โป๊ปฟรังซิส - พ่อเป็นโรคภูมิแพ้พวกประจบสอพลอ มันเป็นเรื่องน่าละอาย

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์พิเศษ พระองค์เป็นโรคภูมิแพ้พวกขี้ประจบ การประจบสอพลอเป็นเรื่องน่าละอาย เพราะมันคือการใช้คนอื่นเพื่อปกปิดความต้องการแท้จริงของเราในการได้รับอะไรบางอย่าง 

  • ทรงย้ำ พระองค์เฉยๆ และไม่คิดมากเวลามีคนพูดจาให้ร้ายหรือนินทา เพราะรู้ว่าตนเองเป็นคนบาปอยู่แล้ว 

  • ทรงชี้ เงินคือศัตรูที่น่ากลัวสุดต่อพระเจ้า เส้นทางสุดโปรดที่ปีศาจเจาะเข้ามาล่อลวงมนุษย์คือ "กระเป๋าสตางค์" พระเยซูถึงเตือนเราว่า จะรับใช้พระเจ้าและเงินไปพร้อมกันไม่ได้ 

  • ทรงแบ่งปัน พระสันตะปาปาก็เจอปีศาจประจญเช่นกัน มันชอบล่อลวงให้พระองค์ไม่อดทน เห็นแก่ตัว และบางครั้งชวนให้พระองค์ขี้เกียจ 

  • ทรงเผย สวดขอพระเจ้าทุกวันให้พระองค์เป็นคนอารมณ์ดีและหัวเราะบ่อยๆ เพราะการเป็นคนอารมณ์ดีคือคติในการดำเนินชีวิตของพระองค์  

  • ทรงเล่าเคล็ดลับการเป็นคนสุขภาพแข็งแรงทั้งที่อายุจะ 80 แล้ว สิ่งนี้เกิดจาก "การเป็นคนหลับลึก หลับสนิท 6 ชั่วโมงต่อคืน หลับเป็นตายยังกะท่อนไม้" ยิ่งวันที่มีแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในอิตาลี คนในกรุงโรมตื่นกลางดึกเพราะสัมผัสแรงสะเทือนที่รุนแรง แต่พระองค์นอนหลับแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย




สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ทีวี 2000" และ "อินบลูราดิโอ" ซึ่งทั้งสองเป็นสื่อคาทอลิกภายใต้การดูแลของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งอิตาลี รายละเอียดของการสัมภาษณ์นี้ ได้รับการออกอากาศทางโทรทัศน์ช่องทีวี 2000 ด้วย เนื้อหาสำคัญมีดังต่อไปนี้

+ พระพรของปีศักดิ์สิทธิ์

"ความจริงก็คือปีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกจัดขึ้นในโรมเท่านั้น แต่ยังจัดในทุกสังฆมณฑลทั่วโลก นี่คือสิ่งที่ดีงามมาก เพราะพระศาสนจักรทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในปีศักดิ์สิทธิ์นี้ พ่อได้รับรายงานจากสังฆมณฑลต่างๆ ทั่วโลกว่าสัตบุรุษกลับมายังพระศาสนจักรอีกครั้งและพวกเขาได้กลับมาพบกับพระเยซู นี่คือพระพรจากพระเจ้าอย่างแท้จริง เราต้องประกาศความเมตตาของพระเจ้าให้กับโลก ความจำเป็นในการประกาศความเมตตา เกิดจากโลกนี้ติดเชื้อจากวัฒนธรรมทิ้งขว้าง วัฒนธรรมปิดใจและเห็นแก่ตัว เราจึงต้องให้ปีศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดใจผู้คน เพื่อพวกเขาจะได้พบกับพระเยซู"

+ วันศุกร์แห่งเมตตาธรรม (วันศุกร์ที่พระสันตะปาปาจะเสด็จเยี่ยม อาทิเยี่ยมอดีตสงฆ์ที่ลาออกไปมีครอบครัว)

