โป๊ปฟรังซิสประกาศสมณโองการปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม - เปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ 8 ธ.ค. 2015

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงประกาศสมณโองการ "พระพักตร์แห่งความเมตตา" เพื่อใช้ในปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม ทรงแจ้งเรื่องการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิหารนักบุญเปโตร จะเปิดวันที่ 8 ธ.ค. 2015 ส่วนมหาวิหารเอกอีก 3 แห่งของกรุงโรม จะทำพิธีเปิดหลังจากวันที่ 8 ธันวาคมไปแล้ว พร้อมกันนี้ ทรงขอร้องให้ "ทุกสังฆมณฑล" เปิด "ประตูแห่งความเมตตาธรรม" (Door of Mercy) สำหรับการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์นี้ภายในสังฆมณฑลของตนด้วย





ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทำวัตรเย็นเตรียมจิตใจก่อนฉลองวันอาทิตย์พระเมตตา ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พร้อมกับประกาศสมณโองการ "ปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม" ณ ประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารนักบุญเปโตรด้วย โดยปีศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2015 - 20 พฤศจิกายน 2016

สมณโองการปียูบิลีแห่งเมตตาธรรม มีชื่อเรียกว่า "พระพักตร์แห่งความเมตตา" (Misericordiae Vultus) สมณโองการนี้มีความหนาทั้งหมด 28 หน้า พระสันตะปาปาทรงระบุในสมณโองการว่า "พระเยซูทรงเป็นพระพักตร์แห่งความเมตตาของพระบิดา ถ้อยคำนี้ได้รับบทสรุปอย่างครบถ้วนอยู่ในธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อคริสตชน"

ในสมณโองการดังกล่าว พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า "ปีศักดิ์สิทธิ์นี้จัดมาเพื่อให้คริสตชนดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความเมตตา ซึ่งพระเจ้าทรงมอบความเมตตานี้ให้เราทุกคน"

พระสันตะปาปายังทรงระบุอีกว่า ปียูบิลีแห่งเมตตาธรรมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันสมโภชแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล และยังเป็นวันครบรอบ 50 ปีของการปิดสังคายนาวาติกัน ที่ 2 ซึ่งเรียกร้องให้พระศาสนจักรประกาศพระวรสารด้วยวิธีใหม่ๆ ให้กับโลก และยังเรียกร้องให้พระเมตตาของพระเจ้าไปมอบให้ทุกคน

สำหรับประตูศักดิ์สิทธิ์ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน จะถูกเปิดออกอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคม 2015 ส่วนประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารเอกอีก 3 แห่งของกรุงโรม จะทำพิธีเปิดหลังจากวันที่ 8 ธันวาคมไปแล้ว (มหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม, มหาวิหารจอห์น ลาเตรัน และ มหาวิหารซานตา มารีอา มาจจอเร่) นอกจากนี้ เพื่อเป็นเครื่อหมายของความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระศาสนจักรทั่วโลก พระสันตะปาปาทรงขอร้องให้ "ทุกสังฆมณฑล" เปิด "ประตูแห่งความเมตตาธรรม" (Door of Mercy) สำหรับการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์นี้ภายในสังฆมณฑลของตนด้วย

สำหรับสมณโองการ "พระพักตร์แห่งความเมตตา" พระสันตะปาปาทรงระบุว่า ได้รับการประกาศโดยยึดหัวข้อหลัก 3 ประการ ได้แก่

หนึ่ง - พระเมตตาของพระเจ้า บทบาทของความเมตตาในชีวิตประชากรและของพระศาสนจักร จะต้องเป็นประจักษ์พยานต่อพระเมตตาของพระเจ้าในโลกนี้ ความเมตตาคือพื้นฐานของชีวิตพระศาสนจักร ความน่าเชื่อถือของพระศาสนจักรได้รับการมองเห็นผ่านทางการแสดงออกถึงความรักที่เมตตาและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้อื่น

พระสันตะปาปายังทรงย้ำอีกว่า คติพจน์ของปียูบิลีแห่งเมตตาธรรมก็คือ "จงเปี่ยมด้วยความเมตตาเหมือนพระบิดาผู้ทรงเมตตา ที่ใดก็ตามที่มีคริสตชน ทุกคนที่อยู่ที่นั่นควรจะได้พบกับความมั่งคั่งของเมตตาธรรม"

สอง - จงจาริกแสวงบุญประดุจแรงขับเคลื่อนให้กลับใจ พระสันตะปาปาทรงย้ำว่า "จงอย่าตัดสินหรือประณามคนอื่น แต่จงให้อภัยและเป็นผู้ให้ จงหลีกเลี่ยงการนินทา การอิจฉา และการริษยา แต่จงมีหัวใจที่เปิดรับทุกคนและนำการปลอบโยนไปมอบให้ผู้อื่น จงมีเมตตาและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับคนที่ดำเนินชีวิตอยู่ในภัยอันตราย"

พระสันตะปาปายังกล่าวถึงบรรดาพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปว่า "จงทำตนให้เป็นเครื่องหมายถึงความเมตตาของพระบิดา" ด้วย

สาม - พระสันตะปาปาทรงเรียกร้องความยุติธรรมและการกลับใจจากพวกองค์กรอาชญากรรมที่มีส่วนพัวพันกับการโกงและทำผิดกฏหมาย พระสันตะปาปาทรงหวังว่า พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตและกลับใจไปหาพระเมตตาของพระเจ้า

พระสันตะปาปายังกล่าวถึงศาสนายิวและอิสลามว่า ขอให้มองความเมตตานี้เป็นหนึ่งในเครื่องหมายล้ำค่าของพระเจ้า พระองค์หวังว่า ปียูบิลีแห่งเมตตาธรรมจะกระตุ้นให้พวกเราทั้ง 3 ศาสนา รวมถึงศาสนาอื่นๆ เปิดใจและเสวนาให้บังเกิดผลมากขึ้น เสวนาด้วยความรู้และความเข้าใจต่อกันให้ดียิ่งขึ้นไป

หลังจากการอ่านสมณโองการจบลง พระสันตะปาปาทรงมอบสำเนาของสมณโองการให้กับพระคาร์ดินัลที่เป็นอัครสงฆ์" (Archpriest) ของมหาวิหารเอกทั้ง 4 ในกรุงโรม และผู้แทนพระศาสนจักรทวีปต่างๆ โดยเอเชีย ผู้แทนรับมอบได้แก่ พระอัครสังฆราช ซาวิโอ ฮอน (ฮ่องกง) เลขาธิการสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน

ประมวลภาพ: การสวดทำวัตรเย็นเตรียมจิตใจก่อนฉลองวันอาทิตย์พระเมตตา

Read More: สมณโองการ "พระพักตร์แห่งความเมตตา" - ฉบับเต็มจากวาติกัน




Comments