โป๊ปฟรังซิส: "ต้องประกาศพระวรสารแบบตรงไปตรงมา อย่าทำแบบโฆษณาชวนเชื่อ"

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ เวลาประกาศพระวรสาร ต้องประกาศแบบตรงไปตรงมา เปี่ยมด้วยความกล้าหาญ ไม่ใช่ประกาศพระวรสารแบบโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหาสมาชิกเพิ่มขึ้น ทรงสอน พระจิตจะทำให้เราประกาศพระวรสารอย่างกล้าหาญ ทรงชี้ นักบุญเปโตรและนักบุญจอห์น เป็นแบบอย่างในการประกาศพระวรสารด้วยความกล้า สองท่านนี้ไม่ได้เรียนสูงๆ แถมถูกจับเข้าคุกตอนประกาศพระวรสาร ทั้งสองไม่เคยกลัว แถมกล้ามากกว่าเดิมด้วยซ้ำเมื่อได้รับพระหรรษทานจากพระจิตในการประกาศพระวรสาร



ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านวันนี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็นเหตุการณ์ที่เปโตรและจอห์น เล่าเรื่องที่บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสกล่าวกับตนให้อัครสาวกคนอื่นๆ ฟัง ก่อนที่บรรดาอัครสาวกจะพร้อมใจกันเปล่งเสียงทูลพระเจ้า โปรดประทานให้พวกเขากล้าพูดอย่างอิสระเสรีและพูดอย่างเปิดเผยทุกอย่าง เมื่อพวกเขาทูลเสร็จ สถานที่ที่พวกเขามารวมตัวกันก็สั่นสะเทือน พวกเขาได้รับพระจิตอย่างเต็มเปี่ยมและออกไปประกาศพระนามของพระเจ้าด้วยความกล้าหาญ

พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านตอนนี้ว่า "เปโตรและจอห์นได้รักษาคนป่วย(ทำอัศจรรย์) พวกเขาถูกจับกุมตัว ถูกจำคุก และถูกข่มขู่จากพวกสมณะว่าไม่ให้พูดถึงพระนามของพระเยซู แต่พวกเขายังคงประกาศพระนามพระองค์ต่อไป และเมื่อพวกเขาถูกปล่อยตัวกลับไปหาบรรดาศิษย์คนอื่นๆ พวกเขาก็ให้กำลังใจกันในการประกาศพระวาจาของพระเจ้าอย่างตรงไปตรงมา พวกเขาวอนขอพระเจ้าโปรดทอดพระเนตรมายังคำขู่เหล่านั้น และทำให้บรรดาข้ารับใช้ของพระองค์ประกาศพระวาจาของพระเจ้าด้วยความกล้าหาญ

"ทุกวันนี้ก็เช่นกัน สารของพระศาสนจักรคือสารแห่งหนทางของการเปิดกว้าง หนทางของความกล้าหาญตามแบบฉบับคริสตชน ผู้เรียบง่ายทั้งสอง (เปโตรและจอห์น) ไม่ได้เรียนสูงๆ แต่พวกเขามีความกล้าหาญ คำที่สามารถแปลความหมายของคำว่ากล้าหาญ ก็เช่นคำว่า การพูดแบบไม่อ้อมค้อม การกล้าที่จะพูด การพูดแบบอิสระเสรี และอย่ากลัวที่จะพูดอะไรออกไป

"บนหนทางของพระเจ้า ผู้ที่มีบทบาทอย่างแท้จริงคือพระจิต เพราะพระจิตคือผู้เดียวที่สามารถประทานพระหรรษทานแห่งความกล้าหาญให้เราในการประกาศพระเยซูคริสต์ ความกล้าหาญในการประกาศพระนามของพระเยซูคือสิ่งที่แยกเราออกจากการเชิญชวนคนอื่นให้เปลี่ยนศาสนา พวกเราไม่ได้มาโฆษณาชวนเชื่อพระเยซู พวกเราไม่ได้มาโฆษณาเพื่อให้มีสมาชิกในสังคมฝ่ายจิตให้เพิ่มมากขึ้น ไม่! มันไม่ใช่อย่างนั้น ของแบบนี้ไม่ใช่เรื่องจำเป็น! มันไม่ใช่เรื่องเลย! การทำแบบนี้ไม่ใช่คริสตชน สิ่งที่คริสตชนต้องทำก็คือการประกาศ(พระนามของพระเยซู)ด้วยความกล้าหาญ ประกาศพระเยซูด้วยผลจากพระจิต ผู้ทรงเจิมเราและทำให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า

"พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสกับนิโคเดมัสว่า 'ไม่มีใครเข้าอาณาจักรสวรรค์ได้ ถ้าเขาไม่ได้เกิดใหม่' พระเยซูต้องการทำให้เราเข้าใจว่า การเกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิต(ในศีลล้างบาป) จะเปลี่ยนเราให้เป็นคนใหม่ พระจิตทรงเป็นเหมือนสายลม เราได้ยินเสียงของลม แต่เราไม่รู้ว่า ลมมาจากไหน และจะพัดไปไหนต่อ พระจิตก็เช่นกัน ดังนั้น มีเพียงพระจิตที่สามารถแปรเปลี่ยนทัศนคติของเรา เปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของเรา และเปลี่ยนความเป็นอยู่ของเรา

"พระจิตทรงประทานความกล้าให้กับเปโตรและจอห์น ชาย 2 คนที่ไร้การศึกษา แต่มีความกล้าอย่างเต็มเปี่ยมในการประกาศพระนามของพระเยซูจนวาระสุดท้ายของชีวิตที่จบลงด้วยการเป็นมรณสักขี เป็นประจักษ์พยานยืนยันถึงพระเจ้า หนทางแห่งความกล้าหาญตามแบบฉบับคริสตชนคือพระหรรษทานที่พระจิตมอบให้เรา

"หลังจากเทศกาลปาสกา พระศาสนจักรเตรียมตัวที่จะรับพระจิต ในการฉลองธรรมล้ำลึกแห่งการสิ้นพระชนม์และเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซูนี้ ขอให้เรารำลึกถึงประวัติศาสตร์แห่งความรอด และวอนขอพระหรรษทานในการรับพระจิตที่จะประทานความกล้าหาญให้เราในการประกาศพระนามของพระเยซูด้วย" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

Read More: Vatican Radio

Comments