"พ่อไปเยี่ยมเด็กผู้หญิงชาวแอฟริกันคนหนึ่ง เธอถูกช่วยออกมาจากการเป็นโสเภณี เธอตั้งครรภ์ ถูกทุบตี และถูกทารุณกรรม เธอบอกพ่อว่า เธอร้องขอชีวิตแต่คนพวกนั้นบอกว่า 'แกต้องทำงาน ไปได้แล้ว!' เธอบอกว่า เธอคลอดลูกสาวข้างถนน และลูกตายเพราะอากาศหนาว คนพวกนั้นก็ยังบังคับเธอให้ขายบริการต่อไป ถ้าเธอไม่ทำ เธอจะถูกทารุณ จะไม่ได้เงินและไม่มีอาหารกิน ส่วนเด็กผู้หญิงอีกคนที่พ่อเจอ เธอถูกตัดหู พ่อมาไตร่ตรองดูและคิดว่า คนที่ซื้อบริการทางเพศจะคิดบ้างไหมว่า เงินที่เขาซื้อความสุขกำลังเป็นแรงส่งให้พวกพ่อค้าเหล่านี้ทำธุรกิจแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น"

+ ศัตรูทรงพลังสุดต่อพระเจ้าคือเงิน

"ศัตรูที่น่ากลัวสุดของพระเจ้าคือเงิน ถ้าคุณคิดสักนิด พระเยซูตรัสไว้แล้วว่า เราจะรับใช้พระเจ้าและเงินพร้อมกันไม่ได้ พระเยซูให้สถานะเงินเป็นเจ้านายเช่นกัน เจ้านายสองคนคือพระเจ้าและเงิน เราต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความจริงก็คือปีศาจมักจะเข้ามาทางกระเป๋าสตางค์ของเรา มันเหมือนเป็นเส้นทางที่ปีศาจชอบมากๆ มันจึงจำเป็นที่เราต้องสร้างพระศาสนจักรที่ยึดความยากจนเพื่อผู้ยากไร้"

+ พระสันตะปาปาเจอการประจญล่อลวงบ้างไหม

"เจอแน่นอน! สิ่งที่พ่อเจอก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก ปีศาจมักจะมาเจาะจุดอ่อนของเรา นั่นคือ ความไม่อดทน ความเห็นแก่ตัว และความขี้เกียจ"

+ การจำคุกตลอดชีวิตไม่ต่างจากการตัดสินประหารชีวิต

"เวลาใครสักคนติดคุกเพราะเขาทำความผิด เขาจำเป็นต้องชดใช้ความผิดนั้น คุกคือหนึ่งในวิธีการลงโทษ คุกเป็นเหมือนวิญญาณในไฟชำระที่เตรียมชำระเราให้บริสุทธิ์ การลงโทษตามแบบคริสตชนคือลงโทษแบบมีความหวัง ลงโทษเพื่อหวังว่าคนที่ทำผิดจะกลับใจ ดังนั้น พระศาสนจักรคาทอลิกจึงคัดค้านการตัดสินประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม คุณอาจย้อนพ่อว่า 'ในศตวรรษที่ 15-16 คาทอลิกก็มีลงโทษประหารชีวิตพวกอาชญากร' ใช่ พ่อทราบดี ส่วนยุคนึ้ การจำคุกตลอดชีวิตก็โหดร้าย นักโทษบางคนกลับตัวกลับใจหลังถูกจองจำไปสักระยะ เขาทำตัวเป็นคนดีตลอดระยะเวลาที่ติดคุก จิตวิญญาณเขาเปลี่ยนไปได้"

