โป๊ปฟรังซิส: "สงฆ์และนักบวชต้องสานต่อการเป็นประจักษ์พยาน อย่ามัวแต่กินบุญเก่าสมัยมรณสักขี"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ พระสงฆ์และนักบวชยูกันดา อย่ามัวแต่กินบุญเก่าตั้งแต่สมัยมรณสักขี จนไม่ยอมสานต่อการเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ทรงแนะ พระสงฆ์ในสังฆมณฑลที่กระแสเรียกพรั่งพรู ควรมีความศรัทธาด้วยการสมัครใจไปขอพระสังฆราชไปทำงานในสังฆมณฑลที่ขาดแคลนพระสงฆ์  ทรงย้ำ พระสงฆ์และนักบวชอย่ามาอ้างว่าไม่มีเวลาสวดภาวนา เพราะงานเยอะเด็ดขาด ทรงเตือน พระสงฆ์และนักบวชอย่าดำเนินชีวิตสองมาตรฐาน อย่าดำเนินชีวิตเหยาะแหยะ





ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปยังอาสนวิหารเซ็นต์ แมรี่ อัครสังฆมณฑลกัมปาลา ประเทศยูกันดา เพื่อพบปะและให้โอวาทกับบรรดาพระสงฆ์ และนักบวชชาวยูกันดา โดยพิธีนี้เป็นพิธีการสุดท้ายของพระสันตะปาปาในยูกันดาอีกด้วย

สำหรับบทเทศน์สอนที่พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขา พระองค์ทรงเทศน์สอนแบบสดๆ จากใจ ใจความว่า

- ในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ โมเสสพูดกับประชาชนหลายครั้งว่า 'จงอย่าลืม' ดังนั้น ในวันนี้ พ่อขอกล่าวกับพวกท่านว่าอย่าลืม 3 เรื่องสิ่งต่อไปนี้

- หนึ่ง จงอย่าลืมพระหรรษทานแห่งความทรงจำ อย่าหลงลืมเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อซึ่งบรรดามรณสักขีได้หว่านไว้ในแผ่นดินยูกันดาเป็นอันขาด เพราะความทรงจำนี้ทำให้คาทอลิกยูกันดาเติบโตขึ้นมาได้

- ศัตรูตัวฉกาจของความทรงจำก็คือการลืมนั่นแหละ แต่มันยังไม่ใช่สิ่งที่อันตรายที่สุด เพราะอันตรายที่สุดคือการเคยชินกับสิ่งดีที่เราได้รับมาจากคนที่อยู่ก่อนหน้าเรา พระศาสนจักรคาทอลิกในยูกันดาต้องอย่าเคยชินกับความทรงจำเก่าๆ จากยุคมรณสักขี การเป็นมรณสักขีหมายถึงการเป็นประจักษ์พยาน ฉะนั้น พระศาสนจักรคาทอลิกยูกันดาต้องสานต่อการเป็นประจักษ์พยานนี้ ไม่ใช่มัวแต่ดำเนินชีวิตกินบุญเก่า หน้าที่ของพวกท่านคือต้องเป็นประจักษ์พยานเหมือนมรณสักขีรุ่นก่อน!

- สอง จงอย่าลืมความศรัทธา จงศรัทธาต่อความทรงจำ ศรัทธาในกระแสเรียก และศรัทธาในตราประทับของศาสนบริกร ความศรัทธานี้หมายถึงการเดินตามชีวิตของบรรดานักบุญและทำตัวเป็นประจักษ์พยานเหมือนกับคนรุ่นก่อน

- ความศรัทธานี้ยังหมายถึงการทำตัวเป็นธรรมทูต บางที ในอัครสังฆมณฑลกัมปาลามีพระสงฆ์จำนวนมาก ขณะที่สังฆมณฑลอื่นๆ ขาดแคลนพระสงฆ์ ความศรัทธาจึงหมายถึงการไปขอพระสังฆราชโดยสมัครใจที่จะไปเป็นธรรมทูตช่วยงานในสังฆมณฑลที่ขาดแคลนพระสงฆ์

- ความศรัทธายังหมายถึงการรักษากระแสเรียกของตน ด้วยเหตุนี้ พ่อจึงอยากขอบคุณบรรดาซิสเตอร์ที่ทำงานในบ้านเมตตา ซึ่งคอยดูแลผู้ยากไร้ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพราะที่บ้านแห่งนั้น พระเยซูทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขาเหล่านี้

- สาม จงอย่าลืมการสวดภาวนา ถ้าพระสงฆ์และนักบวชชายหญิงหยุดสวดภาวนา หรือสวดน้อยมาก เพียงเพราะข้ออ้างว่างานเยอะจนไม่มีเวลา เขาคนนั้นก็เริ่มจะสูญเสียความทรงจำและเสียความศรัทธาไปแล้ว

- การสวดภาวนาจะทำให้เราเป็นอิสระจากความละอายต่างๆ พระสงฆ์และนักบวชต้องอย่าดำเนินชีวิตเหยาะแหยะ อย่าดำเนินชีวิตสองมาตรฐาน ถ้าท่านรู้ตัวว่าเป็นคนบาป จงวอนขอการอภัยโทษ จงอย่าเก็บรักษาสิ่งที่พระเจ้าไม่โปรดปราน อย่าเก็บความทรงจำกับพระเจ้าไว้ในลิ้นชักเป็นอันขาด สิ่งสำคัญที่พ่ออยากเน้นย้ำก็คือการสวดภาวนาจะเริ่มด้วยการสำนึกว่าเราเป็นคนบาปอยู่เสมอ


Comments