โป๊ปฟรังซิส: "สังคมต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนบาปกลับใจ"
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงยอมรับ ความโหดร้ายอย่างหนึ่งของสังคมคือการไม่ยอมรับผู้ต้องขังที่พ้นการถูกจองจำแล้ว กระนั้น สังคมต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยคนบาปกลับใจ ตัวอย่างชัดเจนคือพระเยซูยังให้อภัยโจรกลับใจที่ถูกตรึงกางเขนข้างๆ พระองค์ โดยทรงกล่าวเรื่องนี้ ระหว่างการเสด็จเข้าไปในเรือนจำ เพื่อทานอาหารเที่ยงร่วมกับผู้ต้องขัง 120 คน
ช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จเข้าไปยังเรือนจำปอจโจ้เรอาเล่ เมืองนาโปลี เพื่อทานอาหารเที่ยงร่วมกับบรรดาผู้ต้องขัง 120 คน หลังจากนั้น พระสันตะปาปาทรงสนทนากับพวกเขาแบบทีละคนด้วย
หนึ่งในคำถามที่ผู้ต้องขังถามพระสันตะปาปาก็คือ "ผมจะทำอย่างไรที่จะรักษาความเชื่อในพระเจ้าได้ ในเมื่อในเรือนจำที่ผมอยู่นั้น มันมีการประจญล่อลวงเยอะมากๆ"
พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ใช่ พ่อเห็นด้วยว่ามันไม่ง่าย! แต่ลูกต้องอย่ากลัว ถ้าลูกหลงไปกับการประจญเมื่อไหร่ ลูกต้องรีบกลับมายืนจุดเดิมและก้าวต่อไปข้างหน้าทันที อย่าเสียเวลาไปกับการประจญล่อลวงเด็ดขาด พวกเราทุกคนเคยทำผิดพลาด บางครั้ง มันมีบางอย่างในชีวิตที่ยากจะยอมรับและยากเกินจะอธิบายว่ามันเกิดได้อย่างไร แต่พระเจ้าไม่เคยลืมลูกๆ ของพระองค์"
คำถามที่สอง ผู้ต้องขังอีกคนถามพระสันตะปาปาว่า "ผมจะทำอย่างไรดี ในเมื่อผู้ต้องขังที่พ้นคุกไปแล้ว มักจะถูกปฏิเสธจากสังคม สังคมไม่ค่อยยอมรับพวกเรา"
พระสันตะปาปาตอบว่า "นี่คือความโหดร้ายสุดๆ ของสังคมทุกวันนี้ก็ว่าได้ มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องให้ความรู้กับคนที่ใช้การตัดสินทางศีลธรรมต่อผู้ต้องขังที่พ้นช่วงเวลาที่ถูกจองจำไปแล้ว พ่ออยากยกตัวอย่างหนึ่งนะ คนบาปที่กลับใจนั่นคือโจรกลับใจที่ถูกตรึงกางเขนข้างพระเยซู พระองค์ตรัสกับเขาว่า 'วันนี้ เจ้าจะอยู่กับเราในอาณาจักรสวรรค์' นี่คือสิ่งที่สังคมต้องเรียนรู้ไว้ เมื่อพระเจ้าให้อภัย พระองค์ทรงให้อภัยบาปที่เราทำ" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
ช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส เสด็จเข้าไปยังเรือนจำปอจโจ้เรอาเล่ เมืองนาโปลี เพื่อทานอาหารเที่ยงร่วมกับบรรดาผู้ต้องขัง 120 คน หลังจากนั้น พระสันตะปาปาทรงสนทนากับพวกเขาแบบทีละคนด้วย
หนึ่งในคำถามที่ผู้ต้องขังถามพระสันตะปาปาก็คือ "ผมจะทำอย่างไรที่จะรักษาความเชื่อในพระเจ้าได้ ในเมื่อในเรือนจำที่ผมอยู่นั้น มันมีการประจญล่อลวงเยอะมากๆ"
พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "ใช่ พ่อเห็นด้วยว่ามันไม่ง่าย! แต่ลูกต้องอย่ากลัว ถ้าลูกหลงไปกับการประจญเมื่อไหร่ ลูกต้องรีบกลับมายืนจุดเดิมและก้าวต่อไปข้างหน้าทันที อย่าเสียเวลาไปกับการประจญล่อลวงเด็ดขาด พวกเราทุกคนเคยทำผิดพลาด บางครั้ง มันมีบางอย่างในชีวิตที่ยากจะยอมรับและยากเกินจะอธิบายว่ามันเกิดได้อย่างไร แต่พระเจ้าไม่เคยลืมลูกๆ ของพระองค์"
คำถามที่สอง ผู้ต้องขังอีกคนถามพระสันตะปาปาว่า "ผมจะทำอย่างไรดี ในเมื่อผู้ต้องขังที่พ้นคุกไปแล้ว มักจะถูกปฏิเสธจากสังคม สังคมไม่ค่อยยอมรับพวกเรา"
พระสันตะปาปาตอบว่า "นี่คือความโหดร้ายสุดๆ ของสังคมทุกวันนี้ก็ว่าได้ มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องให้ความรู้กับคนที่ใช้การตัดสินทางศีลธรรมต่อผู้ต้องขังที่พ้นช่วงเวลาที่ถูกจองจำไปแล้ว พ่ออยากยกตัวอย่างหนึ่งนะ คนบาปที่กลับใจนั่นคือโจรกลับใจที่ถูกตรึงกางเขนข้างพระเยซู พระองค์ตรัสกับเขาว่า 'วันนี้ เจ้าจะอยู่กับเราในอาณาจักรสวรรค์' นี่คือสิ่งที่สังคมต้องเรียนรู้ไว้ เมื่อพระเจ้าให้อภัย พระองค์ทรงให้อภัยบาปที่เราทำ" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
Comments
Post a Comment