โป๊ปฟรังซิส: การปฏิรูปโรมันคูเรียจะเกิดเมื่อผู้ปฏิบัติงานกลับใจ + เป็นธรรมดาหากปฏิรูปแล้วเจอต่อต้าน

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ การปฏิรูปโรมันคูเรียจะเกิดเมื่อผู้ปฏิบัติงานกลับใจและเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างแท้จริง 

  • การปฏิรูปนี้ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามหรือลบริ้วรอยบนใบหน้า แต่เราทำเพื่อกำจัดจุดด่างดำต่างหาก 

  • ทรงสอน เป็นเรื่องปกติเวลาทำการปฏิรูปแล้วเจอต่อต้าน 

  • การต่อต้านมี 3 แบบคือ ต่อต้านด้วยความตั้งใจดี ต่อต้านแบบแอบๆ ด้วยหัวใจแข็งกระด้าง และต่อต้านโดยมีเจตนาร้ายซึ่งทำให้ตัวเองดูดีคนเดียว ส่วนคนอื่นผิดเสมอ 

  • ทรงแนะแนวทางปฏิรูปโรมันคูเรีย 12 ประการ พร้อมหวังเห็นโรมันคูเรียให้ความสำคัญกับบทบาทของสตรีและฆราวาสในการเป็นผู้นำหน่วยงานต่างๆ ด้วย



ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรมัน คูเรีย (หน่วยงานบริหารพระศาสนจักรส่วนกลาง) ที่มาเข้าเฝ้าถวายพระพรโอกาสวันคริสต์มาส ทั้งนี้ ปี 2014 พระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับพนักงานในโรมันคูเรีย พระองค์ตรัสถึง "โรคร้ายในโรมันคูเรีย" ส่วนปี 2015 พระองค์ตรัสถึง "คุณธรรมที่สมาชิกโรมันคูเรียต้องมี" ส่วนปีนี้ พระสันตะปาปาทรงให้แนวทาง 12 ประการในการปฏิรูปโรมันคูเรีย ซึ่งกระบวนการปฏิรูปดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไปมา 3 ปีแล้ว

สำหรับประเด็นสำคัญในพระดำรัสแก่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ในโรมัน คูเรีย มีดังนี้

ประเด็นของการปฏิรูป

- โรมันคูเรียไม่ใช่ระบบราชการที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ดังนั้น การปฏิรูปคือเครื่องหมายของชีวิตอันดับแรกและสำคัญสุด และยังเป็นเครื่องหมายของพระศาสนจักรที่จะเดินไปข้างหน้าบนหนทางแห่งการจาริกนี้ พระศาสนจักรยังมีชีวิต ดังนั้นเราต้องมีการปฏิรูป ประเด็นสำคัญของการปฏิรูปคือเพื่อทำให้โรมันคูเรียมีความสอดคล้องกับพระวรสารและเป็นเครื่องหมายของกาลเวลา และในเวลาเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโรมันคูเรียเอง นั่นคือ เพื่อร่วมทำงานอภิบาลไปกับพระสันตะปาปา หน้าที่ของโรมันคูเรียคือเปรียบได้กับร่างกายที่คอยช่วยพระสันตะปาปา ดังนั้น โรมันคูเรียจึงต้องทำงานรับใช้อยู่เสมอในนามของพระสันตะปาปาและอยู่ใต้อำนาจของพระสันตะปาปา

การปฏิรูปไม่ใช่ศัลยกรรมตกแต่งให้ดูดีขึ้น

- การปฏิรูปคือกระบวนการในการเจริญเติบโต เฉพาะอย่างยิ่งเติบโตในแง่ของการกลับใจ การปฏิรูปโรมันคูเรียไม่มีวัตถุประสงค์ด้านความสวยงาม นี่ไม่ใช่การแต่งหน้าเสริมสวยบนใบหน้าที่มีอายุของคูเรีย และก็ไม่ใช่การผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติกเพื่อกำจัดริ้วรอย พึงระลึกไว้ว่า ริ้วรอยไม่ใช่สิ่งที่เราต้องกังวล แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือจุดด่างดำต่างหาก! การปฏิรูปจะทำงานอยู่ในคนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่แค่ทำตัวเป็นคนใหม่อย่างเดียว แต่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย สมาชิกโรมันคูเรียจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตฝ่ายจิต ความเป็นมนุษย์ และหน้าที่การงานเสียใหม่ คนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเดียวก็ยังไม่พอ สำคัญกว่านั้นเราต้องกลับใจด้วย เพราะหากปราศจากการเปลี่ยนแปลงของความสามารถฝ่ายจิต ความพยายามเชิงปฏิบัติจะไร้ประโยชน์

