โป๊ปฟรังซิส: "พระจิตคือพลังที่ทำให้พระศาสนจักรก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้า"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ พระจิตคือพลังที่ทำให้พระศาสนจักรก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้า หากไม่มีพระจิต พระศาสนจักรคงจะปิดตัวเองด้วยความกลัวไปแล้ว ทรงเตือน อย่าคิดว่าเราเป็นผู้ชอบธรรม เพียงเพราะทำตามธรรมบัญญัติอย่างเดียว การทำแบบนั้นไม่มีความยืดหยุ่นและทำให้เราเป็นคนเสแสร้ง แต่จงเปิดตัวเองให้กับพระจิต และเราจะเป็นเหมือนเรือใบที่แล่นฉิวไปข้างหน้าด้วยแรงลม





ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทีย นักบุญเปาโลกล่าวว่า "พวกท่านได้รับพระจิต เพราะทำตามธรรมบัญญัติหรือได้รับเพราะการประกาศข่าวดี"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- พระจิตคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่จากพระบิดา นี่คือพลังที่ทำให้พระศาสนจักรก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้า แม้จะเป็นการก้าวไปจนวาระสุดท้ายของโลกก็ตาม พระจิตคือองค์อุปถัมภ์แห่งการก้าวไปข้างหน้าของพระศาสนจักร หากไม่มีพระจิต พระศาสนจักรคงจะปิดตัวเองด้วยความกลัวไปแล้ว

- มีทัศนคติ 3 แบบที่เราสามารถมีต่อพระจิต ทัศนคติแรก นักบุญเปาโลได้ตำหนิคริสตชนเมืองกาลาเทีย นั่นคือ ความเชื่อที่ว่าเราจะเป็นผู้ชอบธรรมก็ต่อเมื่อเราทำตามธรรมบัญญัติเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้ชอบธรรมเพราะทำตามคำสอนของพระเยซู เรายึดติดกับตัวกฎเกณฑ์และเมินเฉยพระจิต ทัศนคติแบบนี้ไม่ยืดหยุ่น ทัศนคติแบบนี้เป็นเหมือนพวกที่โจมตีพระเยซู และพระเยซูตำหนิคนพวกนี้ว่าพวกเสแสร้ง

- ทัศนคติที่สองที่ทำให้พระจิตเสียใจ เกิดเมื่อเราไม่ยอมให้พระจิตนำเราให้ก้าวไปข้างหน้าในชีวิตคริสตชน เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะกลายเป็นคริสตชนที่เฉยชา เราจะกลายเป็นคริสตชนครึ่งๆ กลางๆ เพราะพระจิตไม่สามารถทำงานได้ในตัวเรา

- ทัศนคติที่สาม จะตรงกันข้ามกับสองอย่างแรก ทัศนคตินี้จะเกิดเมื่อเราเปิดตัวเองให้พระจิตและให้พระจิตนำเราก้าวไปข้างหน้า นี่คือสิ่งที่บรรดาอัครสาวกได้รับในวันพระจิตเสด็จลงมา พวกเขาไม่มีความกลัวและเปิดตัวเองให้กับพระจิต ดังนั้น เพื่อจะเข้าใจและต้อนรับพระวาจาของพระเยซู มันจึงจำเป็นมากๆ ที่เราต้องเปิดตัวเองให้กับฤทธานุภาพของพระจิต เมื่อเราเปิดตัวเองให้พระจิต เราจะเป็นเหมือนเรือใบที่แล่นฉิวด้วยแรงลม แล่นไปข้างหน้า ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันหยุด แต่สิ่งนี้จะเกิดได้เมื่อเราสวดภาวนาและเปิดใจให้พระจิตเท่านั้นนะ

- ดังนั้น ถามตัวเองซิว่า เราเมินเฉยต่อพระจิตหรือเปล่า ถามตัวเองว่า ในชีวิตของเรา เราเป็นคริสตชนครึ่งๆ กลางๆ เป็นคริสตชนเฉยชาหรือไม่ หรือเราเป็นคริสตชนที่สวดภาวนาอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวเองให้กับพระจิต พ่ออยากให้เราลองไปไตร่ตรองดูกันนะ

Comments