โป๊ปฟรังซิส: "พระศาสนจักรต้องไม่มีการวิ่งเต้นหาพรรคพวกเพื่อเอาชนะกัน"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน พระศาสนจักรต้องไม่มีการวิ่งเต้นหาพรรคหาพวก เพื่อให้ฝ่ายตนได้รับชัยชนะเหนือคนอื่น ถ้าพระศาสนจักรที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มีการทรยศหักหลังกัน พระศาสนจักรนั้นไม่มีพระจิตประทับอยู่ ทรงยกตัวอย่างของสังคายนากรุงเยรูซาเล็มซึ่งอัครสาวกมาประชุมกันเพื่อแก้ปัญหาความแตกต่างทางความคิดเห็น มาเป็นบทสอนเรื่องการแก้ปัญหาด้วยการพูดจากัน
ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสบางคนประชุมกันที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่อส่งคนไปยังเมืองอันติโอ็ก พร้อมกับเปาโลและบาร์นาบัส เพราะที่นั่น กลุ่มคริสตชนเริ่มเกิดเรื่องไม่เข้าใจกัน
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านตอนนี้ว่า "ผลลัพธ์ของการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มของกลุ่มคริสตชนยุคแรกเริ่มเป็นผลจากความช่วยเหลือจากพระจิต เพื่อจะแก้ปัญหาความแตกต่างของความคิดเห็นและเพื่อจะได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน กลุ่มคริสตชนที่ขัดแย้งกันนี้ เกิดระหว่างกลุ่มคริสตชนที่ยึดติดกับธรรมบัญญัติของชาวยิว กับกลุ่มที่อยากสั่งห้ามไม่ให้กลุ่มคริสตชนยุคแรกเริ่มทำตามธรรมบัญญัติเหล่านั้น
"พวกเขาแก้ปัญหานี้อย่างไรกันล่ะ พวกเขาจัดการประชุมและแต่ละคนก็เสนอมุมมองของตนออกมา พวกเขาหารือถึงประเด็นนี้ แต่เป็นการหารือแบบพี่น้องไม่ใช่แบบศัตรู พวกเขาไม่วิ่งเต้นหาพวกเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ พวกเขาไม่เข้าหาผู้มีอำนาจเพื่อชัยชนะ พวกเขาไม่เข่นฆ่ากันเพื่อชัยชนะ แต่พวกเขาแสวงหาหนทางของการภาวนาและพูดจากัน คนที่มีมุมมองต่างกันก็พูดจากับอีกฝ่ายหนึ่งและพวกเขาก็บรรลุข้อตกลงร่วมกัน นี่คือผลงานของพระจิตอย่างแท้จริง เป็นพระจิตที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความสามัคคีและนี่จึงเป็นเหตุผลที่คริสตชนที่เข้าร่วมการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มสามารถที่จะบรรลุการตัดสินใจขั้นสุดท้ายได้
"พระศาสนจักรที่ประชากรของตนเองชอบโต้เถียงกันเป็นประจำ มีการวิ่งเต้นหาพรรคหาพวก และคนในนั้นก็ทรยศหักหลังพี่น้องของตน คือพระศาสนจักรที่ไม่มีพระจิตประทับอยู่ เป็นพระจิตที่สร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างจุดเปลี่ยนที่จะก้าวไปข้างหน้า สร้างพื้นที่ใหม่ๆ ขึ้นมา สร้างปรีชาญาณที่พระเยซูทรงสัญญาไว้ว่า 'พระจิตจะสอนพวกท่าน' สิ่งนี้ทำให้สิ่งต่างก้าวไปข้างหน้า และยังสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างทุกคนด้วย
"บทอ่านในวันนี้สอนเราเกี่ยวกับการประชุมสังคายนาครั้งแรกที่กรุงเยรูซาเล็ม นี่คือบทสรุปเวลาที่พระจิตทรงทำให้ทุกฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ดังนั้น ขอให้เราวอนขอพระเยซูผู้ทรงประทับอยู่ท่ามกลางเรา ได้โปรดส่งพระจิตมาหาเรา สอนเราแต่ละคน ขอพระองค์โปรดส่งพระจิตมายังพระศาสนจักรด้วย" พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย
Read More: Vatican Radio
ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสบางคนประชุมกันที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่อส่งคนไปยังเมืองอันติโอ็ก พร้อมกับเปาโลและบาร์นาบัส เพราะที่นั่น กลุ่มคริสตชนเริ่มเกิดเรื่องไม่เข้าใจกัน
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านตอนนี้ว่า "ผลลัพธ์ของการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มของกลุ่มคริสตชนยุคแรกเริ่มเป็นผลจากความช่วยเหลือจากพระจิต เพื่อจะแก้ปัญหาความแตกต่างของความคิดเห็นและเพื่อจะได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน กลุ่มคริสตชนที่ขัดแย้งกันนี้ เกิดระหว่างกลุ่มคริสตชนที่ยึดติดกับธรรมบัญญัติของชาวยิว กับกลุ่มที่อยากสั่งห้ามไม่ให้กลุ่มคริสตชนยุคแรกเริ่มทำตามธรรมบัญญัติเหล่านั้น
"พวกเขาแก้ปัญหานี้อย่างไรกันล่ะ พวกเขาจัดการประชุมและแต่ละคนก็เสนอมุมมองของตนออกมา พวกเขาหารือถึงประเด็นนี้ แต่เป็นการหารือแบบพี่น้องไม่ใช่แบบศัตรู พวกเขาไม่วิ่งเต้นหาพวกเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ พวกเขาไม่เข้าหาผู้มีอำนาจเพื่อชัยชนะ พวกเขาไม่เข่นฆ่ากันเพื่อชัยชนะ แต่พวกเขาแสวงหาหนทางของการภาวนาและพูดจากัน คนที่มีมุมมองต่างกันก็พูดจากับอีกฝ่ายหนึ่งและพวกเขาก็บรรลุข้อตกลงร่วมกัน นี่คือผลงานของพระจิตอย่างแท้จริง เป็นพระจิตที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความสามัคคีและนี่จึงเป็นเหตุผลที่คริสตชนที่เข้าร่วมการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มสามารถที่จะบรรลุการตัดสินใจขั้นสุดท้ายได้
"พระศาสนจักรที่ประชากรของตนเองชอบโต้เถียงกันเป็นประจำ มีการวิ่งเต้นหาพรรคหาพวก และคนในนั้นก็ทรยศหักหลังพี่น้องของตน คือพระศาสนจักรที่ไม่มีพระจิตประทับอยู่ เป็นพระจิตที่สร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างจุดเปลี่ยนที่จะก้าวไปข้างหน้า สร้างพื้นที่ใหม่ๆ ขึ้นมา สร้างปรีชาญาณที่พระเยซูทรงสัญญาไว้ว่า 'พระจิตจะสอนพวกท่าน' สิ่งนี้ทำให้สิ่งต่างก้าวไปข้างหน้า และยังสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างทุกคนด้วย
"บทอ่านในวันนี้สอนเราเกี่ยวกับการประชุมสังคายนาครั้งแรกที่กรุงเยรูซาเล็ม นี่คือบทสรุปเวลาที่พระจิตทรงทำให้ทุกฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ดังนั้น ขอให้เราวอนขอพระเยซูผู้ทรงประทับอยู่ท่ามกลางเรา ได้โปรดส่งพระจิตมาหาเรา สอนเราแต่ละคน ขอพระองค์โปรดส่งพระจิตมายังพระศาสนจักรด้วย" พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย
Read More: Vatican Radio
Comments
Post a Comment