โป๊ปฟรังซิส: "อย่าทำตัวเป็นปราชญ์ตามตัวอักษรที่ชอบปั้นเรื่องโกหกและเป็นพยานเท็จปรักปรำคนอื่น"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือนคริสตชน อย่าทำตัวเป็น "ปราชญ์ตามตัวอักษร" ที่ดีแต่ตีความทุกอย่างตามตัวอักษร ไม่คอยหาทางออกให้ปัญหา แต่เลือกจะปั้นเรื่องโกหกขึ้นมา พร้อมทำตัวเป็นพยานเท็จปรักปรำคนอื่น เพราะนิสัยแบบนี้เลวร้ายกว่าพวกหน้าซื่อใจคดด้วยซ้ำ ตัวอย่างของคนแบบนี้คือพวกที่ทำเป็นมือสะอาดแล้วเลือกตัดสินคนอื่นแบบหน้าตาย ทรงย้ำ พวกปราชญ์ตามตัวอักษรจะมีจิตใจแข็งกระด้าง จิตใจโง่เขลา และไม่สามารถอดทนต่อความจริงใดๆ ทั้งสิ้น 



ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่สตีเฟ่นถูกพวกคนในศาลาธรรมปรักปรำว่าพูดจาดูหมิ่นโมเสสและพระเจ้า เพียงเพราะสตีเฟ่นโต้เถียงชนะพวกเขา อันเป็นผลงานจากพระจิต

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- หัวใจของพวกธรรมาจารย์เหล่าปิดตายต่อความจริงของพระเจ้า พวกเขายึดติดแต่ความจริงตามตัวบทกฏเกณฑ์ ตีความตามตัวอักษร และไม่แสวงหาทางออกใดๆ นอกจากปั้นเรื่องโกหกขึ้นมาและทำตัวเป็นพยานเท็จ พระเยซูทรงตำหนิทัศนคติของคนพวกนี้หลายครั้ง เพราะบรรพบุรุษของเขาได้ฆ่าประกาศกตายไปหลายคน และตอนนี้พวกเขาก็กำลังสร้างอนุสาวรีย์ให้กับประกาศกเหล่านั้น

- ปฏิกิริยาของพวกนักปราชญ์ตามตัวอักษรเหล่านี้ (ที่ทำต่อสตีเฟ่น) เป็นการเยาะเย้ยถากถางยิ่งกว่าอาการหน้าซื่อใจคด คนพวกนี้ทำเป็นมือสะอาดและตัดสินคนอื่นแบบหน้าตาย หัวใจของคนเหล่านี้ปิดตายต่อพระวาจาของพระเจ้า ปิดตายต่อความจริง และปิดตายต่อสารของประกาศกที่นำประชากรของพระเจ้าก้าวไปข้างหน้า

- มันน่าเจ็บปวดตอนที่พ่อได้อ่านพระวรสารของนักบุญแม็ทธิว เหตุการณ์ที่จูดาสสำนึกผิดและนำเงินไปคืนพวกสมณะ พร้อมยอมรับว่า 'ผมทำบาปไปแล้วและอยากคืนเงินเหรียญเหล่านี้' พวกสมณะตอบกลับว่า 'แล้วไง ใครสนกันล่ะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเราเลย' มันเจ็บปวดเพราะพวกสมณะมีหัวใจปิดตายต่อหน้าจูดาสผู้น่าสงสารและสำนึกผิด จูดาสไม่รู้ว่าตนทำอะไรลงไป เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงไปผูกคอตาย

- เมื่อสมณะรู้ว่าจูดาสตาย เขาก็พูดกันในหมู่พวกตนว่า 'ชายคนนี้น่าสงสารหรือ ไม่เลย! เงินเหรียญนี้แหละคือราคาชีวิตของเขา' สมณะเหล่านี้อ้างกฏโน่นนี่ไปทั่ว คนพวกนี้แหละคือปราชญ์ตามตัวอักษร ชีวิตของคนอื่นจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญต่อพวกเขา คนเหล่านี้จึงไม่สนใจการสำนึกผิดของจูดาส สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความกระด้างของจิตใจพวกเขา มันคือความโง่เขลาของจิตใจคนเหล่านี้ที่ไม่สามารถอดทนอดกลั้นต่อความจริงที่สตีเฟ่นประกาศออกมา พวกเขาจึงจ้องจะจับผิด หาพยานเท็จ เพื่อตัดสินสตีเฟ่น

- บทสรุปของสตีเฟ่นก็เหมือนพระเยซูและประกาศกคนอื่นๆ สิ่งนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในพระศาสนจักร นั่นคือ ประวัติศาสตร์บอกเราว่าคนมากมายถูกตัดสินและฆ่าตาย ทั้งที่พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาถูกตัดสินตามการตีความพระวาจาของพระเจ้าและขัดกับพระวาจาของพระเจ้า ขอให้เรานึกถึงการล่าแม่มดในยุคก่อน หรือการฆ่านักบุญโจนออฟอาร์ค รวมถึงหลายคนที่ถูกเผาทั้งเป็นด้วย


Comments