โป๊ปฟรังซิส: "การโกงมีทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่ในวาติกัน"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยอมรับ การโกงไม่ได้มีแค่ในสังคมการเมืองเท่านั้น แต่มันมีทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่ในวาติกัน การโกงมีรสหวานเหมือนน้ำตาล แต่เรารู้อยู่แล้วว่า กินหวานมากๆ จะมีแต่โทษทั้งนั้น ทรงสอน ถ้าเราไม่สวดภาวนา เราจะไม่รู้สึกถึงความจำเป็นที่พระเจ้าจะช่วยเหลือเรา ทรงหวังเห็นชาวเคนยาเอาชนะทัศนคติแบ่งแยกชาติพันธุ์ในสังคม ทรงแบ่งปัน สิ่งที่พระองค์พกติดตัวเสมอมีสองอย่าง ได้แก่ สายประคำและหนังสือเดินรูป 14 ภาค



ช่วงสายวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปพบเยาวชนชาวเคนยากว่า 70,000 คน ภายในสนามกีฬาการาซานี่ กรุงไนโรบี โดยนี่เป็นพิธีการสุดท้ายของพระสันตะปาปาในเคนยาด้วย สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับเยาวชน พระองค์ทรงเทศน์สอนแบบสดๆ จากใจ ตามหัวข้อต่อไปนี้

1) อย่าลืมสวดภาวนา

- คนเราจะสูญเสียส่วนที่ดีที่สุดของชีวิตไปถ้าเขาลืมสวดภาวนา เพราะการที่เราไม่สวดภาวนา จะทำให้เราไม่รับรู้ถึงความจำเป็นในการวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในการเผชิญหน้ากับความยากลำบากต่างๆ เยาวชนที่รัก อย่าลืมนะว่า เราไม่ได้มีชีวิตอยู่บนสวรรค์ แต่เรากำลังอยู่บนโลก เรากำลังอยู่กับความเป็นจริงที่เต็มไปด้วยปัญหามากมาย มันไม่ได้มีแค่ปัญหาเท่านั้น แต่ยังมีการประจญล่อลวงมากมายจากปีศาจที่มาทำให้เราหลงผิดไปด้วย

2) ต่อต้านการแบ่งแยกชาติพันธุ์

- การแบ่งแยกชาติพันธุ์ทำลายชาติของเรา มันคือการเอามือไว้ข้างหลัง มือที่กุมหินไว้พร้อมทุ่มใส่คนอื่น อย่างไรก็ตาม เราเอาชนะการแบ่งแยกชาติพันธุ์ได้ด้วยการรับฟังกันและกัน ถ้าพวกลูกไม่มีส่วนร่วมในการพูดจากัน ถ้าพวกลูกไม่ฟังกัน การแบ่งแยกชาติพันธุ์จะกัดเซาะสังคมที่เราอยู่ ดังนั้น พ่อขอเชิญพวกเราทุกคนลุกขึ้น จับมือกัน เราจะสวดบทข้าแต่พระบิดาพร้อมๆ กัน เพื่อเป็นเครื่องหมายถึงการต่อต้านการแบ่งแยกชาติพันธุ์ (จากนั้น ทุกคนในสนามลุกขึ้นหมด แล้วจับมือกันตามที่พระสันตะปาปาทรงขอร้อง)

3) ต่อต้านการคดโกง

- เราจะเป็นคริสตชนที่ลุกขึ้นต่อสู้กับความชั่วร้ายของการโกงได้อย่างไร พ่อขอย้ำเลยว่า การโกงไม่ได้อยู่แต่ในสังคมการเมืองเท่านั้น แต่มันอยู่ในทุกสถาบัน ไม่เว้นแม้แต่ในวาติกัน! การโกงนั้นหวานเหมือนน้ำตาล แต่ผลที่ตามมาคือความหวานนี้ทำให้เราเจ็บป่วยได้ เยาวชนต้องอย่าไปลิ้มรสของมัน คนโกงจะไม่มีวันดำเนินชีวิตแบบสงบสุข เพราะหนทางของการโกงคือความตายเท่านั้น

4) จะประกาศพระวรสารอย่างไร

- วิธีการประกาศพระวรสารแบบง่ายๆ ที่ลูกควรทำก็คือการพูดจา อากัปกิริยา จงยิ้ม จงใกล้ชิดผู้คนและผูกมิตรเข้าไว้ สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกของการสื่อสารได้ดีกว่าพวกรายการในสถานีโทรทัศน์ด้วยซ้ำไป

5) การเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย

- เยาวชนหลายคนตกงานและไม่มีงานทำ สถานการณ์ช่วงนี้ก็คือกลุ่มก่อการร้ายกำลังรับสมัครผู้เข้าร่วมขบวนการ โดยมุ่งไปที่เยาวชนที่ไม่มีงานทำ คำถามนี้ต้องถามกลับไปยังผู้บริหารประเทศทุกคนว่า ถ้าเยาวชนไม่มีงานทำหรือไม่มีสิทธิ์ได้เรียนหนังสือ พวกท่านจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร จะให้เขาไปรับใช้ความรุนแรงหรือติดยาเสพติดอย่างนั้นหรือ ถ้าร้ายแรงกว่านั้น บางคนถึงขึ้นฆ่าตัวตาย เราจะปล่อยให้เยาวชนต้องตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้หรือ

- สำหรับเราแต่ละคน ถ้าคนที่เรารู้จักจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย เราต้องสวด สวด และสวดให้เขากลับใจ พระเจ้าทรงพลังยิ่งกว่ากลุ่มเหล่านี้ อีกทางหนึ่ง เราต้องเข้าไปพูดคุยกับคนที่กำลังหลงผิด อย่าปล่อยให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวเด็ดขาด

6) สิ่งที่พกติดตัวเสมอ

- มีของ 2 อย่างที่พ่อพกติดกระเป๋าเสมอคือสายประคำและหนังสือเดินรูป 14 ภาค พ่อจะหยิบสายประคำออกมาเวลาที่เจออะไรแปลกๆ กับชีวิต ส่วนหนังสือเดินรูปคือการสะท้อนถึงการมีความหวังในชีวิต ทุกอย่างเริ่มตอนพระเยซูถูกตัดสินประหารชีวิตไปจนถึงการฝังพระศพของพระองค์ แต่สุดท้าย พระเยซูทรงกลับเป็นขึ้นมาอีกครั้ง นี่คือความหวังที่ทำให้พ่อมีความหวังอยู่เสมอ

7) ช่วยเหลือคนที่ไม่เคยพบกับความรักในครอบครัว

- เราจะเอาชนะประสบการณ์เลวร้ายในครอบครัวได้อย่างไร อาทิ การขาดความรักความอบอุ่น คำตอบคือเราลองให้คนอื่นในสิ่งที่เราไม่เคยได้รับดูซิ ถ้าเราไม่เคยมีใครมาเข้าใจเรา เราก็ลองหัดเข้าใจคนอื่นดูบ้างซิ ถ้าเราไม่เคยได้รับความรัก เราก็ลองรักคนอื่นก่อนดูบ้างซิ ถ้าเราเคยเจ็บจากความอ้างว้าง เราก็ลองเข้าหาคนอื่นด้วยความรักดูบ้างซิ ชีวิตต้องรักษาด้วยชีวิต


Comments