โป๊ปฟรังซิส: "เราเปลี่ยนทัศนคติตามกาลเวลาได้ แต่ความเชื่อในพระเจ้าต้องไม่เปลี่ยนแปลง"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน คริสตชนต้องรู้จักอ่านสัญญาณของกาลเวลา เราทำได้ผ่านทางความเงียบและสวดภาวนา ทรงย้ำ เวลาเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องเปลี่ยนแปลงด้วย แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ "ทัศนคติที่ต้องปรับตัวตามกาลเวลา" ส่วนความเชื่อในพระเจ้าต้องไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเราต้องยึดมั่นในความจริงแห่งพระวรสาร



ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูตรัสกับประชาชนว่า "คนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย ท่านรู้จักวินิจฉัยสภาพดินฟ้าอากาศ แล้วทำไมจึงไม่วินิจฉัยเวลาปัจจุบันนี้เล่า ทำไมท่านไม่ตัดสินด้วยตัวเองว่าสิ่งใดถูกต้อง ขณะที่ท่านไปศาลกับคู่ความของท่าน"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า

- เรามีเสรีภาพที่จะตัดสินสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา แต่การที่จะตัดสินนั้น เราต้องมีความรู้ที่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราก่อน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ คำตอบคือ พระศาสนจักรเรียกร้องให้เราพิจารณาสัญญาณของกาลเวลา

- มันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่ปรีชาญาณตามแบบคริสตชนต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ และต้องจำแนกการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา เราต้องอ่านสัญญาณของเวลาให้ออกว่ามันหมายความว่าอย่างไร

- การจะเข้าใจสัญญาณของกาลเวลาได้นั้น สิ่งแรก เราต้องเงียบและเฝ้าสังเกต จากนั้น เราต้องมาไตร่ตรองกับตัวเอง อาทิ ทำไมมันเกิดสงครามมากมายในทุกวันนี้ ทำไมสงครามจึงเกิดขึ้น ต่อมา เราต้องสวดภาวนา สวดเงียบๆ ไตร่ตรองสิ่งที่เกิด นี่เป็นหนทางเดียวที่เราจะเข้าใจสัญญาณของกาลเวลาตามที่พระเยซูทรงบอกเรา

- การจะเข้าใจสัญญาณของกาลเวลา เราไม่ควรไปจำกัดความคิดอยู่กับกลุ่มคนรวยหรือคนที่มีอาชีพสูงๆ พระเยซูไม่เคยบอกให้เรามองศาสตราจารย์ หมอ หรือพวกคนฉลาดหลักแหลม ตรงกันข้าม พระเยซูสอนให้เรามองไปที่ชาวนาที่รู้จักแยกข้าวสาลีออกจากฟางข้าว

- เวลากำลังเปลี่ยนแปลง และเราคริสตชนต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เราต้องเปลี่ยน แต่สิ่งที่ต้องยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลงคือความเชื่อในพระคริสตเจ้า เราต้องยึดในความจริงแห่งพระวรสาร สิ่งที่เราจะเปลี่ยนคือทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับสัญญาณของกาลเวลา

- หน้าที่ของเราคือดูสิ่งรอบตัว พิจารณามันผ่านทางความเงียบและสวดภาวนา


Comments