โป๊ปฟรังซิส: "การบอกรักใครด้วยผลประโยชน์แอบแฝง ถือเป็นความเห็นแก่ตัว"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ การบอกรักใครสักคนด้วยผลประโยชน์แอบแฝง ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทรงชี้ พระบัญญัติแห่งความรักที่พระเยซูสอนว่า "จงรักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง" คือความรักที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำเราไปสู่จุดสูงสุดของบำเหน็จแห่งความรอดของพระเจ้า



ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูตรัสว่า "วิบัติจงเกิดกับท่านบรรดานักกฎหมาย ท่านนำกุญแจไขความรู้ไป ท่านไม่เข้าไป แล้วยังขัดขวางคนที่ต้องการจะเข้าไปด้วย"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- กุญแจที่พระเยซูทรงพูดถึงนี้คือของขวัญแห่งความรอดและของขวัญแห่งความรู้ บรรดานักกฎหมายนำกุญแจซึ่งเป็นของขวัญที่พระเจ้าให้มาฟรีๆ ออกไป เพราะพวกเขาคิดว่าการเคารพต่อบทบัญญัติก็ช่วยให้เราได้รับความรอดแล้ว ส่วนใครที่ไม่ทำตามบทบัญญัติก็ต้องถูกประณาม เมื่อเป็นแบบนี้ พวกเขาได้จำกัดอาณาเขตของพระเจ้าและทำให้ความรักของพระเจ้ากลายเป็นสิ่งที่เล็กมากๆ

- ความรักที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ อาทิ ถ้าพ่อพูดว่า 'พ่อรักคุณนะ' แต่แท้จริงแล้ว พ่อมีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง นี่ไม่ใช่ความรัก มันคือความเห็นแก่ตัว การเห็นประโยชน์ส่วนตน

- นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพระเยซูถึงตรัสว่า 'ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการรักพระเจ้าด้วยชีวิตทั้งชีวิตของท่าน รักแบบสิ้นสุดจิตใจ รักด้วยทั้งหมดในตัวท่าน และจงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง เพราะมันมีเพียงพระบัญญัติแห่งความรักเท่านั้นที่จะยกเราไปยังจุดสูงสุดของบำเหน็จแห่งความรอดของพระเจ้าได้

- บ่อเกิดนี้คือความรัก ถ้าเราเลือกปิดประตูและเอากุญแจแห่งความรักออกไป เราจะไม่ได้ไปยังจุดสูงสุดของบำเหน็จแห่งความรอดของพระเจ้า

- พ่อจึงอยากให้เราถามตัวเองว่า 'เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากบาปหรือไม่ หรือ เราเชื่อว่าเราไม่ต้องทำอะไรเลยเพื่อจะได้รับความรอดใช่ไหม' ขอให้เราอย่าโง่งมงายไปกับบรรดาธรรมาจารย์หรือนักกฎหมายที่พยายามจำกัดความรักของพระเจ้าเลย


Comments