โป๊ปฟรังซิส: "สงฆ์และนักบวชชายหญิงที่ให้อภัยไม่เป็น ถือเป็นการกระทำที่ไร้ค่ามาก"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ พระสงฆ์และนักบวชชายหญิงที่ไม่รู้จักการให้อภัย ถือเป็นการกระทำที่ไร้ค่ามากๆ ทรงเตือน สงฆ์และนักบวชอย่าหลงไปกับจิตตารมณ์ทางโลก อย่าบ่นว่าไม่มีโทรทัศน์ในห้อง อย่าบ่นเรื่องความเป็นอยู่ที่ไม่สุขสบาย และอย่านินทาอธิการเจ้าคณะเรื่องอาหารไม่เพียงพอ แต่จงคิดถึงนักบวชชายหญิงที่เป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ผ่านทางการถูกจับขังคุก ถูกทารุณกรรม และถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตว่า พวกท่านลำบากมากแค่ไหน แต่ยังไม่ปริปากบ่นเลย







ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงให้โอวาทแก่บรรดาพระสงฆ์ และนักบวชชายหญิง ภายในอาสนวิหารพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู กรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า

พิธีการนี้ เริ่มต้นด้วยการแบ่งปันการเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้าจากบรรดานักบวชที่ดำเนินชีวิตช่วงสงครามบอสเนีย ค.ศ.1992-1995 โดยมีผู้แบ่งปัน 3 คน (ตามภาพ)

ภาพซ้าย: พระสันตะปาปาทรงก้มลงไปจุมพิตมือของคุณพ่อซโวนิเมียร์ มาติเยวิช ซึ่งถูกทหารทรมานอย่างโหดร้ายช่วงสงครามกลางเมือง แต่คุณพ่อกล่าวแบ่งปันว่า ท่านอภัยให้ทหารที่ทำร้ายท่านทุกคน

ภาพขวาบน: พระสันตะปาปาทรงสวมกอดคุณพ่อโยโซ่ ปูสการิค ผู้ถูกจับไปขังคุกนาน 4 เดือน หลังจากวัดคาทอลิกที่ท่านดูแลถูกเผาทิ้ง ในช่วงสงครามกลางเมือง

ภาพขวาล่าง: พระสันตะปาปาทรงสวมกอดซิสเตอร์ลูบิก้า เซเคริย่า ซึ่งถูกทหารขู่ฆ่า หากว่าซิสเตอร์ไม่ยอมทำลายสายประคำที่ถืออยู่ในมือ

หลังการแบ่งปันเสร็จสิ้นลง พระสันตะปาปาทรงแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ตอนแรก พระองค์ทรงเตรียมโอวาทไว้ในแผ่นกระดาษแล้ว แต่สุดท้าย พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับทุกคนว่า "ขอพ่อพูดแบบสดๆ จากใจแล้วกัน" ทำให้ทุกคนปรบมือชอบใจกันใหญ่

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พี่น้องชายหญิงที่รัก พวกท่านต้องอย่าลืมประวัติศาสตร์ของตัวเอง เราจดจำไม่ใช่เพื่อยึดติดกับความแค้น แต่เพื่อใช้สร้างสันติภาพให้บังเกิดขึ้น!

"พ่อมีบางคำที่อยากแบ่งปันจากใจ หนึ่งในนั้นคือ 'การให้อภัย' นักบวชชายหญิงที่ถวายการดำเนินชีวิตของตนแด่พระเจ้า แต่ไม่รู้จักการให้อภัย ถือเป็นเรื่องไร้ค่ามากๆ การให้อภัยศัตรูที่ให้ร้ายท่าน หรือให้อภัยซิสเตอร์ขี้อิจฉา ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่การให้อภัยคนที่ทำร้ายท่าน เตะท่าน หรือขู่ฆ่าท่านด้วยปืน สิ่งนี้ต่างหากที่ยากจะให้อภัย แต่ผู้แทนของท่านทั้งสามคนที่มาแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อ ก็บอกเราแล้วว่า ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก พวกเขาก็จะให้อภัยคนที่ทำร้ายตนเหมือนเดิม

"การติดคุกนาน 120 วัน (4 เดือน ของคุณพ่อโยโซ่ ปูสการิค) ชวนให้เราคิดว่า บ่อยครั้งแค่ไหนที่จิตตารมณ์ทางโลกทำให้เราหลงลืมคนที่อยู่หน้าเราที่กำลังทนทุกข์ทรมาน การติดอยู่ในค่ายกักกันแบบนี้ เขานับวันกันเป็นนาทีเลย เพราะการอยู่ในนั้นทุกนาที ทุกชั่วโมงคือการถูกทารุณกรรม มันไม่มีน้ำและอาหาร แล้วมาดูตัวเราเองซิ พวกเราที่บ่นไปเรื่อย เพียงเพราะเราต้องการมีโทรทัศน์ในห้อง หรือต้องการอยู่แบบสุขสบายมากขึ้น หรือบางครั้ง เรานินทาอธิการเจ้าคณะเพียงเพราะอาหารไม่เพียงพอ ดังนั้น อย่าลืมการเป็นประจักษ์พยานของท่านเหล่านี้เด็ดขาด คิดให้มากๆ ถึงความทุกข์ที่พวกท่านต้องประสบ

"สุดท้ายนี้ พ่ออยากบอกพวกท่านเกี่ยวกับเรื่องที่เราได้ฟังการแบ่งปันในวันนี้ว่ามันคือเรื่องของความโหดร้าย ทุกวันนี้ มีสงครามอยู่ทั่วโลก เราได้เห็นความโหดร้ายมากมาย แต่สิ่งที่ตรงข้ามกับความโหดร้ายคือความอ่อนโยน ความเป็นพี่น้องกัน และการให้อภัย นี่คือการแบกไม้กางเขนของพระเยซู นี่คือสิ่งที่พระศาสนจักรผู้เป็นมารดา ต้องการจากท่านทุกคน นั่นคือ จงเป็นมรณสักขีตัวเล็กๆ จงเป็นประจักษ์พยานตัวเล็กๆ ถึงไม้กางเขนของพระคริสตเจ้า ขอพระเจ้าอวยพรท่านทุกคน และสวดให้พ่อด้วยนะ" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

ประมวลภาพ: พระสันตะปาปาพบนักบวชชายหญิงในกรุงซาราเยโว

Read More: Vatican Radio


Comments