โป๊ปฟรังซิส: "เวลาพูดจากับคนอื่น เราชอบพูดแทรกและชักจูงว่าเราถูกเสมอใช่หรือไม่"
- สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน การพูดจากันต้องมีเวลาเงียบบ้างเพื่อรับฟังคนอื่น
- ลองถามตัวเองซิว่า เวลาพูดกับคนอื่น เราชอบพูดแทรกและโน้มน้าวคนอื่นว่าเหตุผลของเราถูกเสมอใช่หรือไม่
- นอกจากนี้ ลองถามตัวเองว่า เราเคยเตรียมตัวฟังคนอื่นพูดบ้างไหม
- ทรงชี้ โลกจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ ถ้าเราพูดกันด้วยความสุภาพ แทนที่จะตะโกนใส่กัน
ช่วงสายวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป โอกาสพิเศษปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม ความพิเศษอีกอย่างของวันนี้คือตรงกับวันระลึกถึง "นักบุญจอห์น ปอล ที่ 2" อีกด้วย
สำหรับบทเทศน์สอนในวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสว่า
- การพูดจากันช่วยให้เรารู้จักตัวเองและช่วยให้เราเข้าใจความต้องการของคนอื่น ทั้งสองอย่าง (การรู้จักตัวเองและเข้าใจความต้องการของคนอื่น) คือเครื่องหมายของความเคารพและความรัก มันทำให้เราเห็นคนอื่นเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่มีต่อเรา
- สิ่งหนึ่งที่พ่ออยากให้เราหยุดคิด บ่อยครั้งแค่ไหนเวลาเราพบคนอื่น เราไม่ได้เตรียมตัวฟังเขาพูดใช่ไหม แทนที่จะฟัง เราเอาแต่พูดแทรกขัดจังหวะและโน้มน้าวคนอื่นว่าเหตุผลของเราถูกเสมอ ถ้าเป็นแบบนี้ พ่อขอย้ำเลยว่า การสนทนาที่แท้จริง มันต้องมีเวลานิ่งเงียบ เพราะนี่คือจังหวะให้เรารับฟังคนอื่นบ้าง
- พี่น้องที่รัก การพูดจากันช่วยเราเอาชนะความไม่เข้าใจกันและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นี่คือสิ่งจำเป็นที่สุดในครอบครัว มันง่ายจะตายไปที่คำถามค้างคาใจต่างๆ จะได้รับการไขให้กระจ่าง ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะรับฟังคนอื่น
- การพูดจากันยังช่วยทำลายกำแพงของความแตกแยกและไม่เข้าใจกัน นี่คือการสร้างสะพานของการสื่อสารและไม่ทำให้คนอื่นโดดเดี่ยวด้วย โลกนี้จะดีขึ้นและน่าอยู่มากขึ้นแค่ไหน ถ้าเรารู้จักพูดกันด้วยความสุภาพ แทนที่จะตะโกนใส่กัน ดังนั้น ขอให้เรายึดมั่นในการพูดจากัน เพราะเราสามารถเป็นเครื่องหมายแห่งความเมตตาของพระเจ้าและเป็นเครื่องมือของการสร้างความเคารพต่อกัน
Comments
Post a Comment