โป๊ปฟรังซิส: "อย่ามีความเชื่อตามกำหนดการ ที่ทุกคนต้องทำตามข้อกำหนดเราคนเดียว"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเตือน เราต้องอย่าติดกับดักของการมีความเชื่อตามกำหนดการ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ต้องทำทุกอย่างตามตารางที่เราวางไว้คนเดียว ใครเข้ามาขัดจังหวะขอความช่วยเหลือ ถือว่าเป็นการรบกวนและต้องถูกต่อว่า ถ้าเป็นแบบนี้ เราจะไม่ต่างจากประชาชนในพระวรสารที่หันไปต่อว่าชายขอทานที่ตาบอดซึ่งมาขอความช่วยเหลือจากพระเยซู ทรงถาม เราเป็นศิษย์ติดตามพระเยซู เราพูดว่าเราอยู่กับพระเยซู เราเชื่อในพระเยซู แต่ว่า เราคิดเหมือนพระองค์หรือเปล่า หัวใจของเราเปิดต้อนรับคนอื่นเหมือนที่พระเยซูเปิดต้อนรับคนที่กรีดร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่



ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก ครั้งที่ 14 เรื่องครอบครัว ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน

สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า

- พระวรสารวันนี้ เราได้เห็นพระเยซูทรงสั่งบรรดาศิษย์ให้ไปเรียกบาร์ทิเมอัส (ชายตาบอด) ศิษย์ของพระเยซูไปเรียกและกล่าวกับบาร์ทิเมอัสว่า 'ทำใจดีๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์เรียกท่านแล้ว'

- แม้แต่ในทุกวันนี้ ศิษย์พระเยซูก็ยังถูกเรียกให้ทำเช่นนี้ เฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ เราต้องนำผู้คนไปสัมผัสกับพระเมตตาที่เปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อคนอื่น และช่วยทุกคนให้ได้รับความรอด

- เมื่อมนุษยชาติกรีดร้องขอความช่วยเหลือเหมือนบาร์ทิเมอัส ร้องดังขึ้นเรื่อยๆ มันไม่มีทางตอบสนองอื่นเลยนอกจากทำแบบพระเยซู เพราะยุคนี้คือเวลาแห่งความเมตตา

- มันมีการประจญล่อลวงบางอย่างสำหรับคนที่ติดตามพระเยซู พระวรสารวันนี้แสดงให้เราเห็นอย่างน้อย 2 อย่าง

- อย่างแรก ไม่มีศิษย์พระเยซูแม้แต่คนเดียวที่หยุดฟังเสียงกรีดร้องเหมือนที่พระเยซูทรงหยุด พวกเขายังเดินต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

- ถ้าบาร์ทิเมอัสคือคนตาบอด ศิษย์พระเยซูก็คงเป็นคนหูหนวกเหมือนกันแหละ นี่คืออันตรายสำหรับเราทุกคน เราอยู่กับพระเยซู แต่เราไม่ยอมคิดเหมือนพระองค์ หัวใจเราไม่เปิดออกหาทุกคนเหมือนพระองค์ เรามีความสามารถในการพัฒนามุมมองต่างๆ ต่อโลก แต่เรากลับไม่ยอมรับสิ่งที่พระเจ้าวางไว้ต่อหน้าต่อตาเรา

- การประจญอย่างที่สองคือการติดกับดักของ 'ความเชื่อตามกำหนดการ' กล่าวคือ เราสามารถเดินไปกับประชากรของพระเจ้า แต่เรามีกำหนดการสำหรับการเดินทางของเรา ทุกคนต้องทำตามเรา หากมีอะไรเข้ามาแทรกตารางของเรา เราจะรำคาญทันที

- ถ้าเป็นเช่นนี้ เราเสี่ยงที่จะเป็นเหมือนประชาชนที่อยู่ในพระวรสารวันนี้ ซึ่งสูญเสียความอดทนและหันไปต่อว่าบาร์ทิเมอัส ก่อนหน้านี้ คนพวกนี้ก็ต่อว่าเด็กๆ ตอนนี้มาต่อว่าคนขอทานที่ตาบอด ใครก็ตามที่มารบกวนพวกเขา ต้องโดนกีดกันออกไปหมด

- ในทางกลับกัน พระเยซูไม่ทำแบบนั้น พระองค์ไม่เคยกีดกันใคร เหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ทรงเรียกทุกคนที่กำลังร่ำไห้ให้มาหาพระองค์ เพราะคนเหล่านี้เหมือนบาร์ทิเมอัสที่รู้ว่า ถ้าจะได้รับความรอด หนทางที่ดีที่สุดคือการได้พบกับพระเยซู

หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาได้ออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร โดยพระองค์ตรัสก่อนการภาวนาว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลครอบครัวผู้อพยพลี้ภัยสงครามด้วยความเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพวกเขาด้วย





Comments