+ พระหรรษทานของการเป็นคนอารมณ์ดี

"การเป็นคนอารมณ์ดีถือว่าเราได้รับพระหรรษทานจากพระเจ้า พ่อสวดขอพระเจ้าทุกวันให้พ่อเป็นคนอารมณ์ดี พ่อสวดบทภาวนาของนักบุญโทมัส มอร์ ด้วยนะที่สวดว่า 'โปรดประทานให้ลูกเป็นคนขำขันอารมณ์ดี' พ่อสวดขอพระเจ้าโปรดช่วยให้พ่อหัวเราะบ่อยๆ เวลามีคนมาเล่าเรื่องตลกให้ฟัง เพราะการเป็นคนอารมณ์ดีคือคติในการดำเนินชีวิตของพ่อด้วย"

+ พ่อเป็นภูมิแพ้พวกขี้ประจบ พ่อน้อมรับการให้ร้ายต่อพ่อ

"พ่อเป็นภูมิแพ้พวกประจบสอพลอ มันเป็นโดยธรรมชาติเลยนะ! การประจบไม่ใช่เรื่องดี การประจบคนอื่นคือการใช้คนอื่นเพื่อปกปิดความต้องการแท้จริงของเราในการได้รับอะไรบางอย่าง มันน่าละอายมาก ... ส่วนเรื่องการพูดจาให้ร้ายตัวพ่อหน่ะหรือ พ่อรับได้ เพราะพ่อเป็นคนบาป พ่อรู้ตัว เวลาคนใส่ร้ายหรือนินทาพ่อ มันไม่ทำให้พ่อกังวลหรอกนะ"

+ โรคหัวใจไร้ความรู้สึก

"คำว่า 'โรคหัวใจไร้ความรู้สึก' พ่อเรียนรู้จากพระสงฆ์อาวุโสท่านหนึ่งที่พ่อไปเยี่ยม ท่านสอนคำนี้ให้พ่อ นี่คือโรคที่เกิดกับคนยุคนี้ พ่อคิดว่าความเมตตาคือยารักษาโรคนี้ได้ บ่อเกิดของโรคนี้คือวัฒนธรรมทิ้งขว้าง คนที่ชอบพูดว่า 'เราไม่ต้องการคนชรา เราส่งพวกเขาไปอยู่บ้านคนชราจะดีกว่า ส่งไปแล้วไม่ต้องเอากลับมานะ' คนพวกนี้แหละคือพวกหัวใจไร้ความรู้สึก คนอีกจำพวกที่หัวใจไร้ความรู้สึกก็คือพวกที่ทำสงคราม คนพวกนี้คิดแต่ว่า 'เราจะเอาระเบิดไปถล่มเมืองนี้ ทิ้งบอมบ์เลย ไม่ต้องสนหรอกว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือโรงเรียน ทำลายมันให้หมด'"

+ เคล็ดลับในการรักษาการอุทิศตนอย่างไม่มีวันจบสิ้น

"พ่อก็ไม่รู้นะว่าพ่อบริหารจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร แต่คิดว่าน่าจะมาจากการสวดภาวนา สิ่งนี้ช่วยพ่อได้มากเลย เพราะการสวดทำให้พ่อได้คุยกับพระเจ้า ไม่ว่าจะถวายมิสซา สวดทำวัตร หรือสวดสายประคำ มันช่วยได้หมด การภาวนายังช่วยให้พ่อหลับลึกและหลับสนิทด้วย บางทีนี่อาจเป็นพระหรรษทานจากพระเจ้า พ่อนอนหลับเป็นตายเหมือนท่อนไม้เลย รู้ไหมว่า วันที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในอิตาลีซึ่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงโรม ทุกคนสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือน แต่พ่อหลับไม่รู้เรื่องเลย นี่พูดจริงนะ พ่อหลับสนิทนาน 6 ชั่วโมงทุกคืน บางทีนี่อาจเป็นเคล็ดลับทำให้พ่อสุขภาพดีก็ได้ ถ้าจะถามว่าพ่อมีปัญหาสุขภาพอะไรไหม บางทีอาจเป็นกระดูกสันหลัง มันปวดบ้างเป็นบางครั้ง แต่ตอนนี้โอเคแล้ว"