โป๊ปฟรังซิสให้สัมภาษณ์สาเหตุที่พาผู้ลี้ภัยมุสลิมมาพำนักที่วาติกัน

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเผย สาเหตุที่พาผู้ลี้ภัยชาวมุสลิม 12 คน มาอาศัยที่วาติกัน เป็นเพราะพวกเขามีเอกสารพร้อมที่จะดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฏหมาย จริงๆ แล้ว ตั้งใจจะพาผู้ลี้ภัยชาวคริสต์กลับมาด้วย แต่ติดที่เอกสารตามกฎหมายไม่ครบ จึงดำเนินการต่อไม่ได้ พร้อมย้ำ ไม่มีการเลือกปฏิบัติแน่นอน เพราะทุกคนเป็นลูกของพระเจ้าเหมือนกัน ทรงยอมรับ เข้าใจความกลัวของคนที่เรียกร้องให้ยุโรปควบคุมการเปิดปิดพรมแดน เพื่อรักษาความปลอดภัย แต่การทำแบบนี้ ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาวแต่อย่างใด ทรงอยากเห็นพวกพ่อค้าอาวุธสงครามมาเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัย เผื่อจะคิดได้ว่าความลำบากของเหยื่อเหล่านี้รุนแรงขนาดไหน ทรงตอบกลับพวกชอบแต่งเรื่อง การที่พระองค์ทักทาย เบอร์นี่ แซนเดอร์ส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องเป็นเรื่องการเมืองเสมอไปอย่างนั้นเหรอ หากใครคิดแบบนี้ ควรไปพบ "จิตแพทย์" ได้แล้ว 





สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ประทานการสัมภาษณ์นักข่าวบนเครื่องบินกลับจากเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ มายังกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยประเด็นสำคัญ มีดังนี้

พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นด้วยการทักทายบรรดานักข่าวสายวาติกันที่ตามเสด็จว่า "ก่อนอื่น พ่อขอขอบคุณพวกท่านทุกคนสำหรับการรายงานในวันนี้ มันเป็นวันที่สะเทือนอารมณ์สำหรับตัวพ่อมากๆ สำหรับจุดประสงค์ที่พ่อมาเยือนเลสบอสในวันนี้ เป็นเรื่องมนุษยธรรมล้วนๆ มันไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแม้แต่น้อย เพราะพ่อไม่รู้เรื่องเชิงลึกของข้อตกลงระหว่างกรีซกับตุรกี พ่อแค่ตามข่าวจากหนังสือพิมพ์เท่านั้น"

นักข่าว: "ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมมีปัญหาการปรับตัวให้เข้ากับค่านิยมของโลกตะวันตก มันจะไม่ดีกว่าหรือที่พระองค์จะต้อนรับผู้ลี้ภัยที่เป็นคริสต์ ทำไมพระองค์ต้องพาผู้ลี้ภัยชาวมุสลิม 3 ครอบครัว (รวม 12 คน) กลับไปที่วาติกันกับพระองค์ด้วย

พระสันตะปาปา: "พ่อไม่เลือกปฏิบัติระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิม ทั้ง 3 ครอบครัวมุสลิมที่คุณพูดถึงนั้น ต่างมีเอกสารที่จะดำเนินการ(ทำเรื่องขอลี้ภัย)ได้ทันที จริงๆ แล้วยังมีครอบครัวคริสตชนอีก 2 ครอบครัว แต่ว่าพวกเขาไม่มีเอกสารยืนยันใดๆ ทุกอย่างเลยไม่เกิดขึ้น พ่อขอย้ำว่า พ่อไม่เลือกปฏิบัตินะ เพราะทุกคนเป็นลูกของพระเจ้าเหมือนกัน"

นักข่าว: "ตอนนี้ มันมีการพูดถึงการควบคุมการเปิดพรมแดนในยุโรป มันจะเป็นจุดจบของวีซ่าเชงเก้นและความฝันของยุโรปหรือเปล่า"

