โป๊ปฟรังซิส: "ชีวิตก็เหมือนไมโครโฟน ติดบ้าง ดับบ้าง ถ้าชีวิตมีปัญหา จงสวดขอความช่วยเหลือจากพระเยซู"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเยาวชน ชีวิตก็เหมือนไมโครโฟน ติดบ้าง ดับบ้าง งานของเราจึงไม่ได้สำเร็จเสมอไป เมื่อใดที่ทำงานแล้วผลลัพธ์ไม่ดี เราต้องสวดขอความช่วยเหลือจากพระเยซู พระองค์จะเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้น ทรงแนะ ที่สำคัญอย่าลืมสวดขอแม่พระด้วย เพราะตอนเราเป็นเด็ก เราหกล้ม เราร้องหาแม่ ดังนั้น ชีวิตมีปัญหา เราก็ต้องขอให้แม่พระช่วยเหลือเราด้วย ทรงขอร้องเยาวชน กล้าเปลี่ยนประสบการณ์ร้ายๆ ในชีวิตให้เป็นความหวัง เปลี่ยนความเกลียดชังให้เป็นความรัก



ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปพบและให้โอวาทเยาวชนยูกันดากว่า 150,000 คน ภายในลานจอดเครื่องบินของสนามบินเก่าโคโลโล่ กรุงคัมปาล่า ประเทศยูกันดา

ช่วงเริ่มต้นพิธีการ พระสันตะปาปาทรงรับฟังการแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อจากผู้แทนเยาวชน 2 คน ได้แก่ วินนี่ แนนซัมบ้า เยาวชนหญิงอายุ 24 ปีที่ติดเชื้อเอดส์ตั้งแต่เกิด และพ่อแม่เสียชีวิตตอนเธออายุ 7 ขวบ ตอนนี้ เธอมุ่งมั่นใช้เวลาที่เหลือของชีวิตให้กับการเป็นอาสาสมัครให้ความรู้ป้องกันโรคเอดส์, เอ็มมานูเอล โอโดคอนเยโร่ เณรที่เคยถูกกลุ่มกบฏคริสต์ในยูกันดาลักพาตัวไปในปี 2003 เขาได้เห็นเพื่อนเณรถูกทารุณและฆ่าตายจากกลุ่มกบฏด้วย

สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับเยาวชน พระองค์ทรงเทศน์สอนแบบสดๆ จากใจ ใจความว่า

- พ่อได้ยินได้ฟังความเจ็บปวดรวดร้าวแบบสุดๆ ของพวกลูกทั้งสองคน พ่อถามตัวเองว่า 'ประสบการณ์เลวร้ายเช่นนี้มีจุดประสงค์อะไรกับชีวิตของเรา' คำตอบคือใช่ มันมีจุดประสงค์แน่ สำหรับตัวของวินนี่ แม้ว่าเธอจะดูเหมือนหมดอนาคต (เพราะติดเชื้อเอดส์) และชีวิตก็เป็นเหมือนกำแพงที่ไม่มีใครอยากเข้ามาใกล้ แต่พระเยซูทรงแสดงให้เธอเห็นว่า ในชีวิตเรานั้น อัศจรรย์เกิดขึ้นได้เสมอ กำแพงที่ขวางกั้นสามารถแปรเปลี่ยนเป็นถนนไปสู่อนาคตได้ พวกเราหลายคนเคยมีประสบการณ์เลวร้ายในชีวิต แต่ในเรื่องร้ายๆ มันก็ยังมีโอกาสให้เราก้าวเดินต่อไปสู่อนาคตด้วยพลังจากพระเยซู ทุกวันนี้ วินนี่ได้เปลี่ยนประสบการณ์เลวร้ายให้กลายเป็นความหวัง การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่เป็นงานที่พระเยซูทรงทำ เพราะพระเยซูคือพระเจ้าของเรา

- ส่วนเรื่องของเอ็มมานูเอล ขอให้เราพยายามคิดดูว่า ความเจ็บปวดของเพื่อนเราคนนี้หนักหนาเพียงใดเมื่อต้องเห็นเพื่อนรักถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ส่วนเอ็มมานูเอล หลังจากเพื่อนเสียชีวิตลง เขาได้หนีออกมา แต่พวกกบฏก็มาเห็นเข้า แต่เอ็มมานูเอลก็ตัดสินใจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายหนีออกมา เขาวางใจในพระเยซูและทุกวันนี้ เขาก็มีชีวิตรอดและมาอยู่กับเรา

- พ่ออยากถามพวกลูกทุกคนที่อยู่ตรงนี้ว่า พวกลูกพร้อมหรือไม่ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ร้ายๆ ในชีวิตให้เป็นเรื่องดีๆ พวกลูกพร้อมไหมที่จะเปลี่ยนความเกลียดชังให้เป็นความรัก พวกลูกพร้อมไหมที่จะเปลี่ยนสงครามให้เป็นสันติภาพ และพวกลูกรู้ไหมว่าตัวเองเป็นลูกหลานของมรณสักขี

ขณะที่พระสันตะปาปาตรัสถึงตอนนี้ ไมโครโฟนก็เกิดขัดข้องขึ้นมา พระองค์จึงตรัสว่า

- ชีวิตก็เหมือนไมโครโฟน ติดบ้าง ดับบ้าง มันไม่ได้ออกมาดีเสมอไป ดังนั้น เมื่อใดที่เราทำงานแล้วผลลัพธ์มันออกมาไม่ดี เราก็ต้องสวดขอความช่วยเหลือจากพระเยซู พระองค์จะเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้น พระองค์จะทำลายกำแพงขวางกั้นออกไป และยกเราขึ้นมา พระเยซูสามารถเปลี่ยนชีวิตเราให้กล้ารับใช้คนอื่น

- ถ้าลูกต้องการความช่วยเหลือ จงสวดขอพระเยซู คำภาวนาคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่เยาวชนจะมีได้ ขอให้พวกเราเปิดใจให้กับพระองค์และให้พระองค์เข้าไปในใจของลูก พระเยซูจะเข้าไปสะสางปัญหาต่างๆ ในชีวิตของลูก จงวอนขอพระองค์โปรดช่วยเราให้เอาชนะความยากลำบากต่างๆ

- สุดท้ายนี้ พ่อขอให้ทุกคนสวดขอแม่พระด้วย จำได้ไหม เวลาเราเป็นเด็ก ถ้าเราหกล้ม เราจะวิ่งไปหาแม่ เช่นเดียวกัน เมื่อใดที่เรามีปัญหา สิ่งที่ดีที่สุดคือเราต้องไปขอความช่วยเหลือจากแม่ของเราด้วย นั่นคือจงสวดขอแม่พระด้วยนะ

Comments