตวิญญาณ มันทำให้เราไม่มีความสุขและไม่มีวันบรรลุถึงความสุขแท้จริง
- ความยากจนฝ่ายจิตยังหมายถึงคริสตชนที่ไม่ได้ยึดติดกับตนเอง ไม่ยึดติดกับความร่ำรวยทางวัตถุ มันยังหมายถึงคนที่ไม่เอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่คอยรับฟังคนอื่นด้วยความเคารพและเต็มใจที่จะฟังการตัดสินใจของคนอื่น ถ้าสังคมของเรามีคนที่ถือความยากจนฝ่ายจิตมากๆ ความแตกแยกในสังคมจะลดลง ความขัดแย้งและการทะเลาะกันจะลดลงด้วย