โป๊ปฟรังซิส: พระศาสนจักรต้องเป็น "สะพาน" เพื่อสัตบุรุษ ไม่ใช่เป็น "สิ่งกีดขวาง"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ พระศาสนจักรต้องไม่ทำตัวเป็น "สิ่งกีดขวาง" แต่ต้องเป็น "สะพาน" เพื่อประชากรของตน พระศาสนจักรต้องเป็นโรงพยาบาลภาคสนามที่พร้อมช่วยทุกคนที่มาขอความช่วยเหลือ ทรงชี้ โลกยุคนี้เต็มไปด้วยแมนชั่นสูงๆ หรูๆ แต่ดูเหมือนความรักความอบอุ่นในครอบครัวไม่สูงตาม มีแต่ความโดดเดี่ยวอ้างว้างในจิตใจเพิ่มมากขึ้น ทรงสอน การแต่งงานไม่ใช่แค่การอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่มันคือการรักกันและกันตลอดไปด้วย




ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาเปิดการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก เรื่องครอบครัว ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน บทอ่านแรกของวันนี้จากหนังสือปฐมกาล พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์ (ชาย) อยู่อย่างโดดเดี่ยว พระองค์จึงสร้างมนุษย์ผู้หญิงขี้นมาคู่กัน ส่วนพระวรสารวันนี้ ฟาริสีพยายามจับผิดพระเยซูเกี่ยวกับคำสอนของโมเสสเรื่องการหย่าร้าง

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- บทอ่านและพระวรสารในวันนี้ ดำเนินอยู่บน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ ความโดดเดี่ยว ความรักระหว่างชายและหญิง และครอบครัว

- บทอ่านแรก ความโดดเดี่ยวอ้างว้างของมนุษย์ เฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโส พ่อม่าย แม่ม่าย และคนที่ถูกคู่ครองทิ้ง ทุกวันนี้ เราเห็นว่า ไม่มีใครเข้าใจพวกเขาและเสียงร้องของพวกเขาไม่มีใครได้ยิน พ่อขอกล่าวถึงเป็นพิเศษไปถึงเสียงร้องของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพด้วยนะ

- โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยแมนชั่นสูงใหญ่หรูหรา แต่ดูเหมือนความรักความอบอุ่นในครอบครัวกลับน้อยลงไป กลายเป็นว่า มีความโดดเดี่ยวอ้างว้างภายในจิตใจมากยิ่งขึ้น

- มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ยุคนี้ ผู้คนไม่จริงจังกับการสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งและบังเกิดผลแก่กัน ... ดูได้จากอัตราการเกิดที่ต่ำมากๆ ขณะที่อัตราการทำแท้งพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับการหย่าร้าง การฆ่าตัวตาย และปัญหาสังคม

- พ่ออยากย้ำว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ชายและหญิงขึ้นมา เพื่อให้อยู่ในความทุกข์หรืออยู่อย่างเดียวดาย แต่พระเจ้าทรงสร้างเขาขึ้นมาเพื่อความสุข

- ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูตอบกลับพวกฟาริสีด้วยวิถีทางที่พวกเขาคาดไม่ถึง พระเจ้าทรงอวยพรความรักของมนุษย์ พระเจ้าทรงเข้าไปอยู่ในหัวใจของพวกเขาที่รักกันและกัน พระองค์ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับเขาและแยกจากกันไม่ได้

- พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้รักและให้ถูกรัก เพื่อที่พวกเขาจะได้เห็นผลของความรักนี้ซึ่งก็คือลูกๆ ที่จะเกิดมา

- การแต่งงานไม่ใช่แค่การอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่มันคือการรักกันและกันตลอดไปด้วย

- สำหรับครอบครัวแล้ว พระศาสนจักรได้รับกระแสเรีกในการนำพาพันธกิจแห่งความซื่อสัตย์ต่อกัน ความจริง และความรัก

- นอกจากนี้ ยังมีพันธกิจเรื่องความเมตตาของพระศาสนจักร พ่ออยากแบ่งปันภาพของแม่ที่รู้สึกถึงหน้าที่ของตนในการดูแลคู่สมรสที่บาดเจ็บด้วยการชโลมเครื่องหอมแห่งการยอมรับและความเมตตาต่อพวกเขา

- พระศาสนจักรคือโรงพยาบาลภาคสนามที่ประตูเปิดอยู่เสมอ เพื่อต้อนรับทุกคนที่มาเคาะขอความช่วยเหลือ ดังที่พระเยซูตรัสว่า "คนสบายดีไม่ต้องการหมอ แต่คนป่วยที่ต้องการหมอ เราไม่ได้มาเรียกคนชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาป"

- พระศาสนจักรต้องตามหาคนเหล่านี้ ต้องต้อนรับเขาและเดินไปกับเขา พระศาสนจักรต้องไม่เป็นสิ่งกีดขวาง แต่เราต้องเป็นสะพานเพื่อทุกคน

Comments