โป๊ปฟรังซิส: "ศาสนสัมพันธ์จะบังเกิดผล ผู้เสวนาต้องรู้อัตลักษณ์แท้จริงในศาสนาของตน"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ศาสนสัมพันธ์จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้เสวนาจะต้องรู้ถึงอัตลักษณ์แท้จริงในศาสนาของตน เพราะถ้ารู้ไม่จริง มันจะทำให้การเสวนาไร้ประสิทธิภาพและอาจทำให้เกิดโทษได้ด้วย ทรงชี้ งานศาสนสัมพันธ์ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่ผู้นำศาสนา แต่ควรแผ่ขยายไปถึงศาสนิกชนทุกคน


ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงไปร่วมงานเสวนาคริสตศาสนสัมพันธ์และศาสนสัมพันธ์ ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การศึกษาฟรานซิสกัน กรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า งานนี้ มีทั้งผู้แทนจากคาทอลิก, มุสลิม, ออโธด็อกซ์ และยิว มาร่วมกันอย่างคับคั่ง

สำหรับพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับทุกคน ใจความว่า "กรุงซาราเยโวยืนอยู่บนทางแยกของวัฒนธรรมและผู้คน นี่คือความหลากหลายที่เกิดขึ้น ในทางกลับกัน มันยังเป็นทรัพยากรชั้นเลิศที่มอบให้กับสังคม วัฒนธรรม และการพัฒนาด้านจิตวิญญาณของท้องถิ่นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มันยังทำให้เกิดบาดแผลจากสงครามนองเลือด ซึ่งได้ทำลายประเทศเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 90 เช่นกัน

"ข้าพเจ้าขอชื่นชมสภาศาสนสัมพันธ์ของกรุงซาราเยโวที่ก่อตั้งเมื่อค.ศ.1997 เพื่อส่งเสริมการคืนดีกัน และประสานงานริเริ่มงานพัฒนาความสัมพันธ์ภายในบอสเนีย ศาสนสัมพันธ์ไม่ควรถูกจำกัดเพียงแค่ตัวผู้นำทางศาสนาเท่านั้น แต่มันควรจะแผ่ขยายไปยังศาสนิกชนทุกคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันคือการสนทนาเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของมนุษย์

"อาศัยการเสวนาศาสนสัมพันธ์ จิตวิญญาณของความเป็นพี่น้องกันจะได้รับการพัฒนาขึ้น ซึ่งมันจะรวมเราเป็นหนึ่งและส่งเสริมคุณค่าศีลธรรม ความยุติธรรม เสรีภาพ และสันติภาพ แต่การจะทำให้งานเสวนาศาสนสัมพันธ์เกิดประสิทธิภาพ เราจะต้องรู้ถึงอัตลักษณ์ของเรา เพราะถ้าเราไม่รู้ถึงอัตลักษณ์ศาสนาของเราเอง มันจะทำให้การเสวนาศาสนสัมพันธ์ไร้ประสิทธิภาพและยังอาจก่อให้เกิดโทษได้ด้วย

"สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอภาวนาเพื่อสันติภาพในบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า ขอให้กรุงซาราเยโวซึ่งในอดีตเป็นสัญลักษณ์ของสงครามและการทำลายล้าง ได้กลับกลายเป็นเครื่องหมายของความเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งความหลากหลายไม่ได้เป็นเครื่องหมายของภัยคุกคาม แต่จะเป็นสัญลักษณ์แห่งโอกาสที่เราจะเติบโตร่วมกันในสันติและความกลมเกลียวกัน" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments