โป๊ปฟรังซิส: "ทัศนคติแบบคาทอลิกคือต้องทำทุกอย่างให้ดีพร้อมเสมอ"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน ทัศนคติแบบคาทอลิกคือต้องทำทุกอย่างให้ดีพร้อม อาทิ ไม่ใส่ร้ายคนอื่น ไม่สร้างความขัดแย้ง และดำเนินชีวิตบนสันติ ทัศนคติคาทอลิกต้องไม่เป็นแบบ "ลองทำแบบนี้ซิ ไม่งั้น ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย" ทรงย้ำ เป็นเรื่องอัปยศมากเวลาพระสันตะปาปา พระสังฆราช และพระสงฆ์ เทศน์สอนสัตบุรุษไปแบบนี้ แต่ตัวเขาเองไม่ประพฤติตนตามที่สอนคนอื่น ทรงชี้ มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์มากในการคิดค้นคำใส่ร้ายคนอื่น แต่การใส่ร้ายนี้เป็นเหมือนการฆ่าคน เพราะมันคือการย่ำยีจิตวิญญาณของเพื่อนพี่น้องและศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขา 



ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงสอนว่า "ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ได้ดีไปกว่าพวกธรรมาจารย์หรือฟาริสี ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า

- พวกเรามีความคิดสร้างสรรค์มากๆ ในการคิดค้นคำกล่าวหาในการใส่ร้ายคนอื่น แต่การกล่าวหาที่เราทำนั้นเป็นบาปและมันคล้ายกับการฆ่าคน เพราะมันคือการย่ำยีจิตวิญญาณของเพื่อนพี่น้องและศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขา

- มิสซาเช้าวันนี้ มีเด็กๆ มาร่วมเยอะพอสมควร พ่ออยากแบ่งปันว่า การเทศน์สอนเด็กๆ ในวัด จัดว่างดงามยิ่งกว่าการเทศน์สอนพระสันตะปาปา พระสังฆราช และพระสงฆ์อีกนะ เพราะเวลาเราสอนเด็ก อาจมีดื้อบ้าง แต่เขาปฏิบัติตาม แต่พวกคนของพระศาสนจักรต่างออกไป พวกเขามันจะทำตัวตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาเทศน์สอน และนี่คือเรื่องอัปยศ

- มันเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้วที่พวกเราได้ยินได้ฟังเรื่องพวกนี้ ตอบมาซิ กี่ครั้งแล้ว! ที่พวกเขาประพฤติตนตรงกันข้ามกับสิ่งที่เทศน์สอนสัตบุรุษ

- เรื่องแบบนี้คือความอัปยศและสร้างบาดแผลให้ประชากรของพระเจ้า มันคือบาดแผลสกัดกั้นการเติบโตและก้าวไปข้างหน้า มันไม่ใช่การทำให้พวกเขาได้รับอิสรภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ประชากรของพระเจ้าต้องทนเห็นความแข็งกระด้างของพวกธรรมาจารย์และฟาริสี เมื่อประกาศกมาหาประชากรของพระเจ้าเพื่อมอบความชื่นชมยินดี พวกธรรมาจารย์และฟาริสีจะมาเบียดเบียนและทำได้กระทั่งฆ่าเขา มันจึงไม่มีที่ให้กับประกาศก

- พ่ออยากให้พวกท่านได้รื้อฟื้นสิ่งที่พระเยซูทรงขอร้อง นั่นคือ จงก้าวออกจากตัวเอง เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราเป็นอิสระจากความแข็งกระด้างของการยึดถือตัวธรรมบัญญัติ และยังทำให้เราเป็นอิสระจากการตัดสินคนอื่นตามแนวคิดของตน พระเยซูทรงทราบดีถึงธรรมชาติของมนุษย์ พระองค์จึงขอร้องเราให้แสวงหาการคืนดีเวลาที่เราทะเลาะกับคนอื่น พระเยซูสอนเราถึงการมองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงโดยยึดความถูกต้อง พวกเราไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบทุกอย่าง แต่อย่างน้อย เราต้องทำพยายามหาทางคืนดีสุดความสามารถและยุติความขัดแย้ง

- สิ่งนี้แหละคือการมองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงโดยยึดความถูกต้องของพระศาสนจักรคาทอลิก พระศาสนจักรไม่เคยสอนทำนองว่า 'ทำแบบนี้ซิ หรือไม่ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย" นั่นไม่ใช่คาทอลิก พระศาสนจักรคาทอลิกสอนว่า 'ทำแบบนั้น ทำแบบนี้' จงทำทุกอย่างให้ดีพร้อม อาทิ จงไปคืนดีกับพี่น้องของตน อย่ากล่าวโทษพวกเขา จงรักพวกเขา ถ้ายังมีปัญหาเกิดขึ้น จงหาทางไกล่เกลี่ยความไม่ลงรอยกัน เพื่อที่สงครามจะไม่เกิดขึ้น นี่แหละคือความเป็นคาทอลิก มันไม่ใช่คาทอลิกที่จะพูดว่า 'ทำแบบนี้ซิ หรือไม่ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย' ไม่ แบบนั้นไม่ใช่คาทอลิก แบบนั้นมันผิดหลักศาสนา

- พ่อขอจบบทเทศน์ในวันนี้ ด้วยการย้ำว่า พระเยซูทรงขอร้องเราทุกคนให้หลีกเลี่ยงนิสัยแบบคนเสแสร้งแกล้งทำดี แต่จงทำทุกสิ่งที่สามารถ เพื่อที่อย่างน้อย มันจะได้กำจัดความไม่ลงรอยกันระหว่างเรากับเพื่อนพี่น้อง เราไม่สามารถทำทุกอย่างได้หมด แต่อย่างน้อย เราก็อยากทำมันให้ได้ทั้งหมด อาทิ ต้องไม่ใส่ร้ายคนอื่น อย่าสร้างสงครามความขัดแย้ง และจะพยายามดำเนินชีวิตอยู่บนสันติ

Comments