ความยากลำบากของการปฏิรูป

- มันเป็นเรื่องปกติ และดูเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่จะมีการแข็งข้อเกิดขึ้นในกระบวนการปฏิรูป พ่อขอกล่าวถึงการต่อต้านสักหน่อย มันมี 3 รูปแบบ หนึ่งคือการต่อต้านที่เกิดจากความตั้งใจดีและและการเสวนากันอย่างจริงใจ สองคือการต่อต้านแบบหลบซ่อนที่เกิดจากหัวใจที่แข็งกระด้างซึ่งพึงพอใจกับคำพูดเลื่อนลอยในการปฎิรูปชีวิตจิต และสาม การต่อต้านโดยมีเจตนาร้ายที่ก่อให้เกิดการแนะนำที่ผิดและปีศาจดลใจให้เกิดความตั้งใจร้าย การต่อต้านแบบนี้มักแอบอยู่หลักคำพูดที่ทำให้ตัวเองดูดีเป็นคนชอบธรรมและชอบกล่าวหาว่าคนอื่นผิดตลอด

แนวทางปฏิรูป 12 ประการ

- พ่อขอนำเสนอแนวทาง 12 ประการเพื่อการปฏิรูป

1) ความรับผิดชอบส่วนบุคคล นี่คือการกลับใจของตัวบุคคล

2) ความห่วงใยด้านการอภิบาล (การกลับใจทางการอภิบาล) ต้องไม่มีใครถูกมองข้ามหรือได้รับการปฎิบัติในทางที่ผิด

3) จิตวิญญาณธรรมทูต กล่าวคือ ให้พระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางของงานที่เราทำ

4) เป็นองค์กรที่ชัดเจน ทุกหน่วยงานรายงานตรงขึ้นกับพระสันตะปาปา ทุกหน่วยงานมีขอบเขตหน้าที่ของตน เราต้องเคารพขอบเขตตรงนี้

5) พัฒนาการทำงานขึ้นไปอีก นี่คือการรวมหน่วยงานที่ทำหน้าที่คล้ายกันเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้งานต่างๆ บรรลุวัตถุประสงค์และมีความเกี่ยวข้องกันมากยิ่งขึ้น

6) ความทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ต่างๆ นี่คือความสามารถในการอ่านและฟังเครื่องหมายของกาลเวลา

7) ความจริงจัง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า การเป็นประจักษ์พยานจะถูกต้องและเที่ยงแท้

8) ส่งเสริมการทำงานของหน่วยงานย่อย คือการถ่ายโอนงานจากหน่วยงานหนึ่งไปอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีความถนัดในงานนั้นมากกว่าได้

9) มีการประชุมกับพระสันตะปาปาและหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ สม่ำเสมอ การลดแผนกที่ทำงานซ้ำซ้อนกัน จะให้การประชุมเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

10) มีความเป็นสากล ทุกหน่วยงานต้องไตร่ตรองเรื่องการจ้างบุคลากรจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญกับบทบาทของสตรีและฆราวาสในการเป็นผู้นำหน่วยงานต่างๆ ของโรมันคูเรีย

11) มีความเป็นมืออาชีพ จงหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในวงล้อเดิมๆ หรือการกลายเป็นเจ้าพนักงานที่ทำงานตามหน้าที่ประจำวันเท่านั้น

12) เปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป มันไม่สำคัญว่าประเด็นเรื่องไหนยังไม่ได้รับการตัดสินใจ แต่สำคัญกว่านั้นคือต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อจะบรรลุถึงการปฏิรูปที่แท้จริง

หลังจากพระสันตะปาปาตรัสจบลง พระองค์ทรงทักทายและอวยพรคริสต์มาสแก่พระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ แบบเป็นกันเองด้วย