โป๊ปฟรังซิส - คริสต์มาสคือวันที่เราต้องสนใจเด็กที่ทนทุกข์จากสงครามและเด็กที่ถูกปฏิเสธจากสังคม

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องคาทอลิกทั่วโลก วันคริสต์มาสคือวันที่เราต้องสนใจเด็กๆ ที่ทนทุกข์จากสงคราม เด็กที่พ่อแม่ไม่อยากให้เกิดมา และเด็กที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามข้างถนน 

  • เพราะในความเป็นจริง คืนที่พระเยซูบังเกิด พระองค์ก็เผชิญเรื่องแบบนี้เช่นกัน เริ่มจากที่พักเต็มหมดจึงต้องบังเกิดอยู่ในรางหญ้าคอกเลี้ยงสัตว์ 

  • ทรงเตือน อย่าให้คริสต์มาสเป็นวันฉลองเพื่อตัวเอง และห่วงแต่ว่าจะให้ของขวัญอะไรกันดี จนเมินเฉยคนที่ถูกทอดทิ้ง เพราะแก่นแท้ของวันนี้คือเราฉลองเพื่อพระเยซู 











ช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระคริสตสมภพ ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า

- ถ้าเราต้องการจะฉลองวันคริสต์มาสอย่างถูกต้อง เราจำเป็นต้องไตร่ตรองเครื่องหมายเหล่านี้ นั่นคือ ความเรียบง่ายอันอ่อนแอของทารกตัวเล็กๆ ความสุภาพอ่อนโยนที่เด็กเหล่านี้มี ความรักอันนุ่มละมุนของผ้าที่ห่อหุ้มตัวพวกเขา พระเจ้าคือสิ่งเหล่านี้นี่แหละ

- อาศัยเครื่องหมายเหล่านี้ พระวรสารได้แสดงถึงสิ่งที่ดูขัดแย้งกัน กล่าวคือ มีการพูดถึงจักรพรรดิ ผู้สำเร็จราชการ และช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ แต่พระเจ้าไม่ได้ปรากฏพระองค์อยู่ในสิ่งเหล่านั้น เช่นเดียวกัน พระเจ้าไม่ปรากฏพระองค์ในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง แต่พระเจ้าปรากฎพระองค์อยู่ในความยากจนของคอกเลี้ยงสัตว์ พระเจ้าไม่ได้ปรากฎพระองค์ในความหรูหรา แต่พระองค์ปรากฎองค์ในความเรียบง่ายของชีวิต ปรากฎในสิ่งที่ต่ำต้อยที่สุดซึ่งทำให้เราเซอร์ไพรส์มากๆ การจะได้พบกับพระเจ้า เราจำเป็นต้องออกไปยังที่นั่น ที่ซึ่งพระเจ้าประทับอยู่ นั่นคือ เราจำเป็นต้องถ่อมตัวลงให้ต่ำต้อยเข้าไว้

- พระกุมารที่บังเกิดมาทรงเรียกร้องเราทุกคน พระองค์ทรงเรียกร้องเราให้ละทิ้งภาพมายาต่างๆ ไว้ข้างหลังและก้าวไปหาแก่นที่แท้จริง พระองค์ทรงเรียกร้องเราให้ละทิ้งการเรียกร้องที่เต็มไปด้วยความโลภของเรา ทรงเรียกร้องให้เราละทิ้งความไม่พอใจที่ไม่รู้จบสิ้น และความเสียใจในสิ่งที่เราไม่เคยมี การเรียกร้องนี้จะช่วยเราให้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้ข้างหลัง เพื่อจะได้พบกับความเรียบง่ายของพระเจ้าพระกุมาร พบกับความสงบ ความชื่นชมยินดี และความหมายของชีวิต

- ขอให้เรายอมให้พระกุมารในรางหญ้าท้าทายเราด้วยการละทิ้งสิ่งเหล่านี้ นอกจากนี้ ขอให้เรายอมถูกท้าทายจากเด็กๆ ในโลกทุกวันนี้ ซึ่งไม่ได้นอนอยู่ในเตียงเด็กอันอบอุ่นพร้อมกับความรักของพ่อแม่ แต่ต้องทนทุกข์ทรมานจากรางหญ้าสุดเลวร้ายซึ่งกัดกินศักดิ์ศรีความเป็นคนของพวกเขา กล่าวคือ เด็กเหล่านี้ตกหลบซ่อนอยู่ใต้ดินเพื่อหนีจากการทิ้งระเบิด เด็กที่อาศัยตามข้างถนนในเมืองใหญ่ เด็กที่อยู่ใต้ท้องเรือซึ่งบรรทุกผู้อพยพมาเต็มลำ นอกจากนี้ ขอให้เรายอมให้ตนเองถูกท้าทายจากเด็กซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดมา รวมไปถึงเด็กที่กรีดร้องด้วยความอดอยาก เด็กที่ในมือไม่มีของเล่นจะเล่น แต่ต้องอยู่กับพวกอาวุธแทน

- ธรรมล้ำลึกของวันคริสต์มาสซึ่งเป็นความสว่างและความชื่นชมยินดี ได้นำความสงสัยและความหวั่นไหวมาให้เรา เพราะมันยังเป็นธรรมล้ำลึกของความหวังและความเศร้าอีกด้วย สิ่งนี้ได้เกิดกับนักบุญโยเซฟและแม่พระ ซึ่งพบว่าประตูสถานที่ต่างๆ ปิดไม่ต้อนรับ เนื่องจากที่พักต่างๆ เต็มหมด ทำให้พระเยซูต้องมาบังเกิดในรางหญ้าแทน พระเยซูประสูติมาโดยถูกบางคนปฏิเสธและไม่รู้สึกสงสาร วันนี้ก็เช่นกัน การไม่รู้สึกทุกข์ร้อนหรือสงสารแบบนี้ยังคงเกิดขึ้น เมื่อวันคริสต์มาสกลายเป็นวันที่เราฉลองเพื่อตัวเอง มากกว่าจะเพื่อพระเยซู เมื่อแสงของการค้ามากลบแสงสว่างของพระเจ้า เราจึงสนใจแต่เรื่องของขวัญ แต่เราเฉยชากับคนที่กลายเป็นส่วนเกินของสังคม

- ดังนั้น ขอให้เราเข้าไปใกล้ชิดกับพระเจ้าผู้ทรงมาใกล้ชิดเรา ขอให้เราหยุดสักครู่ มองไปยังถ้ำพระกุมารและคิดถึงการบังเกิดของพระเยซู จินตนาการดูว่ามีความสว่าง ความสงบ และแน่นอน ความยากไร้และการถูกปฏิเสธ ขอให้เราเข้าสู่เหตุการณ์การบังเกิดอย่างแท้จริงไปกับบรรดาคนเลี้ยงแกะ ขอให้เรานำพระเยซูไปมอบให้กับทุกคน ในพระเยซู เราจะชื่นชมยินดีกับรสชาติจิตวิญญาณแท้จริงของคริสต์มาส นั่นคือ ความงดงามของการได้รับความรักจากพระเจ้า ขอให้เรารำพึงไตร่ตรองถึงความสุภาพถ่อมตนและความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า ขอให้เราพูดกับพระองค์ว่า ขอบคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเรา