โป๊ปฟรังซิส - พระศาสนจักรต้องประกาศเรื่องพระเยซูเป็นพระผู้ไถ่ ไม่ใช่ประกาศเรื่องของตัวเอง

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระศาสนจักรมีหน้าที่ประกาศให้โลกรู้ว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ลบล้างบาปของโลก ไม่ใช่ประกาศหรือโปรโมทเรื่องของตัวเอง เพราะถ้าทำแบบนั้น เราเหมือนคนที่ทำเข็มทิศหาย เรากำลังหลงทางและเดินไปแบบไร้จุดหมาย 

  • ทรงขอร้องทุกฝ่ายช่วยปกป้องคุ้มครองผู้อพยพลี้ภัยที่เป็นเด็ก ไม่ให้ตกเป็นทาสของการถูกนำไปขายเป็นทาสและขายบริการทางเพศ



ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ จอห์น แบ๊พติสต์ เห็นพระเยซูเสด็จมาหาตน จึงกล่าวว่า "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ผู้นี้คือผู้ที่ข้าพเจ้าเคยพูดว่า 'บุรุษผู้หนึ่งมาภายหลังข้าพเจ้า แต่นำหน้าข้าพเจ้า เพราะอยู่มาก่อนข้าพเจ้า'"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- สิ่งที่ จอห์น แบ๊พติสต์ กล่าว ถือเป็นการประกาศความเชื่อที่ชัดแจ้งและนี่ก็เป็นพันธกิจของพระศาสนจักร ในทุกยุคสมัย พระศาสนจักรถูกเรียกให้ทำสิ่งที่ จอห์น แบ๊พติสต์ ได้กล่าไว้ นั่นคือ ประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า 'พระเยซูทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก พระองค์เท่านั้นที่เป็นพระผู้ไถ่' พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า พระเยซูทรงถ่อมตนลงมาอยู่ท่ามกลางคนบาปอย่างเรา แม้พระองค์จะเป็นพระเจ้า แต่พระองค์ไม่เคยเบ่งอำนาจที่มีเลย

- คำว่า 'นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก' เป็นคำที่พวกเราพระสงฆ์พูดซ้ำทุกวันในมิสซา แต่วิบัติจะเกิดกับเราเมื่อเราไม่ประกาศว่าพระเยซูเป็นผู้ทรงลบล้างบาปของโลก แต่เราดันไปประกาศตัวเราเอง ถ้าเราทำแบบนี้ เรากำลังสูญเสียเข็มทิศนำทางและแน่นอน เราหลงทางแล้ว พระศาสนจักรจะไม่รู้เลยว่าเรากำลังเดินไปทางไหน ส่วนพระศาสนจักรที่ประกาศพระเยซูคริสต์ และไม่ประกาศเรื่องของตัวเอง พระศาสนจักรแบบนี้นี่แหละที่นำพระคริสตเจ้าไปมอบให้สัตบุรุษ ดังนั้น ขอให้เราทุกคนตระหนักเสมอว่า มีเพียงพระเยซูเท่านั้นและเพียงผู้เดียวที่ช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดพ้นจากบาป และนำเราไปสู่เสรีภาพที่แท้จริง

หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงกล่าวทักทายทุกคน โอกาสที่วันนี้เป็น "วันเพื่อผู้อพยพและผู้ลี้ภัย" ซึ่งปีนี้ พระศาสนจักรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับผู้อพยพลี้ภัยที่เป็นเด็ก ผู้อ่อนแอ และผู้ที่ไม่มีสิทธิไม่มีเสียงในสังคม

พระสันตะปาปาตรัสว่า "เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องทำให้เกิดความมั่นใจทุกขั้นตอนว่า มันมีการคุ้มครองและป้องกันผู้อพยพลี้ภัยที่เป็นเด็กทุกคน เฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาต้องไม่ตกอยู่ในอันตรายของการถูกนำไปขายเป็นทาสและขายบริการทางเพศ"