โป๊ปฟรังซิส: "ทุกวันนี้ พระศาสนจักรเต็มไปด้วยมรณสักขีที่ถูกฆ่าตายและมรณสักขีแบบเงียบๆ"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ ทุกวันนี้พระศาสนจักรเต็มไปด้วยมรณสักขีมากมายที่ถูกฆ่าตายในนามของพระเจ้า อาทิ คริสตชนที่ถูกกลุ่มไอซิสฆ่าตัดศีรษะ ผู้อพยพคริสตชนที่ถูกโยนลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หรือจะเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกเผาทั้งเป็นเพราะเป็นคริสตชน นอกจากนี้ ยังมี "มรณสักขีแบบเงียบๆ" ที่ถูกเบียดเบียนจากการถูกใส่ร้ายจาก "สภาซันเฮดรินรูปแบบใหม่" ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ครอบครองความจริงแต่เพียงผู้เดียว


ช่วงเช้าวันอังคารที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่ "นักบุญสตีเฟ่น" มรณสักขีองค์แรกของพระศาสนจักร ถูกประชาชนนำหินทุ่มจนเสียชีวิต

พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า "มรณสักขีไม่ต้องการขนมปังอื่นใด เพราะปังของพวกเขามีหนึ่งเดียวคือพระเยซู และสตีเฟ่นไม่มีความต้องการที่จะต่อรองหรือแสวงหาการโอนอ่อนให้กับคนที่นำเขาไปสู่ความตาย

"ผู้ที่เบียดเบียนเข่นฆ่าสตีเฟ่น ปิดหูตัวเอง(ต่อความจริงที่สตีเฟ่นกล่าวตำหนิพวกเขา) และกรูกันเข้าไปจะฆ่าเขา สิ่งนี้ก็เหมือนกับพระเยซู เพราะสตีเฟ่นต้องรับมือกับคนที่เป็นประจักษ์พยานจอมปลอมและเต็มไปด้วยความโกรธเคือง สตีเฟ่นเตือนใจพวกผู้อาวุโสและเตือนใจพวกธรรมาจารย์ว่า บรรพบุรุษของพวกเขาเคยเบียดเบียนข่มเหงประกาศกที่ประกาศพระวาจาของพระเจ้า เมื่อสตีเฟ่นเปี่ยมด้วยพระจิตและเพ่งมองท้องฟ้า เขาเห็นบุตรแห่งมนุษย์ประทับอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ประชาชนไม่ต้องการฟัง พวกเขาเอามืออุดหูตัวเองและวิ่งกรูกันเข้าไปเพื่อเอาหินทุ่มใส่สตีเฟ่น

"พระวาจาของพระเจ้าถูกปฏิเสธจากคนบางกลุ่มอยู่เสมอ พระวาจาของพระเจ้าคือความอึดอัดเมื่อเรามีใจหิน เมื่อเรามีหัวใจที่ไม่เชื่อพระเจ้า เพราะพระวาจาของพระเจ้าเรียกร้องท่านให้ก้าวไปข้างหน้า และเยียวยาความหิวของท่านด้วยปังที่พระเยซูทรงกล่าวถึง ในประวัติศาสตร์แห่งการเผยแสดงความรอด มรณสักขีมากมายได้ถูกฆ่าตายเพื่อยืนยันความเชื่อและศรัทธาภักดีต่อพระวาจาของพระเจ้าและความจริงของพระองค์

"การตายดุจมรณสักขีของสตีเฟ่นก็เหมือนกับพระเยซู กล่าวคือ ท่านตายด้วยจิตใจคริสตชนที่สูงส่งของการให้อภัยและสวดภาวนาให้ศัตรูของตน ขณะที่พวกที่เข่นฆ่าสตีเฟ่น ก็หลงเชื่อว่าตัวเองกำลังถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้า พวกเขาคิดว่าตนเองกำลังเป็นข้อความเชื่อที่แท้จริงของพระเจ้า

"วันนี้ พ่ออยากระลึกถึงประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของพระศาสนจักร นั่นคือ ประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยนักบุญและมรณสักขีจำนวนมาก มีคนมากมายที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงและถูกฆ่าตายด้วยคนที่คิดว่าตัวเองครอบครองความจริง หัวใจของคนพวกนี้ถูกโกงด้วยความจริง

"หลายวันที่ผ่านมา มีสตีเฟ่นกี่คนในโลกนี้ที่ถูกฆ่าตายในพระนามของพระเจ้า ขอให้เราคิดถึงพี่น้องของเราที่ถูกฆ่าตัดศีรษะที่ชายหาดในลิเบีย (พระสันตะปาปาหมายถึงคริสตชนที่ถูกกลุ่มไอซิสฆ่าตัดศีรษะ) ขอให้เราคิดถึงชายหนุ่มคนนั้นที่ถูกเผาทั้งเป็นเพียงเพราะเขาเป็นคริสตชน ขอให้เราคิดถึงผู้อพยพที่ถูกโยนลงจากเรือลงสู่ทะเล เพียงเพราะคนที่อพยพมาด้วยมองว่าเขาเป็นคริสตชน ขอให้เราคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานซืนที่กลุ่มคริสตชนเอธิโอเปียถูกฆ่า(จากกลุ่มไอซิส) เพียงเพราะเขาเป็นคริสตชน ยังมีอีกมากที่ถูกฆ่าตายแบบนี้ ยังมีคนอีกมากที่กำลังทนทุกข์อยู่ในเรือนจำ เพียงเพราะเขาเป็นคริสตชน พระศาสนจักรในวันนี้คือพระศาสนจักรแห่งมรณสักขี พวกเขาเหล่านั้นกำลังทนทุกข์ทรมาน พวกเขาได้ถวายการดำเนินชีวิตและพวกเขาก็ได้รับพระพรจากพระเจ้าผ่านทางการเป็นประจักษ์พยานของพวกเขาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีมรณสักขีแบบเงียบๆ อีกมากในโลกนี้ พวกเขาถูกมองด้วยความสงสัย ถูกใส่ร้าย และถูกเบียดเบียนข่มเหงจากสภาซันเฮดรินรูปแบบใหม่ ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ครอบครองความจริง" พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย


Comments