โป๊ปฟรังซิส: "จงกล้าฝันว่าถ้าเราทำดีให้โลก โลกจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอนเยาวชน อย่าปิดตัวเองไม่ต้อนรับใคร จงอย่าหยุดฝัน แต่จงกล้าฝันว่า ถ้าเราทำดีที่สุดให้กับโลก โลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทรงชี้ เราต้องเดินไปพร้อมๆ กับคนอื่น อย่าเอาแต่ตัวเองเดินเร็วคนเดียว ดังคำกล่าวที่ว่า "ถ้าคุณต้องการเดินเร็ว จงเดินไปคนเดียว แต่ถ้าคุณต้องการเดินได้ไกลๆ จงเดินไปพร้อมๆ กับคนอื่น" ทรงขอร้องเยาวชน สวดให้พระองค์ด้วย ส่วนเยาวชนที่ไม่ได้เป็นคาทอลิก อย่างน้อย ส่งความหวังดีมาให้พระองค์ก็ได้

เย็นวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จไปพบบรรดาเยาวชนที่ศูนย์วัฒนธรรมคุณพ่อ เฟลิกซ์ วาเรล่า พิธีการช่วงนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่พยายามนำร่มมากางให้พระสันตะปาปา แต่พระองค์หันไปบอกว่า "ไม่เป็นไร พ่อขอร่วมตากฝนไปพร้อมกับเยาวชนทุกคนนี่แหละ"

สำหรับพระดำรัสสอนเยาวชน พระสันตะปาปาตรัสว่า:

- ลูกๆ เยาวชนที่รัก ความจริงข้อหนึ่งในชีวิตคือเราต้องกล้าฝันจงเปิดตัวเองและกล้าฝัน จงกล้าฝันว่า ถ้าเราทำสิ่งดีที่สุดให้กับโลกแล้ว โลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ อย่ากลัว! บางทีมันอาจดูมากไปนะ และชีวิตคนเราก็สั้น แต่ช่างเถอะ จงมีความฝันเสมอ!

- พ่ออยากขอร้องลูกทุกคน จงกล้าพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เรามีร่วมกัน จงกล้าพูดในสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างกัน พ่อไม่ต้องการให้เราเถียงกัน แต่ต้องการให้เราเข้าใจความต่างของกันและกัน

- น่าเศร้าที่โลกถูกทำลายด้วยสงคราม เพียงเพราะเราไม่พูดจากันดีๆ พึงระลึกว่า ที่ใดมีความขัดแย้ง ที่นั่นก็มีความตาย และมันเป็นความตายในจิตวิญญาณ

- มีอีกคำหนึ่งที่พ่ออยากกล่าวกับลูกๆ ก็คือความหวัง เยาวชนคือความหวังของประเทศชาติ ว่าแต่ความหวังคืออะไรล่ะ มันคือการมองโลกแง่ดีอย่างนั้นหรือ ไม่เลย! ความหวังมันเป็นบางสิ่งที่ไกลกว่านั้น ความหวังคือการทนทุกข์เพื่อให้ได้รับสิ่งที่ดีกว่านั้นได้

- ความหวังคือความอุดมสมบูรณ์ ความหวังคือการให้ชีวิต แล้วลูกล่ะ จิตวิญญาณของลูกสามารถผลิดอกออกผลได้หรือไม่ หรือว่าไร้ความสามารถในการทำให้บังเกิดผ

- ทุกวันนี้ เราอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้าแห่งเงินตรา ทุกสิ่งกลายเป็นวัฒนธรรมทิ้งขว้างไปหมด เด็กๆ ถูกทิ้งขว้างก่อนที่พวกเขาจะเกิดด้วยซ้ำ เยาวชนถูกทอดทิ้งเพราะพวกเขาไม่มีงานทำ ส่วนผู้สูงอายุก็ถูกทอดทิ้งเพราะเขาถูกมองว่าไม่สามารถทำประโยชน์ได้

- วัฒนธรรมทิ้งขว้างทำร้ายเราทุกคน มันพรากความหวังไปจากเรา แต่การทำงานนี่แหละที่จะช่วยเราออกจากวัฒนธรรมทิ้งขว้าง

- หนทางของความหวังไม่ง่ายและไม่สามารถเดินทางไปได้ด้วยตัวคนเดียว มีคำกล่าวจากทวีปแอฟริกาว่า "ถ้าคุณต้องการเดินเร็ว จงเดินไปคนเดียว แต่ถ้าคุณต้องการเดินได้ไกลๆ จงเดินไปพร้อมๆ กับคนอื่น" ไม่ว่าพวกลูกจะคิดอย่างไรก็ตาม แต่พ่ออยากให้พวกลูกเดินไปพร้อมกัน

- พ่อเริ่มการทักทายลูกๆ ด้วยความฝัน พ่อจึงขอจบด้วยคำพูดอีกคำหนึ่งนั่นคือ "วัฒนธรรมของการพบหน้ากัน" ขอให้เราทุกคนเดินไปด้วยกัน พบปะกัน และเราต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

- สุดท้ายนี้ พ่อขอให้ทุกคนสวดภาวนาให้พ่อด้วย และถ้าลูกคนไหนที่ไม่ได้เป็นคาทอลิกหรือไม่ได้เชื่อในพระเจ้า อย่างน้อย ลูกก็ส่งความปรารถนาดีให้พ่อพบแต่สิ่งดีๆ ก็แล้วกันนะ