พระสันตะปาปา: "พ่อไม่รู้ แต่พ่อเข้าใจหัวอกของคนที่กลัวเรื่องนี้ พ่อพูดเสมอว่า เราอย่าสร้างกำแพงใส่กัน เพราะนี่ไม่ใช่ทางออกของปัญหา เราควรจะสร้างสะพานเข้าหากันมากกว่า การสร้างสะพานนั้นจำเป็นต้องสร้างด้วยวิถีแห่งปัญญา นั่นคือการเสวนาและหลอมรวมกัน พ่อเข้าใจคนที่กลัวและเรียกร้องให้มีการปิดพรมแดน แต่การทำแบบนี้ไม่ได้แก้ปัญหาระยะยาว มันเป็นการทำร้ายทวีปยุโรปมากกว่า ยุโรปจำเป็นต้องดำเนินนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับการหลอมรวมเป็นหนึ่ง การจ้างงาน การต้อนรับผู้อื่น และการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้แหละคือการสร้างสะพานที่จะสกัดกั้นเราไม่ให้สร้างกำแพงหากัน"

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงหยิบจดหมายที่เด็กผู้ลี้ภัยมอบให้พระองค์ ขึ้นมาโชว์ให้บรรดานักข่าวดู จากนั้น พระสันตะปาปาตรัสว่า "หลังจากพ่อได้อ่านจดหมายนี้ในค่ายผู้ลี้ภัย พ่ออยากจะร้องไห้ พ่อจึงอยากให้พวกท่านได้เห็นจดหมายนี้ด้วยเช่นกัน ดูซิ เด็กๆ ต้องการอะไร พวกเขาต้องการสันติภาพ ดูซิ พวกเขาวาดรูปนี้ขึ้นมา เป็นภาพผู้ลี้ภัยต้องตายเพราะเรืออับปางกลางทะเล ส่วนดวงอาทิตย์ก็ยังร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย เพราะเด็กหลายคนต้องสูญเสียพ่อแม่ตนจากเหตุเรืออับปางเช่นนี้"

นักข่าว: "ทำไมพระองค์ไม่แยกเรื่องการลี้ภัยสงครามกับการลี้ภัยความอดอยากออกจากกันล่ะ

พระสันตะปาปา: "ทั้งสองเป็นผลจากต้นเหตุเดียวกัน นั่นคือ การแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง การลี้ภัยจากความอดอยากมาจากการแสวงหาผลประโยชน์เรื่องที่ดินทำกินและผืนป่า เมื่อที่ดินและป่าถูกทำลาย เฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกา ปัญหาความอดอยากก็เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการลี้ภัยสงคราม ดังนั้น พ่ออยากเชิญชวนให้พวกพ่อค้าอาวุธสงคราม เฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ค้าอาวุธให้กับการสู้รบในซีเรีย อยากให้พวกท่านไปลองเยี่ยมผู้ลี้ภัยดูซะบ้าง เพื่อจะได้รู้จักกับความโหดร้ายที่ผู้ลี้ภัยต้องพบเจอ เผื่อว่า สิ่งต่างๆ มันจะได้ดีขึ้น"

นักข่าว: "เช้าวันนี้ พระองค์ได้พบกับ เบอร์นี่ แซนเดอร์ส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พระองค์ปรารถนาจะมีส่วนร่วมกับการเมืองของสหรัฐอเมริกาหรือเปล่า"

พระสันตะปาปา: "พ่อจับมือทักทายกับเขา ก็แค่นั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย มันคือการแสดงออกถึงความสุภาพ ไม่มีเรื่องการเมืองแอบแฝง ถ้าใครคิดว่าการทักทายกันแล้วต้องมีการเมืองปนเข้ามาด้วย เขาคนนั้นควรต้องไปพบจิตแพทย์แล้วล่ะ"

นักข่าว: "ขอถามเกี่ยวกับสารเตือนใจ ความชื่นชมยินดีแห่งความรัก (Amoris Laetitia) ที่พระองค์ทรงออกไว้หน่อยครับ ตอนนี้ มีการอภิปรายกันเยอะว่า จริงๆ แล้ว มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการอภิบาลศีลศักดิ์สิทธิ์ต่อคาทอลิกหย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ใช่ไหม"

พระสันตะปาปา: "พ่อตอบได้เลยว่า มันเป็นแบบนั้นแหละ แต่มันอาจจะสั้นไปหน่อย ดังนั้น พ่ออยากให้ท่านไปอ่านเนื้อหาที่พระคาร์ดินัล คริสโตฟ โชนบอร์น นำเสนอในวันเปิดตัวสารดังกล่าวอีกครั้ง"

Comments