โป๊ปฟรังซิส: "เมื่อเราได้รับความรักจากพระเจ้า เราต้องออกจากตนเองและแบ่งความรักนี้ให้คนอื่นด้วย"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ เมื่อเราได้รับความรักจากพระเจ้า เราก็ควรออกจากตัวเองและนำความรักนี้ไปมอบให้พี่น้องคนอื่นด้วย ไม่ใช่เอาแต่ปิดตัวเองและไม่แบ่งปันสิ่งดีที่ได้จากพระเจ้าให้กับคนอื่น ทรงสอน แม่พระคือตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องนี้ เพราะตอนที่แม่พระได้รับการแจ้งสารจากอัครเทวดากาเบรียล แม่พระก็ออกไปเยี่ยมและแบ่งปันความหวังความชื่นชมยินดีให้กับท่านเอลิซาเบ็ธทันที

เช้าวันอังคารที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซา ณ สักการะสถานแม่พระแห่งความรัก (แม่พระแห่งเอล กอเบร) เมืองซานติอาโก้ ประเทศคิวบา มิสซานี้ ราอูล คาสโตร ประธานาธิบดีคิวบามาร่วมมิสซาด้วย นับเป็นมิสซาที่ 3 ในรอบ 3 วันที่ ราอูล คาสโตร มาร่วมพิธี แม้ในความเป็นจริงแล้ว เขาจะประกาศว่าเป็นคาทอลิกทิ้งวัดที่ไม่ได้มาร่วมมิสซาหลายสิบปีแล้วก็ตาม

สำหรับพระวรสารมิสซานี้ เป็นเหตุการณ์ที่แม่พระเสด็จไปเยี่ยมนางเอลิซาเบ็ธ ส่วนใจความสำคัญของบทเทศน์มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า:

- การที่พระเจ้าประทับอยู่ในชีวิตของเรา พระองค์ไม่เคยให้เราอยู่นิ่งเลย แต่พระเจ้าทรงผลักดันเราเสมอให้ทำบางสิ่งบางอย่าง เมื่อพระเจ้าเสด็จมา พระองค์ทรงเรียกเราให้ออกจากบ้าน พระองค์มาเยี่ยมเราและพระองค์ทรงขอให้เราออกไปเยี่ยมคนอื่นด้วย พวกเราได้สัมผัส(พระเจ้า) และพระเจ้าก็อยากให้เราไปสัมผัสคนอื่น พวกเราได้รับความรัก ก็เพื่อจะได้มอบความรักนี้ให้คนอื่น เรื่องนี้ แม่พระได้เป็นแบบอย่างให้เราเห็นจากเหตุการณ์ได้รับการแจ้งสารจากอัครเทวดากาเบรียล จากนั้น แม่พระก็ออกไปเยี่ยมนางเอลิซาเบ็ธทันที

- พวกเราก็เช่นกัน เราถูกเชิญให้ออกจากบ้าน พร้อมเปิดดวงตาและหัวใจให้กับคนอื่น การปฏิวัติตนเองของเราเกิดจากความอ่อนโยนและความชื่นชมยินดี ซึ่งมันจะกลายเป็นความใกล้ชิดและความเห็นอกเห็นใจกัน สิ่งนี้จะนำเราให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นและรับใช้พวกเขา ความเชื่อจะทำให้เราออกจากตัวเองและออกไปสัมผัสกับคนอื่น แบ่งปันความชื่นชมยินดี ความหวัง และความผิดหวังกับพวกเขา

- เหมือนกับแม่พระนี่แหละ พวกเราต้องการเป็นพระศาสนจักรที่รับใช้ ที่ออกจากบ้านของตน ก้าวออกจากวัดน้อย ออกจากห้องซาคริสตี และก้าวออกไปหาคนอื่น เพื่อไปร่วมดำเนินชีวิตกับเขา ดำรงรักษาความหวังกับเขาและเป็นเครื่องหมายของความเป็นหนึ่งเดียวกัน

- ขอให้เราเป็นเหมือนแม่พระ พวกเราต้องการเป็นพระศาสนจักรที่สามารถร่วมเดินไปกับประชากรของตนในสถานการณ์ยากลำบาก อุทิศชีวิตเพื่อสังคม อย่าล้างมือแล้วหนีไป แต่ขอให้เราร่วมเดินไปกับพี่น้องของเรา