โป๊ปฟรังซิสปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ย้ำแม้ประตูนี้ปิดลง แต่หัวใจพระเยซูยังเปิดเพื่อเราเสมอ

  • สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ แม้ประตูศักดิ์สิทธิ์จะปิดลง แต่หัวใจของพระเยซูซึ่งเป็นประตูแห่งความเมตตาที่แท้จริงยังคงเปิดให้เราเสมอ 
  • ทรงสอน การท้าทายและล่อลวงพระเจ้าให้ลงจากกางเขน เป็นสิ่งชั่วร้ายมาก เราต้องอย่าล่อลวงพระเจ้า เพราะนี่คือนิสัยปีศาจที่ทำตั้งแต่สมัยสร้างโลก 







ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม จากนั้น ทรงถวายมิสซาสมโภชพระคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล พร้อมกับบรรดาพระคาร์ดินัลใหม่ 16 คน ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารมิสซานี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูถูกตรึงร่วมกับโจรอีก 2 คน

มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า

- บนไม้กางเขน เราได้เห็นธรรมชาติความเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของพระเยซู พระองค์ไม่อวดอำนาจของตนเอง พระองค์ดูเหมือนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มากกว่าเป็นผู้ชนะ ความยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ของอาณาจักรพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่อำนาจซึ่งโลกนี้มอบให้ แต่มันอยู่ที่ความรักของพระเจ้าต่างหาก ความรักที่สามารถเผชิญหน้าและรักษาทุกสิ่ง

- กษัตริย์ของเราจบชีวิตบนโลกเพื่อช่วยสิ่งสร้างทั้งมวลให้รอดพ้นจากบาป พระองค์ไม่ประณามเราและไม่ทำให้เราปราชัย พระองค์ไม่เคยไม่เคารพอิสรภาพของเรา แต่พระองค์ทรงปูทางด้วยความรักที่สุภาพถ่อมตนซึ่งให้อภัยทุกสิ่ง หวังในทุกสิ่ง และดำรงอยู่ในทุกสิ่ง ความรักนี้เท่านั้นที่เอาชนะศัตรูที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือ บาป ความตาย และความกลัว

- มันจะไม่มีความหมายเท่าไหร่ถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูคือกษัตริย์ของสากลจักรวาลและเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ แต่เราไม่ทำให้พระองค์เป็นเจ้าแห่งชีวิตของเรา ทัศนคติหลายแบบที่แสดงออกถึงการไม่ยอมรับพระเยซู อาทิ พวกทหาร ผู้นำประชาชน หรือโจรที่ดูหมิ่นพระองค์ว่าจงช่วยตัวเองให้รอดก่อน การประจญล่อลวงของปีศาจรูปแบบนี้ (ดูหมิ่นพระเจ้า) มันเลวร้ายกว่าการวางตัวของประชาชนที่เลือกจะนิ่งเฉยเวลาพระเยซูถูกประณามด้วยซ้ำ เพราะคนเหล่านี้กำลังล่อลวงพระเยซู (ให้ช่วยตัวเองให้รอดก่อน) เหมือนกับที่ปีศาจทำตอนเริ่มสร้างโลก พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มันเลวร้ายสุดๆ ที่ล่อลวงและท้าทายพระเยซูให้ใช้อำนาจช่วยตัวเองให้รอดจากการถูกตรึงกางเขน มันเป็นการล่อลวงพระเจ้าที่ชั่วร้ายมาก

- ความเมตตาจะนำเราไปสู่หัวใจของพระวรสาร ความเมตตาเรียกร้องเราให้ละทิ้งนิสัยและพฤติกรรมที่เป็นอุปสรรคในการรับใช้พระอาณาจักรของพระเจ้า ความเมตตาเรียกร้องเราให้เดินไปสู่ความเป็นกษัตริย์ที่สุภาพถ่อมตนของพระเยซู และเชื่อในพระอาณาจักรของพระองค์เหมือนอย่างที่โจรกลับใจได้ทูลพระเยซูขณะถูกตรึงบนไม้กางเขน พระเยซูทรงระลึกถึงโจรกลับใจคนนี้ ตราบใดที่เราให้โอกาสพระเจ้า พระองค์จะระลึกถึงเรา พระองค์พร้อมเสมอที่จะยกโทษบาปของเรา เพราะความทรงจำของพระเจ้าไม่เหมือนเรา พระองค์ไม่จดจำความผิดที่เราเคยทำ พระเจ้ามองเราเป็นลูกที่รักของพระองค์เสมอ

- ขอให้เราวอนขอพระเจ้าโปรดประทานพระหรรษทานแห่งการไม่ปิดประตูในการคืนดีและยกโทษให้กัน ขอพระองค์ทำให้เราก้าวให้ไกลกว่าความชั่วและความแตกต่าง ขอให้เราเปิดประตูทุกบานเพื่อความหวัง แม้ประตูศักดิ์สิทธิ์จะปิดลง แต่ประตูแห่งความเมตตาที่แท้จริงซึ่งได้แก่พระหฤทัยของพระคริสตเจ้า ยังคงเปิดกว้างเพื่อเราเสมอ พวกเราขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนี้ และเราระลึกเสมอว่า เราได้รับความเมตตาเพื่อเราจะได้เป็นคนมีเมตตา และเป็นเครื่องมือแห่งความเมตตาของพระเจ้า

หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงลงนามในสารส่วนพระองค์ (Apostolic Letter) ชื่อว่า Misericordia et Misera สารนี้จะได้รับการเผยแพร่ไปยังพระศาสนจักรคาทอลิกทุกประเทศทั่วโลก โอกาสสิ้นสุดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมด้วย