โป๊ปฟรังซิส: "คริสตชนที่กลัวไปทุกเรื่องเวลาต้องทำสิ่งใดคือคริสตชนที่เจ็บป่วย"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ กลุ่มคริสตชนที่จะลงมือทำสิ่งใด ก็กลัวไปหมดจน คือกลุ่มคริสตชนที่เจ็บป่วย คนพวกนี้เลือกแต่จะอยู่ในมุมปลอดภัย ขอแค่ไม่ถูกต่อว่าก็พอ ทรงสอน เราต้องแยก "ความกลัว" กับ "ความยำเกรงพระเจ้า" ออกจากกัน เพราะความกลัวฉุดเราให้อยู่กับที่ แต่ความยำเกรงพระเจ้าคือการก้าวไปข้างหน้า ไปลงมือทำสิ่งต่างๆ ตามพันธกิจที่พระเจ้ามอบให้ ทรงย้ำ กลุ่มคริสตชนที่ไม่มีความชื่นชมยินดีในพระเจ้า แต่สนุกไปกับจิตตารมณ์ทางโลก ก็เป็นกลุ่มคริสตชนที่ป่วยเช่นกัน



ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก พระเจ้าตรัสกับเปาโลในนิมิตว่า "อย่ากลัว จงพูดต่อไป อย่าเงียบ เพราะเราอยู่กับท่าน ไม่มีใครกล้าทำร้ายท่าน เพราะหลายคนในเมืองนี้เป็นประชากรของเราไปแล้ว" ส่วนพระวรสาร พระเยซูตรัสว่า "ความเศร้าโศกของท่านจะเปลี่ยนเป็นความชื่นชมยินดี หญิงที่คลอดบุตรจะมีความทุกข์ แต่เมื่อคลอดแล้ว เธอจะเปี่ยมด้วยความยินดี เพราะมีมนุษย์คนหนึ่งเกิดมาในโลกนี้"

พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "ความกลัวคือทัศนคติที่ทำร้ายเรา มันทำให้เราอ่อนแอ มันบั่นทอนเรา มันทำให้เราเป็นอัมพาตเลยก็ว่าได้ คนที่กลัวก็ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าต้องทำสิ่งใด เขาจะจดจ้องแต่ตัวเอง เพื่อที่สิ่งร้ายๆ จะได้ไม่เกิดกับตน ความกลัวทำให้เราห่วงแต่ตัวเอง ทำให้เราเห็นแก่ตัว และทำให้เราขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ คริสตชนที่มีแต่ความกลัวคือคนที่ไม่เข้าใจสารของพระเยซู

"นี่คือสิ่งที่พระเยซูตรัสกับเปาโล 'จงอย่ากลัว จงพูดต่อไป' ความกลัวไม่ใช่ทัศนคติของคริสตชน แต่ความกลัวคือทัศนคติของสัตว์ที่อยู่ในกรง ถูกขังโดยไม่มีอิสรภาพ มันเป็นความกลัวที่ไม่มีอิสรภาพที่จะมองไปข้างหน้า ไม่มีอิสรภาพที่จะทำสิ่งต่างๆ ไม่มีอิสรภาพในการทำความดี ไม่มีเลย! ความกลัวคือความอันตราย ความกลัวทำลายทุกสิ่ง

"จงอย่ากลัว จงวอนขอพระหรรษทานแห่งความกล้าหาญของพระจิตที่พระเจ้าทรงส่งมาให้เรา ยังมีกลุ่มคริสตชนที่เปี่ยมด้วยความกลัว ซึ่งมุ่งไปแต่มุมปลอดภัย เวลาแนะนำให้ทำสิ่งใด ก็จะพูดว่า 'ไม่ เราจะไม่ทำแบบนั้น เรื่องแบบนั้นทำไม่ได้' มันดูเหมือนว่าพวกเขาเขียนแปะป้ายไว้บนประตูทางเข้าออกแล้วว่า 'ห้าม! (ทำสิ่งต่างๆ)' ทุกสิ่งคือสิ่งต้องห้ามไปหมดเพียงเพราะความกลัว เมื่อท่านเดินเข้าในกลุ่มคริสตชนเหล่านั้น อากาศในนั้นยังไม่ถ่ายเทเลย เพราะกลุ่มคริสตชนนั้นป่วยไข้ ความกลัวทำให้กลุ่มคริสตชนเจ็บป่วย การขาดความกล้าทำให้กลุ่มคริสตชนเจ็บป่วยจริงๆ

"ความกลัวต้องได้รับการแยกแยะออกจากความยำเกรงพระเจ้าซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความยำเกรงพระเจ้าคือคุณความดี แต่ความยำเกรงพระเจ้าไม่ทำให้เราอ่อนแอ ไม่ทำให้เราเป็นขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่มันจะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าด้วยพันธกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้เรา

"ส่วนอีกสิ่งที่พ่ออยากแบ่งปันในวันนี้คือความชื่นชมยินดี ไม่มีใครพรากความยินดีไปจากเราได้เหมือนที่พระเยซูสอนเราผ่านทางพระวรสารวันนี้ แม้ในช่วงเวลาทุกข์สุดๆ ของชีวิต ความชื่นชมยินดีก็ยังนำความสงบมาสู่จิตใจของเรา คริสตชนที่ไม่มีความชื้นชมยินดีในชีวิต เขาก็ไม่ใช่คริสตชน คริสตชนที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความเศร้าตลอดเวลา เขาก็ไม่ใช่คริสตชน

"ความชื่นชมยินดีตามแบบคริสตชนไม่ใช่ความสนุกสนานรื่นเริงแบบทั่วไป มันไม่ใช่ความสนุกแบบชั่วครั้งชั่วคราว แต่ความชื่นชมยินดีตามแบบคริสตชนคือพระพรจากพระจิต เรามีหัวใจที่ชื่นชมยินดีเพราะพระเจ้าทรงมีชัยชนะเหนือปีศาจ เป็นพระเยซูที่ประทับอยู่เบื้องขวาของพระบิดาและมองมาที่เรา และประทานพระหรรษทานให้เรา นี่คือความชื่นชมยินดีตามแบบคริสตชน และคริสตชนต้องดำเนินชีวิตอยู่ในความชื่นชมยินดี

"พ่อขอย้ำอีกครั้งว่า กลุ่มคริสตชนที่ไม่มีความชื่นชมยินดีคือกลุ่มคริสตชนที่เจ็บป่วย บางที พวกนี้อาจเป็นกลุ่มคริสตชนที่รักสนุก แต่เจ็บป่วยขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจิตตารมณ์ทางโลก เพราะมันไม่มีความชื่นชมยินดีของพระเยซูอยู่ในนั้น ดังนั้น เมื่อพระศาสนจักรมีแต่ความกลัวและไม่ได้รับความชื่นชมยินดีจากพระจิต พระศาสนจักรก็เจ็บป่วย กลุ่มคริสตชนก็เจ็บป่วย สัตบุรุษก็เจ็บป่วย ด้วยเหตุนี้ ขอให้เราวอนขอพระเจ้าโปรดประทานพระจิตให้กับเรา โปรดขจัดความกลัวออกจากจิตใจของเรา และโปรดประทานความชื่นชมยินดีและสันติสุขมาสู่จิตใจของเรา" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments