โป๊ปฟรังซิส - คนที่ดูหมิ่นผลงานของพระจิตจะไม่ได้รับการอภัย

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระเยซูตรัสสอนชัดเจนว่า "พระเจ้าให้อภัยทุกอย่าง แต่ใครที่ดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย" 

  • คนพวกนี้ได้แก่พวกที่ดูหมิ่นเรื่องแม่พระตั้งครรภ์ด้วยผลงานของพระจิต คนที่ดูหมิ่นความรักของพระเจ้า ดูหมิ่นการไถ่กู้ และดูหมิ่นความเป็นสงฆ์ของพระคริสตเจ้า 

  • ทรงชี้ ไม่ใช่พระเจ้าไม่ให้อภัยคนเหล่านี้ แต่เป็นเพราะคนเหล่านี้พูดจาดูหมิ่น และปิดตัวเองจากการอภัยโทษของพระเจ้าต่างหาก 



ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฮีบรู ท่านสอนว่า "พระคริสตเจ้าทรงเป็นคนกลางของพันธสัญญาใหม่ พระเยซูคือสมณะผู้สูงสุด"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- ความเป็นสงฆ์ของพระคริสตเจ้ามีสิ่งน่าพิศวงอยู่ 3 ลำดับ ลำดับแรกคือการไถ่กู้ กล่าวคือขณะที่สมณะของพันธสัญญาเดิมได้ถวายบูชาทุกปี พระคริสตเจ้าทรงมอบพระองค์เองเพียงครั้งเดียวเพื่อเราทุกคน ทั้งนี้ เพื่อยกโทษบาป  อาศัยสิ่งที่น่าพิศวงนี้ พระคริสตเจ้าทรงนำเราไปหาพระบิดา พระองค์ทรงสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของสิ่งสร้างทุกชนิดขึ้นมาอีกครั้ง ความพิศวงลำดับที่สองคือสิ่งที่พระเจ้ากำลังทำอยู่ในตอนนี้ นั่นคือ พระองค์กำลังภาวนาเพื่อเราแต่ละคน พ่อขอย้ำว่า ณ ตอนนี้ เวลานี้ พระคริสตเจ้าทรงกำลังภาวนาเพื่อเราต่อหน้าพระบิดา พระองค์ภาวนาเพื่อที่ความเชื่อของเราจะไม่ตะกุกตะกัก ในความเป็นจริง ลองถามตัวเองซิว่า บ่อยครั้งแค่ไหนที่เราขอร้องพระสงฆ์ให้สวดภาวนาเพื่อเรา เราทำแบบนี้เพราะเรารู้ว่าคำภาวนาของพระสงฆ์มีฤทธานุภาพแน่ชัด เฉพาะอย่างยิ่งการถวายบูชามิสซา ความพิศวงลำดับที่สามคือพระคริสตเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้ง พระองค์จะกลับมาเพื่อนำเราไปพระบิดา นี่คือการเสด็จมาเพื่อสร้างอาณาจักรสวรรค์ ทั้งหมดนี้คือความน่าพิศวง 3 ลำดับที่ยิ่งใหญ่ในความเป็นสงฆ์ของพระคริสตเจ้า พระองค์ทรงยกโทษบาป ทรงภาวนาเพื่อเรา และจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

- ในทางกลับกัน มีสิ่งหนึ่งที่ยากแก่การให้อภัย มันยากนะที่จะได้ยินพระเยซูพูดแบบนี้ แต่พระองค์ก็พูดไว้จริงๆ นั่นคือ 'เราบอกความจริงแก่ท่านว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกประการ รวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าที่พูดออกไป แต่ใครที่ดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย' (มก 3:28)

- แม้แต่พระเยซูผู้เป็นสมณะผู้สูงสุดยังต้องรับการเจิม ว่าแต่ การเจิมครั้งแรกเกิดตอนไหน คำตอบคือตอนที่แม่พระตั้งครรภ์โดยฤทธานุภาพของพระจิตนั่นไง ฉะนั้น ใครก็ตามที่ดูหมิ่นเรื่องนี้ (แม่พระตั้งครรภ์ด้วยพระจิต) ดูหมิ่นความรักของพระเจ้า ดูหมิ่นการไถ่กู้ของพระเจ้า ดูหมิ่นการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของสิ่งสร้างทุกชนิดขึ้นมาอีกครั้ง และดูหมิ่นความเป็นสงฆ์ของพระคริสตเจ้า เขาก็จะไม่ได้รับการอภัย

- หลายคนอาจถามพ่อว่า 'พระเจ้าไม่ได้อภัยทุกอย่างเหรอ' ใช่ พระเจ้าอภัยทุกอย่าง แต่คนที่พูดสิ่งเหล่านี้ปิดตัวเองจากการอภัยโทษของพระเจ้า เขาไม่อยากให้พระเจ้าอภัยเขา นี่คือเรื่องน่าเกลียดที่สุดของการดูหมิ่นผลงานของพระจิต

- ดังนั้น พ่ออยากให้เราไตร่ตรองถึงความเป็นสงฆ์ของพระคริสตเจ้า ผู้ทรงไถ่กู้เรา ผู้ทรงกำลังภาวนาเพื่อเรา และผู้จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ อยากให้เราวอนขอพระหรรษทานจากพระเจ้า เพื่อหัวใจของเราจะไม่ปิดตายในการขอรับการอภัยโทษจากพระเจ้า ไม่ใช่ว่าพระเจ้าไม่อยากอภัยโทษทุกสิ่ง แต่มันเป็นเพราะคนๆ นั้น ปิดตัวเองจากการอภัยโทษต่างหาก เขาดูหมิ่นความน่าพิศวงของพระเยซูคริสต์และพระจิตเจ้า