โป๊ปฟรังซิส - บางคนมองสิ่งต่างๆ แค่ดำหรือขาวเท่านั้น แต่ไม่แยกแยะสาเหตุที่มาที่ไป

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงตอบนักข่าวที่ถามเรื่องพระคาร์ดินัลสายอนุรักษ์นิยม 4 คน ซึ่งข้องใจเนื้อหาในสมณสาส์น Amoris Laetitia (ความชื่นชมยินดีแห่งความรัก) โดยตรัสว่า บางคนตีความสิ่งต่างๆ แค่ปลายทางว่าถูกหรือผิด แต่ไม่วิเคราะห์เส้นทางนั้นว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น 

  • ทรงย้ำ ความเมตตาเป็นจุดอ่อนของพระเจ้า พระองค์ทรงเมตตาเราเสมอ เราทำผิดและขอโทษพระเจ้า พระองค์ก็ให้อภัยและไม่จดจำความผิดของเรา 

  • ทรงชี้ มะเร็งร้ายในพระศาสนจักรคือพวกที่ตั้งใจแสวงหาอำนาจและหวังจะได้รับการยกย่องจากสถานะในพระศาสนจักร คนพวกนี้ใช้พระศาสนจักรเป็นเครื่องมือเพิ่มความทะเยอทะยาน ถ้าเป็นแบบนี้ จุดจบของพระศาสนจักรคือความแตกแยก





สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์กับ "สเตฟาเนีย ฟาลาสก้า" นักข่าวจาก "อัฟเวนิเร" หนังสือพิมพ์คาทอลิกของอิตาลีในหลายหัวข้อ อย่างไรก็ตาม Pope Report สรุปประเด็นที่น่าสนใจมา 3 หัวข้อ ดังต่อไปนี้

กรณีที่พระคาร์ดินัลสายอนุรักษ์นิยม(กึ่งสุดขั้ว) 4 คน ได้แก่ พระคาร์ดินัล เรย์มอนด์ เบิร์ก (อเมริกัน), พระคาร์ดินัล คาร์โล กัฟฟาร์ร่า (อิตาลี), พระคาร์ดินัลโยอาคิม ไมส์เนอร์ และพระคาร์ดินัล วอลเตอร์ แบรนด์มุลเลอร์ (สองคนหลังมาจากเยอรมนี) ส่งจดหมายเปิดผนึกให้สื่อมวลชน โดยนี่เป็นจดหมายที่พวกเขาทั้งสี่ส่งถึงพระสันตะปาปา ฟรังซิส เพื่อขอให้พระองค์ "เคลียร์ให้ชัดๆ" เกี่ยวกับเนื้อหาบทที่ 8 ในสมณสาส์น Amoris Laetitia (ความชื่นชมยินดีแห่งความรัก) เนื้อหาที่อยากให้พระสันตะปาปาพูดให้ชัดเจนคือเรื่องการอนุญาตให้คู่สมรสที่หย่าร้างรับศีลมหาสนิท สาเหตุที่พระคาร์ดินัลทั้งสี่ ตัดสินใจส่งจดหมายฉบับนี้ให้สื่อมวลชน เพราะพวกเขารอคำตอบจากพระสันตะปาปามา 2 เดือนแล้ว แต่พระองค์ก็ไม่ตอบอะไรกลับมา พวกเขาจึงนำจดหมายดังกล่าวออกมาเผยแพร่ให้สื่อได้รับรู้เชิงกึ่งกดดันพระสันตะปาปา นอกจากนี้ พระคาร์ดินัลทั้งสี่ยังระบุว่า ถ้าพระสันตะปาปาอนุญาตให้คาทอลิกที่หย่าร้างและไปแต่งงานใหม่รับศีลมหาสนิทได้ เท่ากับว่า พระองค์กำลังจะเปลี่ยนแปลงคำสอนของพระศาสนจักรเลยทีเดียว

เรื่องนี้ นักข่าวได้ถามพระสันตะปาปาและพระองค์ตรัสตอบว่า "บางคนมองสิ่งต่างๆ แค่ดำหรือขาว แม้ว่าจะเป็นประเด็นของชีวิต เราก็ต้องเข้าใจและแยกแยะให้เป็น"

ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมที่จบลง

พระสันตะปาปา: "พ่อไม่มีแผนงานใดๆ เป็นพิเศษในปีศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระจิตทรงนำทาง ในพระศาสนจักร สิ่งต่างๆ จะเข้ามาพร้อมกับช่วงเวลาที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ตลอดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม พ่อหวังว่า หลายคนจะตระหนักถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อพวกเขา พ่อหวังว่าพวกเขาจะยอมให้พระองค์สวมกอดพวกเขาอีกครั้ง ความเมตตาคือชื่อของพระเจ้า และนี่ก็เป็นจุดอ่อนของพระองค์ด้วย ความเมตตามักจะทำให้พระเจ้าให้อภัยเราเสมอ พ่อคิดเสมอว่า พระเจ้าทรงมีความจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเวลาเราทำผิด เราไปขอโทษพระเจ้า พระองค์ก็ให้อภัยและก็ลืมความผิดเราทันที แต่พระเจ้าทรงมีความสุขที่ได้ให้อภัยเราทุกคน"

คำกล่าวหาที่บอกว่า พระสันตะปาปากำลังจะทำให้คาทอลิกกลายเป็นโปรเตสแตนท์ (หลังจากพระองค์เสด็จไปร่วมงานรำลึก 500 ปีที่ มาร์ติน ลูเธอร์ แยกตัวออกจากคาทอลิก)

พระสันตะปาปา: "พ่อไม่ได้สูญเสียลูกแกะไปจากเหตุการณ์นี้ พ่อยังคงเดินอยู่บนหนทางของสังคายนา(วาติกัน ที่ 2) ... และอย่างที่พ่อกล่าวไป การบังคับคริสตชนด้วยกันให้เปลี่ยนนิกายมานับถือตามตัวเองคือบาป พระศาสนจักรจะไม่เจริญเติบโตด้วยการบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา แต่เราเติบโตด้วยการทำตัวเองให้เป็นประจักษ์พยานและคนอื่นจะศรัทธาเอง"

มะเร็งร้ายในพระศาสนจักร

พระสันตะปาปา: "มะเร็งร้ายยังมีอยู่ในพระศาสนจักร ถ้าใครที่อยู่ในพระศาสนจักรแล้วตั้งใจจะแสวงหาอำนาจและหวังจะได้รับการยกย่อง คนแบบนี้แหละที่ป่วยด้วยโรคทางจิตวิญญาณ พวกเขามองพระศาสนจักรเป็นเครื่องมือเพิ่มความทะเยอทะยานของตน พระศาสนจักรที่เป็นแบบนี้จะพบจุดจบด้วยความแตกแยก